posttoday

เยาวชนบุกสธ.จี้ถามกฏหมายคุมร้านเหล้า

17 ตุลาคม 2557

เครือข่ายเยาวชนฯ บุกสธ. ทวงความคืบหน้าคลอดมาตรการคุมเหล้าปั่น-จัดโซนนิ่งรอบสถานศึกษารัศมี300เมตร

เครือข่ายเยาวชนฯ บุกสธ. ทวงความคืบหน้าคลอดมาตรการคุมเหล้าปั่น-จัดโซนนิ่งรอบสถานศึกษารัศมี300เมตร

วันนี้(17ตุลาคม 2557) ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเวลา10.00 น. นายธีรภัทร์ คหะวงศ์  ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ พร้อมด้วย สมาชิกเครือข่าย จากหลายสถาบัน อาทิ วิทยาลัยราชพฤก ม.รามคำแหง โรงเรียนวัดมกุฏกษัตริยาราม กว่า30 คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึง ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข เพื่อทวงถามความคืบหน้าการออกมาตรการควบคุมเหล้าปั่นและจัดระเบียบร้านเหล้ารอบสถานศึกษาเพื่อลดปัญหาผลกระทบต่อเด็กเยาวชน ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่14ตุลาคม ที่ผ่านมา

นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เครือข่ายเยาชนฯ เคยยื่นหนังสือร้องเรียนต่อรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ทุกรัฐบาลเป็นเวลานานกว่า6ปี ให้ควบคุมร้านเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ที่หนาแน่นและขยายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในรัศมี500เมตร จะมีร้านเหล้ารอบสถานศึกษาเฉลี่ย57 ร้านต่อหนึ่งตารางกิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันมีร้านเหล้าที่มีใบอนุญาตและไม่มีใบอนุญาตเกิดขึ้นจำนวนมากรอบสถานศึกษา โดยเฉพาะผับบาร์ แทบทุกร้านมีการจัดโปรโมชั่นเรียกลูกค้า ที่เป็นนิสิตนักศึกษ ส่งผลให้เกิดนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากสถิติแต่ละปีมีนักดื่มหน้าใหม่เกิดขึ้นมากกว่า 2.5 แสนคน สอดคล้องกับข้อมูลที่เครือข่ายฯลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นนักศึกษาที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า เพราะเข้าถึงง่าย ร้านเหล้าอยู่ใกล้หอพักและใกล้สถานศึกษา ส่วนค่าใช้จ่ายในการดื่มแต่ละครั้งเกิน1,000บาท ซึ่งมาจากเงินที่ทางบ้านส่งให้ สภาพแวดล้อมเหล่านี้จึงเป็นการมอมเมาเยาวชนนำไปสู่การทะเลาะวิวาท เสียการเรียน เสียงดังรบกวน เสียสุขภาพ ถูกคุกคามทางเพศ และอาชญากรรม หวังว่าท่านรัฐมนตรีสธ.คงเห็นความสำคัญ ไม่ปล่อยให้สมองของลูกหลานไทยถูกทำลายไปมากกว่านี้ เพราะปัจจุบัน IQเด็กไทยก็ต่ำกว่ามาตรฐานสากลอยู่แล้ว          

“วันนี้ต้องการมาติดตามความคืบหน้า ว่ากระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนินการควบคุมปัญหาเหล่านี้อย่างไร และปัจจุบันร่างกฎหมายอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว เราพยายามผลักดันการจัดโซนนิ่งร้านเหล้ารอบสถานศึกษามาโดยตลอดแต่จนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นความชัดเจนในการออกเป็นกฎหมายเพื่อบังคับใช้  ทั้งที่สามารถออกได้ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ซึ่งในอดีตฝ่ายการเมืองแทบทุกรัฐบาลไม่กล้าตัดสินใจต่อปัญหาที่กระทบต่อลูกหลายอนาคตของชาติ เข้าใจว่ากระทรวงสาธารณสุขมีความพยายามอย่างเต็มที่ แต่ถ้าฝ่ายการเมือง นายกรัฐมนตรี ในช่วงที่ผ่านมาไม่เอาด้วยก็เดินต่อไปยาก  ตรงนี้ก็ขอให้กำลังใจกระทรวงสาธารณะสุขด้วย” นายธีรภัทร์ กล่าว

ด้านนายปรากฎการณ์  วัฒนสาร เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กล่าวว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรีล่าสุดที่ให้ควบคุมปัญหาเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษาอย่างจริงจัง รวมถึงนายกรัฐมนตรีได้พูดในรายการคืนความสุขให้คนในชาติอย่างต่อเนื่อง ทำให้เครือข่ายเยาวชนฯ เริ่มมีความหวังว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมองเห็นปัญหา และต้องการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นเพื่อขานรับแนวทางของคณะรัฐมนตรี จึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเรียกร้องต่อ กระทรวงสาธารณสุขดังนี้

1.เครือข่ายขอให้กำลังใจและสนับสนุนการทำงานควบคุมปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของกระทรวงสาธารณะสุข และยินดีร่วมเฝ้าระวังสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย
2.เครือข่ายฯขอทราบความคืบหน้าการออกอนุบัญญัติ ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษาในรัศมี300เมตร ตามอำนาจพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการห้ามขายเหล้าปั่น เพื่อจำกัดการเข้าถึง ลดการมอมเมา และลดจำนวนนักดื่มหน้าใหม่
3.ขอให้เชิญผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ทุกแบรนด์ ที่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้มารับทราบข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และแนวปฏิบัติเนื่องจากยังพบว่าหลายร้านฝ่าฝืนกฎหมายขายเหล้าเบียร์ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า20ปี และอาจขอความร่วมมือให้มีการตรวจบัตรประชาชน และ4.ลงพื้นที่ตรวจร้านเหล้าผับบาร์รอบสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันยังพบเห็นการทำผิดกฎหมาย จงใจโฆษณาจัดโปรโมชั่น ขายนอกเวลาและขายให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า20ปี.