posttoday

บุกค้นบ้านกลางกรุงพบอาวุธสงครามเพียบ

07 มิถุนายน 2556

กองปราบปราม บุกค้นบ้านเป้าหมายแก๊งค้าอาวุธปืนที่ถูกจับกุมที่สหรัฐ พบอาวุธสงครามเพียบ

กองปราบปราม บุกค้นบ้านเป้าหมายแก๊งค้าอาวุธปืนที่ถูกจับกุมที่สหรัฐ พบอาวุธสงครามเพียบ

วันนี้ (7 มิ.ย.) พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี รองผบก.ป พ.ต.ท.โสจิรัตน์ โลหะเนตร สว.กก.2 บก.ป.พร้อมเจ้าหน้าที่บก.ป. นำหมายค้นศาลอาญารัชดาภิเษกเลขที่ 202/2556 ลงวันที่ 7 มิ.ย. 2556 เข้าค้นบ้านเลขที่ 123/316 ซอยสวิทช์ทาวน์ 1 หมู่บ้านบ้านกลางเมือง เกษตร-นวมินทร์ ซอยประเสริฐมนูกิจ 25 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ นายนริศ เลขะกุล อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งคนไทย 6 คนที่ถูกจับที่สหรัฐอเมริกา คดีร่วมกันค้าอาวุธปืน

ที่เกิดเหตุบ้านหลังดังกล่าวเนื้อที่ 22 ตารางวา สูง 3 ชั้น พบอาวุธสงคราม ทั้งปืนกล ปืนเล็กยาว ปืนโบราณรุ่นสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีทั้งปืนสไนเปอร์ซึ่งมีทะเบียนเป็นของไทย เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบว่ามีการสวมทะเบียนหรือไม่ ปืนทราโว่ และเครื่องกระสุนปืน อุปกรณ์อะไหล่ปืนที่ถูกออกเป็นชิ้น ๆ จำนวนมาก โดยพบที่ชั้น 2 ชั้น 3 ของบ้าน และตามชั้นต่าง ๆ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนใช้ของบ้านซึ่งเป็นคนต่างด้าว 2 คนจากการสอบปากคำ พบว่าตัวนายนริศไม่ได้พักที่บ้านหลังนี้นานแล้ว

พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า ทางผบ.ตร.สั่งการให้กองปราบเข้ามาดูแลคดีดังกล่าว โดยได้รับการประสานงานจากทางสหรัฐอเมริกา หลังจากหน่วยไอซ์ กรมไปรษณีย์และผู้ตรวจการแผ่นดินของอเมริกาจับกุม 6 คนไทยได้ โดยมีนายนริศ เลขะกุล เป็นหัวหน้าแก๊ง ซึ่งถูกจับกุมได้ที่สนามบินเมืองซีเอตเติ้ล เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางกองปราบจึงออกหาข่าวตรวจสอบบ้านของนายนริศและบ้านแม่ของคนไทยที่ถูกจับกุมทั้งหมด

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริษัทของนายนริศที่ส่งออกและนำเข้าโคมไฟย่านบึงกุ่ม จากการตรวจค้นไม่พบอาวุธปืน แต่มีเหตุต้องสงสัย คือ มีการเคลื่อนย้ายซีพียูคอมพิวเตอร์ และมีร่องรอยการถ่ายเทเคลื่อนย้ายวัตถุ เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนพบบ้านของนายนริศ จึงไปขออำนาจศาลอาญาเพื่อเข้าค้น พบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก บางส่วนเป็นปืนประกอบจากอะไหล่ มีการนำเข้าส่งออกในลักษณะเป็นพัสดุแยกเป็นชิ้นส่วน โดยมีทั้งวัสดุเครื่องกระสุนปืน ลำกล้อง ปิดบังอำพรางมาในพัสดุอ้างว่าเป็นที่เปิดขวด ปากกาเลเซอร์ อยู่บริเวณชั้น 2 และชั้น 3 ของบ้าน

ผบก.ป. เปิดเผยอีกว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าของกลางดังกล่าวนายนริศสะสมไว้เหตุใด เอามาใช้ทำไม และมีการซื้อขายหรือไม่ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พบคอมพิวเตอร์ในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะยึดไปตรวจสอบหาเส้นทางการเงิน ตรวจสอบเว็บไซต์ www.gun.in.th ซึ่งเป็นเว็บที่ขายอาวุธปืน เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่านายนริศเกี่ยวข้องกับการซื้อขายอาวุธปืนหรือไม่ และขยายผลว่ามีเครือข่ายอยู่อีกหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์หาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้

“บ้านหลังดังกล่าวเป็นที่เก็บของมา 3 ปี เจ้าหน้าที่พบว่าแม็กกาซีนและลำกล้องที่พบตรงกับของกลางที่อเมริกายึดมาได้ ซึ่งของกลางทั้งหมดมีการทยอยนำเข้าจากอเมริกา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานำเข้าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและจะส่งรายละเอียดของคดีนี้ให้กับทางสหรัฐอเมริกาต่อไป” พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าว

นอกจากนี้ผบก.ป.ยังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบแปลนบ้านหลังพบว่าที่ชั้น 3 มีการทำฝ้าใหม่ จะได้ประสานอีโอดีและเจ้าหน้าที่พฐ.มาตรวจสอบว่ามีการซุกซ่อนอาวุธปืนอีกหรือไม่ และจะตรวจสอบหลังพบว่า นายนริศยังมีน้องชื่อนายนเรศ เลขะกุล อายุ 36 ปี อีกว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่อย่างไร