posttoday

ดุสิตโพลเผยสังคมพอใจสร้างปรองดอง-ความขัดแย้งลด

14 กันยายน 2557

โพลดุสิตชี้สังคมพอใจการสร้างความปรองดอง ระบุการทะเลาะ-ชุมนุมเคลื่อนไหวลด ยก 5 ปัญหาขวางการสร้างปรองดอง

โพลดุสิตชี้สังคมพอใจการสร้างความปรองดอง ระบุการทะเลาะ-ชุมนุมเคลื่อนไหวลด ยก 5 ปัญหาขวางการสร้างปรองดอง

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง“การสร้างความปรองดอง ของ คนไทย ณ วันนี้” โดยสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,534 คน ระหว่างวันที่ 8 – 13 ก.ย. สรุปผลได้ ดังนี้

1.ประชาชนพึงพอใจต่อ “การสร้างความปรองดอง” ณ วันนี้ มากน้อยเพียงใด?
อันดับ 1 พึงพอใจ 43.16%
เพราะ ประชาชนตื่นตัว มีส่วนร่วมมากขึ้น การทะเลาะเบาะแว้งและการชุมนุมเคลื่อนไหวลดน้อยลง ฯลฯ
อันดับ 2 พึงพอใจมาก 38.14%
เพราะ สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น บ้านเมืองเป็นระเบียบและสงบสุข ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ค่อยพอใจ 12.32%
เพราะ ยังมีการสร้างกระแส ปล่อยข่าว โจมตีกันไปมา หลายฝ่ายที่กระทำผิดยังไม่มีการลงโทษ ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่พอใจเลย 6.38%
เพราะ ถูกปิดกั้น ควบคุม ขาดความเป็นอิสระ เป็นปัญหาที่แก้ไขยาก ฯลฯ

2.“การสร้างความปรองดอง” ที่เป็นรูปธรรม ที่ประชาชนพึงพอใจ คือ
อันดับ 1 ยุติการเคลื่อนไหว ชุมนุม หรือการเรียกร้องต่างๆ 83.57%
อันดับ 2 ทุกฝ่ายกระตือรือร้น มีส่วนร่วมและให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง 82.07%
อันดับ 3 มีการจัดกิจกรรมสร้างความปรองดอง คืนความสุข กระจายทั่วทุกภูมิภาค 77.57%
อันดับ 4 รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ปลูกจิตสำนึก ให้คนไทยเกิดความรักและความสามัคคี 70.60%
อันดับ 5 ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชน 64.47%

3.“ความไม่ปรองดอง” ที่ยังหลงเหลืออยู่และเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสุขของคนไทย ณ วันนี้
อันดับ 1 ยังคงมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก ท าให้เกิดการแตกแยก 79.99%
อันดับ 2 การสร้างกระแส โจมตี ใส่ร้ายซึ่งกันและกัน 76.73%
อันดับ 3 คนบางกลุ่มยังมีการเคลื่อนไหว เรียกร้อง คัดค้าน 67.14%
อันดับ 4 การปล่อยข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวยุแหย่โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย 63.10%
อันดับ 5 การหวาดระแวง ไม่พูดคุยกัน พูดคุยแบบไม่จริงใจ 62.58%

4.“ปัญหา อุปสรรค”ที่ “การสร้างความปรองดอง”สำเร็จยากและล่าช้า คือ
อันดับ 1 ปัญหาความแตกแยกเกิดขึ้นอย่างรุนแรง สะสมมานาน จนทำให้เกิดการแบ่งแยกอย่างชัดเจน 78.36%
อันดับ 2 ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เห็นแก่พวกพ้อง 75.95%
อันดับ 3 มุมมองความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ถือทิฐิ ไม่เปิดใจรับฟัง 74.58%
อันดับ 4 ความเหลื่อมล้ าทางสังคมและการศึกษา 73.14%
อันดับ 5 การบังคับใช้กฎหมายยังไม่เอาจริงเอาจัง มีการยืดหยุ่น จนท าให้ไม่เกรงกลัว ไม่ปฏิบัติตาม และยังมีการท้าทาย 66.69%

5. ข้อเสนอแนะต่อ “การสร้างความปรองดองที่ยั่งยืน” คือ
อันดับ 1 รณรงค์ กระตุ้น ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม สร้างจิตส านึกที่ดีตั้งแต่วัยเยาว์ 80.18%
อันดับ 2 เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 77.44%
อันดับ 3 ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เน้นความยุติธรรมและสร้างความเท่าเทียม 74.25%
อันดับ 4 รัฐบาลต้องด าเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยใช้กฎหมายเป็นหลัก 71.12%
อันดับ 5 ควรต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นที่มีอยู่ในสังคมทุกรูปแบบ 61.28%