"ศานิตย์"ให้กำลังใจ"จ.ส.ต."บุคคโล"-ผกก.จ่อเอาผิดมือโพสต์

รรท.ผบช.น. ให้กำลังใจ"จ.ส.ต."หลังมีคลิปเถียงผู้โดยสาร แนะต้องใจเย็น จ่อแจ้งข้อหามือโพสต์หากพบผิดพ.ร.บ.คอมฯ

จากกรณีที่มีสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ "Chutlma Trakrudnac" ได้เผยเเพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งกำลังจับกุมคนขับแท็กซี่ป้ายแดง พร้อมกล่าวกับคนขับแท็กซี่ว่า "ให้เลือกว่าจะเอาใบเสร็จ หรือเอาใบสั่ง" พร้อมกับนับตัวเลข เพื่อให้โชเฟอร์ด่วนตัดสินใจ ก่อนที่ผู้โดยสารที่นั่งอยู่เบาะท้ายจะถามตำรวจไปว่า จะให้จ่ายสดเลยใช่หรือไม่ และจะเปลี่ยนข้อหาจากที่ว่า เอารถผิดประเภทมาวิ่ง เป็นข้อหาเป็นแต่งตัวผิดประเภทใช่หรือไม่ แต่ตำรวจกลับถามกลับมาว่า ถ่ายคลิปทำไมและจะแย่งโทรศัพท์มือถือไป จึงมีคำสั่งจากพ.ต.อ. จิณวัตร ก้อนทองดี ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลบุคคโล ให้ตำรวจคนที่อยู่ในคลิปหยุดปฏิบัติงานด้านจราจร และให้มาปฏิบัติงานฝ่ายธุรการแทนก่อน 

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 พ.ค. พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยพ.ต.อ. วิศาล พันธุ์มณี รองผู้บัญชาการกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 เดินทางมายังสน.บุคคโล เพื่อให้กำลังใจกับ จ.ส.ต. สุธาธร สุขเกษม ผบ.หมู่ จร.สน.บุคคโล ซึ่งตกเป็นข่าวจากคลิปโต้เถียงกับผู้โดยสาร ขณะตั้งด่านกวดขันวินัยการจราจรบริเวณปากซอยเจริญนคร 70 จนโด่งดังในโลกโซเชียล โดย พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวให้กำลังใจกับตำรวจว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของแผ่นดินจึงต้องทำงานเพื่อแผ่นดิน ควรพูดคุยกับประชาชนด้วยความใจเย็น อะไรที่ประชาชนไม่ทราบก็แจ้งให้ประชาชนเข้าใจ ไม่ใช่พูดจาไม่ดีกับประชาชน การตรงไปตรงมาในการปฏิบัติหน้าที่ดีอยู่แล้ว และให้ จ.ส.ต. สุธาธร สุขเกษม ไปปฏิบัติหน้าที่ตำรวจจราจรเหมือนเดิม

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา  พ.ต.อ.จิณวัตร ก้อนทองดี ผกก.สน.บุคคโล เปิดเผยว่า ช่วงเย็น น.ส.ศศิธร สีทองไชย อายุ 37 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ส่วนบุคคลสีเขียวเหลือง ทะเบียน(ป้ายแดง) อ-5730 กทม. ซึ่งเป็นแท็กซี่ที่ปรากฏในคลิป ได้มาให้ปากคำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ น.ส.ศศิธร ระบุว่า ได้รับผู้โดยสารเป็นหญิง อายุ ประมาณ 30 ปี ว่าจ้างจากซอยเจริญนคร 78 ให้ไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ย่านพระราม 3 เมื่อมาถึงบริเวณปากซอยเจริญนคร 70 ได้พบกับ จ.ส.ต.สุธาธร สุขเกษม ผบ.หมู่ จร.สน.บุคคโล ร่วมกับเจ้าหน้าที่งานจราจรตั้งจุดกวดขันวินัยจราจรอยู่

โดย จ.ส.ต.สุธาธร เรียกให้ น.ส.ศศิธร หยุดรถ เพราะเห็นว่าใช้รถทะเบียนป้ายแดงรับผู้โดยสารถือว่าผิดประเภท ก่อนจะขอตรวจสอบใบขับขี่ ซึ่ง น.ส.ศศิธร ยอมรับไปว่า ไม่มีใบขับขี่เพราะถูกออกใบสั่งของเจ้าหน้าที่จราจร สน.ทางด่วน 1 เมื่อวันที่ 27 เม.ย.59 ในข้อหา "ไม่ใช้แผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการ" ทาง จ.ส.ต.สุธาธร จึงอำนวยการบอกให้ น.ส.ศศิธร ไปชำระค่าปรับกับเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับที่มาอำนวยความสะดวก บริเวณจุดกวดวินัยจราจรได้ เพราะเห็นว่ามีใบสั่งอยู่แล้ว และหลังจากชำระค่าปรับแล้วเสร็จ ก็ให้นำใบเสร็จรับเงินมาแสดง โดยให้ไปต่อเพื่อจะได้ไม่เสียเวลา

พ.ต.อ.จิณวัตร กล่าวอีกว่า แต่ระหว่างที่ตำรวจคุยกับคนขับแท็กซี่ทางผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในรถ ได้พูดสวนทำนองไม่เข้าใจว่าจะให้ชำระเป็นเงินสด ซึ่ง จ.ส.ต.สุธาธร ก็พยายามอธิบายให้ฟังจนมีการโต้เถียงตามที่ปรากฏในคลิป จนกระทั่ง น.ส.ศศิธร แจ้งว่าไม่สามารถชำระค่าปรับได้ เพราะไม่มีเงินทาง จ.ส.ต.สุธาธร จึงแจ้งข้อหา "นำรถไม่จดทะเบียนมาใช้ในการรับจ้าง" โดยออกเป็นใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร ก่อนจะแยกย้ายกันไป

หลังเกิดเรื่อง ได้ออกคำสั่งให้ จ.ส.ต.สุธาธร พักงานด้านการจราจร ไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยงานด้านธุรการ สน.บุคคโล เป็นการชั่วคราว และให้ทำใบรายงานต่อผู้บังคับบัญชาว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร จากนี้จะได้เรียกตัวเจ้าของเฟซบุ๊กที่โพสต์ข้อความและคลิปภาพมาสอบปากคำว่า มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ถ้าหากเข้าข่ายดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่มีเจตนาดูหมิ่นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พร้อมจะให้อภัย แต่ต้องขอให้ขอโทษเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นแบบอย่างกับผู้อื่นว่า หากคิดจะโพสต์อะไรก็ขอคิดให้รอบคอบหากปรากฏมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายก็จะแจ้งข้อหาต่อไป ซึ่งข้อหานี้มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ