ปศุสัตว์ฯแจงยกเลิกสัญญาเกษตรกรที่ขายควายบุญรอดโดยพลการแล้ว

กรมปศุสัตว์แจงควายบุญรอดถูกเกษตรกรโครงการธนาคารโค-กระบือฯนำไปเลี้ยงและขายไปโดยไม่แจ้ง เผยล่าสุดได้เลิกสัญญาเข้าร่วมโครงการ-ให้จ่ายเบี้ยปรับ 2 เท่าของมูลค่ากระบือแล้ว

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายสัตวแพทย์อภัย  สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Rapeepak Taratornpitak ได้โพสต์เรื่องราวการฝากเลี้ยงกระบือชื่อบุญรอดไว้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ และต่อมาไม่พบกระบือตัวดังกล่าวนั้น  กรมปศุสัตว์ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2559 นายรพีพัค ธราธรพิทักษ์ เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว อยู่ที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้บริจาคกระบือเพศเมียอายุประมาณ 4 ปี  จำนวน 1  ตัว มูลค่า 35,000 บาท เพื่อนำเข้าโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ และสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเขาค้อได้คัดเลือกเกษตรกรชื่อนายวรพล  แก้วแดง  อยู่ที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อนำไปเลี้ยงดู โดยได้ทำสัญญายืมเพื่อการผลิต เลขที่ พช 43/59

นายวรพล ให้การว่าได้นำกระบือตัวดังกล่าวไปเลี้ยงดูจริง  แต่ปรากฏว่ากระบือมีนิสัยไม่เชื่อง บังคับยากและไม่สามารถสืบพันธุ์ได้ โดยเจ้าหน้าที่ผสมเทียมตรวจสอบแล้ว พบว่าระบบสืบพันธุ์ไม่สมบูรณ์ และได้รายงานให้ปศุสัตว์อำเภอเขาค้อทราบ

ต่อมา นายวรพลได้ขายกระบือตัวดังกล่าวในราคา 35,000 บาท และนำเงินที่ได้ไปซื้อกระบือตัวใหม่ เป็นกระบือแม่และลูก จำนวน 2 ตัว  ราคา 37,000 บาท โดยเพิ่มเงินอีก 2,000 บาท  ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่ได้แจ้งให้ปศุสัตว์อำเภอเขาค้อทราบ 

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ตามระเบียบกรมปศุสัตว์ว่าด้วยการดำเนินการโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร  ตามพระราชดำริ พ.ศ. 2556  มีเงื่อนไข หากเกษตรกรผู้ยืมทำสัญญายืมแม่โคหรือแม่กระบือไป  3  ปีแล้ว  ไม่มีลูกโคหรือลูกกระบือ  ทางธนาคารจะถอนการให้ยืมและเกษตรกรผู้ยืมจะต้องนำแม่โคหรือแม่กระบือที่ยืมดังกล่าวนั้นส่งคืนธนาคารเพื่อให้ปศุสัตว์จังหวัดนำไปให้บริการแก่เกษตรกรรายอื่นยืมต่อไป เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นความบกพร่องทางระบบสืบพันธุ์ของแม่โคหรือแม่กระบือ  ไม่ใช่เป็นความบกพร่องที่เกิดจากเกษตรกรผู้ยืม  ให้ทดแทนแม่โคหรือแม่กระบือให้เกษตรกรผู้นั้น และทำสัญญาใหม่ ซึ่งตามสัญญา หากผู้ยืมไม่ปฏิบัติตามสัญญานี้ไม่ว่าข้อหนึ่งข้อใด ผู้ให้ยืมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทันทีโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อน  และผู้ยืมจะต้องเสียเบี้ยปรับในอัตรา 2 เท่า ของมูลค่าโค-กระบือ ที่ยืมตามสัญญานี้

ดังนั้น เมื่อกรมปศุสัตว์ พิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีที่นายวรพล ได้ขายกระบือโดยพลการไม่ได้แจ้งกรมปศุสัตว์ทราบ ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ผสมเทียมตรวจสอบแล้วพบระบบสืบพันธุ์ไม่สมบูรณ์ก็ตาม นายวรพลก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะนำกระบือตัวดังกล่าวไปจำหน่าย ดังนั้น การกระทำดังกล่าวถือว่าไม่ปฏิบัติตามระเบียบและเงื่อนไขของโครงการฯ  โดยจะอ้างว่าไม่ทราบระเบียบและเงื่อนไขของโครงการนั้นไม่ได้  เนื่องจากเกษตรกรที่รับมอบสัตว์จากโครงการ ต้องทำสัญญายืมเพื่อการผลิต โดยสัญญาได้ชี้แจงข้อปฏิบัติไว้ชัดเจน

กรมปศุสัตว์จึงดำเนินการตามความในสัญญายืมโค-กระบือเพื่อการผลิตโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ  ข้อ 11. คือ บอกเลิกสัญญาทันทีโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อน และผู้ยืมจะต้องเสียเบี้ยปรับในอัตรา 2 เท่า ของมูลค่าโค-กระบือที่ยืมตามสัญญา 

สำหรับประเด็นที่ปศุสัตว์อำเภอเขาค้อพูดว่า ให้นำเงินไปซื้อเจ้าบุญรอดคืน เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบของปศุสัตว์อำเภอเขาค้อ ซึ่งได้มีการกล่าวขอโทษนายรพีภัค ต่อหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เขาค้อ ซึ่งนายรพีภัคได้ยกโทษในกรณีนี้ให้แล้ว กรมปศุสัตว์จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้สาธารณชนได้รับทราบ

ขณะที่สมาชิกเฟซบุ๊ก Rapeepak Taratornpitak ได้โพสต์ข้อความขอให้ผู้ที่ซื้อควายบุญรอดไปไว้ชีวิตบุญรอดและนำมาคืนหรือจะให้ซื้อคืนก็ยอม

"#ขออ้อนวอนท่านที่ได้ซื้อเจ้าบุญรอดไปขอท่านจงมีเมตานำมาคืนหรือจะให้ซื้อคืนผมก็ยอมครับได้โปรดไว้ชีวิตเจ้าบุญรอดด้วย #ขอให้ทุกท่านที่เห็นโพสนี้ช่วยกันแชร์ไปเผื่อคนที่ซื้อเจ้าบุญรอดไปเขาจะมีเมตตาไว้ชีวิตเจ้าบุญรอด"สมาชิกเฟซบุ๊กรายนี้ระบุ