posttoday

เปิดรายงานความเหลื่อมล้ำในไทยคนรวย-จนห่างกัน35เท่า

09 กุมภาพันธ์ 2560

"อ็อกแฟม"เปิดรายงานความเหลื่อมล้ำในไทย พบคนรวยที่สุด 10% เป็นเจ้าของทรัพย์สิน 79% ของประเทศ

"อ็อกแฟม"เปิดรายงานความเหลื่อมล้ำในไทย  พบคนรวยที่สุด 10% เป็นเจ้าของทรัพย์สิน 79% ของประเทศ 
 
ที่สยามสมาคม กรุงเทพฯ องค์การอ็อกแฟม (Oxfam) ประเทศไทย ได้จัดกิจกรรม “เท่าไหร่ (ถึง) เท่ากัน?” โดยมี การเปิดเผย “รายงานเบื้องต้นว่าด้วยความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย” พร้อมเสวนาในหัวข้อ  ‘เท่าไหร่ (ถึง) เท่ากัน’  โดยมีการเชิญหลายภาคส่วนมา ร่วมแลกแปลี่ยนความคิดเห็น
 
นายจักรชัย โฉมทองดี ผู้ประสานงานด้านนโยบายและรณรงค์ องค์การอ็อกแฟม (Oxfam)เผยว่า ความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ไม่จำกัดเพียงแค่ด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่รวมถึงภาคส่วนอื่นๆ ของสังคม อาทิ วิถีชีวิต การศึกษา สวัสดิการด้านสุขภาพ ซึ่งการแก้ปัญหาความเหลือมล้ำ จะต้องแก้ในทุกภาคส่วนพร้อมกัน โดย เริ่มจากการปฏิรูปในภาคเอกชนในการประกอบธุรกิจให้เป็นธรรม ควบคู่ไปกับการผลักดันมาตรการลดความเหลื่อมล้ำจากภาครัฐ
   
สำหรับ  รายงานเบื้องต้นว่าด้วยความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ซึ่งอ็อกแฟมประเทศไทยได้จัดทำและรวบรวมข้อมูลสถิติต่างๆ ตั้งแต่แต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2559 พบว่ารายได้ 1 ปีของคนรวยที่สุดในไทย สามารถนำมาใช้ลดความยากจนของคนทั้งประเทศได้  โดยคนรวยที่สุด 10% แรกมีรายได้มากกว่าคนที่จนที่สุด 10% สุดท้ายถึง 35 เท่า
 
"ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา เศรษฐีระดับพันล้านของไทยเพิ่มขึ้นเป็น 28 คน จาก 5 คน และทั้งหมดมีทรัพย์สินรวมกันถึง 9,142,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ประชากรของไทย 7 ล้านคนยังอยู่ใต้เส้นความยากจน นอกจากนี้ยังพบว่าคนรวยที่สุด 10% เป็นเจ้าของทรัพย์สิน 79% ของประเทศ และ 5 ปีที่ผ่านมาคนรวยที่สุด 1% เป็นเจ้าของความมั่งคั่งมากกว่าคนที่เหลือทั้งประเทศรวมกัน" รายงานระบุ
 
นอกจากนี้ ดัชนีชี้วัดความมุ่งมั่นต่อการลดความเหลื่อมล้ำไทยอยู่ในลำดับที่ 122 จาก 155 ประเทศ คนงานนอกระบบ 25 ล้านคน หรือ 64% ของแรงงานทั้งหมดไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันสังคม สิทธิด้านสหภาพแรงงานในไทย ยังห่างไกลจากมาตรฐานสากล คนทำงานในเมืองได้ค่าจ้างที่สูงกว่าคนทำงานนอกเมือง เกษตรกร 2.2 ล้านคนมีปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน โดย 40% ไม่มีที่ดินทำกินของตัวเอง และ 37% ไม่มีโฉนดที่ดิน ที่เหลือที่ดินไม่พอทำกิน
  
นางนุชนารถ แท่นทอง ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค กล่าวว่า  การเป็นคนยากจนที่อยู่ในเมือง มักถูกตัดสินในแง่ลบ จากคนอื่นเสมอ โดยเฉพาะเมื่อใช้ชีวิตในสลัม ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีใครไม่อยากได้โอกาสในชีวิต แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่โอกาสจะมาถึงคนจนโดยเฉพาะในแง่ของการศึกษาซึ่งจะช่วยยกระดับชีวิตของคนได้จริงๆ นอกจากนี้เมื่อเอ่ยถึงประเด็นความเหลื่อมล้ำ มีเรื่องหนึ่งที่ตนเป็นกังวลมากคือเรื่องที่อยู่อาศัย และที่ทำกินของคนจน
   
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  อดีตรมว.คมนาคม กล่าวว่า หน้าที่ของภาครัฐมี 2 ส่วนสำคัญ  1. คือสร้างความเจริญให้ประเทศ 2.นำความเจริญนั้นมากระจายให้คนส่วนใหญ่ของประเทศ  ที่ผ่านมาเราเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในแง่ของ GDP แต่ไม่ได้ดูรายได้ประชาชน ซึ่งรัฐจะต้องกระจายโอกาสเพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้กับคนในประเทศ ดังนั้นต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้  ต้องเห็นความสำคัญของชีวิตคนอื่นด้วยว่า มีความสำคัญไม่ต่างจากเรา  ความชินชากับความเหลื่อมล้ำที่เจอเป็นเรื่องที่อันตราย ซึ่งคงต้องฝากความหวังไว้ที่คนรุ่นใหม่