ฟันแพ่ง-อาญาคดีไม้ล้ม

ผบช.น.สั่งหาคนรับผิดชอบคดีต้นไม้ล้มทับคนเสียชีวิต สาวถึงใครต้องเจอคดีทั้งแพ่ง-อาญา ย้ำไม่ต้องการให้เกิดอีก

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า สั่งการให้พนักงานสอบสวนตรวจรายละเอียดคดีเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มพาดกับเสาไฟฟ้าจนหักโค่นบริเวณหน้าอาคาร อัลม่า ลิงค์ ย่านชิดลม กรุงเทพมหานคร จนเป็น เหตุให้ทับ น.ส.ณัชชาพัชร์ สมเจษ เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีก 2 คน เบื้องต้นจะต้องหาผู้รับผิดชอบคดี ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง เพราะประชาชนจะต้องมีความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม หากพบว่าเชื่อมโยงไปถึงใครที่ต้องรับผิดชอบจะแจ้งข้อหา และขอศาลอนุมัติหมายจับ

"กำลังพิจารณาว่ามีความผิดฐานประมาทเลินเล่อหรือไม่ ซึ่งจะพยายามเร่งออกหมายจับให้ได้เร็วที่สุด ส่วนการสอบพยานได้สอบผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปากแล้ว เพื่อทราบพฤติการณ์และหาสาเหตุที่แท้จริง" พล.ต.ท. ศานิตย์ กล่าว

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า การสั่งให้ตรวจสอบคดีเพื่อต้องการส่งสัญญาณเพื่อให้ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลต้องกระตือรือร้น และไม่ต้องการให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นมาอีก นอกจากนี้ ในส่วนกรณีที่มีการอ้างเรื่องเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ เป็นเพียงเหตุผลหนึ่ง ที่ประกอบข้อเท็จจริงเท่านั้น ยังจะ ต้องตรวจสอบในเรื่องพยานหลักฐานด้วย ว่าเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากสิ่งใดเป็นสำคัญ

นายประลอง ดำรงค์ไทย ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า กรมป่าไม้ทำหนังสือไปยังทุกจังหวัดให้เร่งตรวจสอบต้นไม้ใหญ่ขนาดใหญ่ตั้งแต่ 1 คนโอบ หรือเส้นวงรอบ 200 เซนติเมตรขึ้นไป ว่าแต่ละพื้นที่มีต้นไม้เสี่ยงโค่นล้มหรือไม่ โดยเฉพาะบริเวณที่ประชาชนสัญจรไปมาเพื่อป้องกันการหักโค่น และควรประชาสัมพันธ์ประชาชนในพื้นที่ให้รับทราบด้วย

ทั้งนี้ หากมีการสำรวจขนาดและได้จำนวนต้นไม้ที่มีความเสี่ยงทั้งหมดแล้ว กรมป่าไม้จะได้เข้าไปช่วยแก้ไข ปรับสมดุลหรือฟื้นฟูต้นไม้ที่มีปัญหาต่อไป

นายประลอง กล่าวว่า ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง จะต้องให้เจ้าหน้าที่ปรับสมดุลของระบบเรือนยอดกับระบบราก จากนั้นจะต้องตรวจสอบว่าดิน อมน้ำมากเกินไปหรือไม่ หากอมน้ำมากต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะถึงแม้ต้นไม้ปลูกด้วยกล้าไม้ มีรากแก้ว แต่หากระบบดินและน้ำมีปัญหาก็อาจทำให้รากเน่าและโค่นล้มได้