posttoday

ตร.มอบ 2 หมื่นปลอบขวัญแท็กซี่แพะ

18 กรกฎาคม 2555

ตำรวจมอบเงิน 2 หมื่นบาทให้ "ชรินทร์" แท็กซี่แพะ หลังจับผิด เจ้าตัวยันไม่เอาความถือเป็นความโชคร้าย

ตำรวจมอบเงิน 2 หมื่นบาทให้ "ชรินทร์" แท็กซี่แพะ หลังจับผิด เจ้าตัวยันไม่เอาความถือเป็นความโชคร้าย

ตร.มอบ 2 หมื่นปลอบขวัญแท็กซี่แพะ ขอบคุณภาพจาก สวพ.91 www.fm91bkk.com

จากกรณีที่ตำรวจสน.ลาดกระบัง พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวนจากบก.น.3 จับกุมนายชรินทร์ ช้ำเกตุ อายุ 35 ปี คนขับแท็กซี่ ที่ถูกผู้เสียหายคือน.ส.ชลลดา จาระสิทธิ์ อายุ 25 ปี พนักงานฝ่ายครัว บริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) เข้าแจ้งความว่าถูกนายชรินทร์ ปล้นทรัพย์สินขณะโดยสารรถแท็กซี่ให้ไปส่งตามที่หมาย พร้อมกับชี้ตัวนายชรินทร์ว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง รวมถึงมีผู้เสียหายอีกประมาณ 4 คนเข้าชี้ตัวเช่นกันว่าถูกนายชรินทร์ ก่อเหตุชิงทรัพย์ ซึ่งตำรวจได้จับกุมนายชรินทร์เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา

วันนี้ (18 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลบาล นายชรินทร์ ช้ำเกตุ ผู้เสียหายที่เป็นแพะรับบาป เดินทางมาเพื่อทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธุปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฎฐ์ พิสุทธิศักดิ์ รองผบช.น. และ พ.ต.อ.คมสัน แตงจุ้ย ผกก.สน.ลาดกระบัง ร่วมชี้แจงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีดังกล่าว

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า กรณีมีผู้ต้องหาเป็นโชเฟอร์แท็กซี่ ก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้โดยสารและบางรายถูกกระทำชำเราด้วย ซึ่งถือเป็นภัยที่ร้ายแรง เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2555 หลังเกิดเหตุผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความที่สน.ลาดกระบัง เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย และได้ออกหมายจับ ต่อมาวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา นายชรินทร์ ช้ำเกตุ อายุ 35 ปี คนขับแท็กซี่ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาได้เดินทางมามอบตัวและถูกฝากขังเป็นเวลา 2 วัน ตามระเบียบของตำรวจ หลังจากนั้น วันที่ 11 ก.ค. เจ้าหน้าที่ได้จับกุมคนร้ายตัวจริงได้ คือ นายทินภัทร สิริโสภาโชติกุล อายุ 36 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ซึ่งเป็นคนร้ายตัวจริงที่ก่อเหตุและยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือเอง ทำให้นายชรินทร์ผู้ต้องหาคนแรกได้ติดคุก เป็นเวลา 9 วัน โดยวันนี้ได้เชิญนายชรินทร์มาทำความเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและจะ ไม่ฟ้องร้องใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้ เจ้าตัวยืนยันว่าจะเป็นคนดีของสังคมและแจ้งข้อมูลการกระทำผิดให้กับเจ้า หน้าที่ตำรวจในโอกาสต่อไป

"รวมถึงเรื่องการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจที่จับผิดตัวนั้น ตนไม่อยากให้กล่าวโทษ เพราะตำรวจก็ทำงานเต็มที่ถึงได้ตัวคนร้ายมา หากจะมาว่าผิด ผมขอรับความผิดนั้นไว้คนเดียวแทนลูกน้องแล้วกัน"พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าว

นายชรินทร์ กล่าวว่า ตั้งแต่ก้าวแรกถึงขณะนี้ที่ออกมาจากข้างใน คิดอยู่ในใจเสมอว่าจะไม่เรียกร้องกับเจ้าทุกข์ที่ชี้ตัวตน ซึ่งเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายเหมือนกัน โดยตนอยากอยู่กับครอบครัว โดยพ่อได้เสียชีวิตไปแล้ว และอยู่กับแม่กับลูกอีก 2 คน และต้องการแค่อิสรภาพ ทั้งนี้ ตนทำงานอยู่ที่โรงแรมบางกอกซาฮาร่า สุขุมวิท ซอย 5 ตำแหน่งพนักงานคอมพิวเตอร์ธุรการ ส่วนการขับรถแท็กซี่เป็นเพียงอาชีพเสริมเท่านั้น

นายชรินทร์ กล่าวอีกว่า วันนั้นที่เดินทางมามอบตัวก็เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าตนไม่ได้กระทำอย่างนั้นจริง แต่ตำรวจมีข้อมูลที่ยืนยันได้ จึงถูกดำเนินคดีโดยติดคุกทั้งหมด 9 วัน ที่สน.ลาดกระบัง 2 วัน และที่เรือนจำมีนบุรีอีก 7 วัน ขอยืนยันว่าตนไม่รู้จักกับคนร้ายตัวจริง คงป็นเพราะความโชคร้ายมากกว่า

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวปิดท้ายว่า ตนไม่โทษผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะเชื่อว่าได้ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว แต่ผู้ต้องหาที่เป็นคนแรกนั้น มีหน้าตาคล้ายผู้ต้องหาตัวจริง ทะเบียนรถแท็กซี่ก็หมายเลขตรงกัน และมีผู้เสียหายมายืนยันอีก และได้มอบเงินจำนวน 20,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจต่อไป