“ธนกร” ชูโมเดล ช่วย SMEs ชลบุรี ดันคนตัวเล็ก สู้คนตัวใหญ่
“ธนกร” ขับเคลื่อนนโยบายช่วย SMEs ชลบุรี ครบวงจร ช่วยคนตัวเล็ก เข้าถึงโอกาสเท่าคนตัวใหญ่ ดันเศรษฐกิจฐานราก ลุกขึ้นได้ด้วยพลังตัวเอง
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี ขับเคลื่อนนโยบาย “ฝ่า–ฟัน–ดึง–ดัน” ครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการในระบบและเศรษฐกิจฐานราก ผ่านมหกรรม “ฝ่าฟัน ดัน SMEs สู่แหล่งทุน” ควบคู่กับการเปิดโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ที่ตำบลหนองอิรุณ เพื่อให้ SMEs และประชาชนเข้าถึง ทุน–ทักษะ–โอกาส ได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ภายใต้มหกรรมใหญ่ของ SME D Bank ในจังหวัดชลบุรี
นายธนกร กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเน้นย้ำเรื่องการช่วยผู้ประกอบการในพื้นที่ EEC ให้เข้าถึง “3 เติม” ได้แก่ 1.เติมทุน ดอกเบี้ยพิเศษ 3% ต่อปี คงที่ 3 ปี ผ่อนยาว 10 ปี วงเงินสูงสุด 15 ล้านบาท 2.เติมความรู้ ผ่าน Upskill–Reskill และแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank และ 3.เติมโอกาส แก้ปัญหาหนี้ยั่งยืนด้วยมาตรการ 3 ลด ปลดหนี้ คือ ลดผ่อน ลดเงินต้น และลดดอกเบี้ยค้างชำระ
นอกจากนี้ ยังมีบริการจาก SME D Bank, สสว., อุตสาหกรรมจังหวัด, พาณิชย์จังหวัด และเครดิตบูโร เพื่อให้คำปรึกษาและตรวจเครดิตฟรี ช่วยผู้ประกอบการประเมินสถานะธุรกิจและวางแผนทางการเงินอย่างเป็นระบบ ยกระดับความพร้อมของ SMEs ในห่วงโซ่อุตสาหกรรม(Supply Chain) ของ EEC ทั้งภาคการผลิต การบริการ และการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรมยังเปิดหลักสูตรอาชีพเสริมให้ประชาชนที่ชุมชนหนองอิรุณ กว่า 300 คน สร้างรายได้เสริมเฉลี่ย 1,000 บาทต่อเดือน รวมมูลค่าเงินหมุนเวียนในชุมชนไม่น้อยกว่า 300,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถือเป็นโมเดลเศรษฐกิจชุมชน ที่เตรียมขยายสู่พื้นที่อื่นในชลบุรีและเขต EEC โดยการอบรมมุ่งเน้นอาชีพที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เช่น เทียนหอมสปา ผ้ามัดย้อม ตะกร้าสานญี่ปุ่น และดอกไม้จันทน์
อีกทั้งยังสอนทักษะสร้างธุรกิจจริง ทั้งคำนวณต้นทุน–กำไร ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ทำตลาดออนไลน์–ออฟไลน์ และยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (มผช.) เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถสร้างรายได้ทันทีหลังการฝึก
นายธนกร กล่าวอีกว่า กระทรวงยังเชื่อมศูนย์ ITC, SME D Bank และ สสว. เพื่อให้คำปรึกษาเชิงลึก เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ พัฒนาแบรนด์ และขยายช่องทางจำหน่าย เป็น “แพ็กเกจช่วยชุมชนครบลูป” ตั้งแต่ฝึกอาชีพ–พัฒนาผลิตภัณฑ์–เข้าถึงทุน–ออกสู่ตลาด
อย่างไรก็ตาม ทั้งมหกรรม SMEs และการพัฒนาชุมชนหนองอิรุณนั้น คือยุทธศาสตร์เดียวกัน ต้องเห็นผลลัพธ์จริง ไม่ใช่ทำตามพิธี ผู้ประกอบการต้องมีเงินทุนเพิ่ม ธุรกิจต้องเข้มแข็งขึ้น และชุมชนต้องมีรายได้ที่มั่นคง โดยเป้าหมายคือ ให้คนตัวเล็กเข้าถึงโอกาสได้เท่าคนตัวใหญ่ และให้เศรษฐกิจฐานรากลุกขึ้นได้ด้วยพลังของตัวเอง


