หลายฝ่ายเข้าช่วยเหลือ "น้องดา" นักศึกษาสาวม้งให้ได้กลับไปเรียนต่อ

หลายภาคส่วนเข้าช่วยเหลือ "น้องดา" นักศึกษาไทยเชื้อสายม้งให้ได้เรียนต่อ หลังต้องเลิกเรียนกลางคันเนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าไปที่บ้านเลขที่ 106 บ้านประชาภักดี หมู่ 13 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา เพื่อติดตามหานักศึกษาสาวชาวไทยเชื้อสายม้งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มรท.)ธัญบุรี ที่กำลังประสบปัญหาเรื่องทุนการศึกษา โดยพบว่า น.ส.ธมลวรรณ แซ่ว่าง ได้กลับมาบ้านช่วงที่เรียนเสร็จแล้วและเป็นเทศกาลปีใหม่ม้งพอดี เธอจึงกลับมาบ้านเพื่อเยี่ยมแม่ และปรึกษากับพี่ชาย น้องสาว เรื่องการเรียนต่อ รวมทั้งได้มีเจ้าหน้าที่จาก ศูนย์พัฒนาชาวเขาจังหวัดพะเยา บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยา และ องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ร่มเย็น มาร่วมพูดคุยเพื่อให้การช่วยเหลือ

นางซ้ง แซ่ว่าง อายุ 46 ปี มารดาของ น.ส.ธมลวรรณ กล่าวว่า มีลูกทั้งหมด 9 คน ผู้ชาย 3 คน ผู้หญิง 6 คน น้องดาเป็นคนที่ 6 ตนไม่รู้หนังสือจึงอยากให้ลูกๆ ทุกคนมีโอกาสเรียนให้มากที่สุด เรื่องของลูกสาวจะตัดสินใจพักการเรียนนั้น เนื่องจากตนไม่มีกำลังที่จะส่งเสียให้เรียน เพราะน้องๆ ของน้องดาอีก 3 คน กำลังเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ตนไม่สามารถแบกรับภาระได้ แต่ใจอยากให้ลูกเรียนจนจบ ลูกสาวคนนี้ตั้งใจเรียนดีมาตลอด ไม่อยากให้ลูกเสียใจ อยากให้ได้เรียนต่อจนจบ หากมีผู้ใจบุญให้การอุปถัมภ์จะเป็นพระคุณต่อครอบครัวของตนอย่างมาก 

ด้าน น.ส.ธมลวรรณ กล่าวว่า สงสารแม่ที่ต้องทำงานหนักเลี้ยงลูกหลายคน น้องสาวอยากเรียนพยาบาล ถ้าน้องสอบได้ครอบครัวก็ต้องใช้เงินส่งน้องเรียน ดังนั้นจึงคิดและตัดสินใจด้วยตนเองก่อนหน้านั้นว่า จะเสียสละให้น้องสาวได้เรียนตามที่ฝัน โดยออกจากการเรียนมาทำงานส่งน้องสาวเรียน ซึ่งอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยและเพื่อนๆ ไม่เห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว แต่ด้วยภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัวทุกเดือนมีรายจ่ายเดือนละประมาณ 5,000-6,000 บาท ส่วนค่าหน่วยกิตภาคเรียนละ 16,000 บาท ได้กู้ กยศ.มา รายจ่ายแต่ละเดือนไม่แน่นอนหากช่วงไหนที่มีเรียนหนักและมีโครงงานก็จะใช้เงินมากขึ้น เพราะอยากช่วยแม่ดูแลน้อง น้องสาวอยากเรียนพยาบาลมากและหวังว่าจะสอบเรียนต่อได้ จึงคิดเสียสละในครั้งนี้

"ความฝันเมื่อเรียนจบมาแล้วจะมาช่วยพัฒนาท้องถิ่นซึ่งเป็นบ้านเกิด โดยเฉพาะเรื่องผ้าจากภูมิปัญญาชนเผ่าม้ง ทั้งลายปัก การเขียนลายเทียน ทุกวันนี้ก็ยังปักเป็น แม่ปักและเขียนลายได้ ของเหล่านี้มีคุณค่าทุกยุคสมัย เมื่อมีคนสนับสนุนและผู้ใหญ่ใจดีให้โอกาส หลังจากนี้จะกลับไปมหาวิทยาลัยฯ เพื่อกลับไปเรียนต่อค่ะ"น.ส.ธมลวรรณ กล่าว

ด้านน.ส.ชุติกาญจน์ พวงจิตร ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาชาวเขาจังหวัดพะเยา กล่าวว่า เบื้องต้นสำนักงานในสังกัดกรมพัฒนาสังคมฯ นำเงินสงเคราะห์ครอบครัวพร้อมเสื้อผ้ากันหนาวมามอบให้ และมีแนวทางที่จะให้ความช่วยเหลือน้องดาและครอบครัวได้หลายทาง แต่สำหรับน้องดาคงจะต้องตัดสินใจในอนาคตเรื่องการศึกษาว่าจะเลือกแนวทางใด โดยนโยบายของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จะช่วยได้ด้านเงินสงเคราะห์ครอบครัวปีละ 1 ครั้ง เรื่องการเรียนของน้องดา ขณะนี้ได้ให้ทางเลือก คือ 1.หากไม่สะดวกที่จะเรียนต่อในสถาบันเดิม ก็สามารถเลือกที่จะย้ายมาเรียนต่อในสถาบันอุดมศึกษาใกล้บ้านและเลือกสาขาที่ชอบ 2.หากเรียนต่อที่เดิมทางศูนย์ฯ จะช่วยเลือกหาที่พักใกล้กับที่เรียนและงานที่จะสามารถทำได้หลังเลิกเรียน และขณะนี้ทราบว่าเครือข่ายจิตอาสาใน จ.พะเยา กำลังช่วยกันระดมทุนเพื่อช่วยเหลือน้องดาอีกทางหนึ่ง ด้วย