posttoday

BB Herb พลังยาดมสมุนไพรไทย ชูคุณภาพ ทุบตลาดจีน ออเดอร์แรกแสนกระปุก

26 ตุลาคม 2568

ยาดมสมุนไพรไทย BB Herb ดีไซน์ร่วมสมัย ทุบตลาดจีนด้วยยอดสั่งซื้อ 100,000 กระปุกแรก ชี้ 'ลิขสิทธิ์และมาตรฐาน' คือกุญแจสำคัญ

KEY

POINTS

  • ยาดมสมุนไพรไทย BB Herb บุกตลาดจีนสำเร็จ ด้วยยอดสั่งซื้อล็อตแรก 100,000 กระปุก
  • ชูจุดเด่นด้านคุณภาพและดีไซน์ร่วมสมัย ผ่านการพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์นานกว่า 2 ปี
  • เน้นความสำคัญของ 'ลิขสิทธิ์และมาตรฐาน' เป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันการลอกเลียนแบบและสร้างความน่าเชื่อถือ
  • วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าจีนในราคาสูง สะท้อนความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าสมุนไพรไทย
  • ตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดส่งออกเป็น 200,000 กระปุกต่อเดือน หลังได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากตลาดจีน

ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ธุรกิจ SME ของคนไทยจะรุกเข้าตลาดจีนได้โดยไม่ถูกเลียนแบบ หรือ ถูกเอเจนซี่หลอกสูญเงินเป็นแสน แต่สุดท้ายกลับ “ไม่สมหวัง”

แต่ BB Herb ยาดมสมุนไพรของคนไทย พิสูจน์แล้ว หากสินค้ามีคุณภาพ มีการวางแผนที่ดี เพียงใช้เวลาแค่ 2 ปี BB Herb ก็สามารถบุกตลาดจีนได้แล้วออเดอร์แรกแสนกระปุก และเป้าหมายต่อไปต้องเป็น 2 แสนกระปุก ต่อเดือน

นิจวรรณ ผลงาม เจ้าของบริษัท เบสบาล์ม จำกัด ผลิตภัณฑ์ยาดมสมุนไพร แบรนด์ BB Herb เล่าให้ โพสต์ทูเดย์ ฟังว่า ที่ BB Herb ใช้เวลานานกว่า 2 ปี ในการพัฒนาสินค้าและวางแผนกลยุทธ์ นั้น ก็เพื่อต้องการให้สมุนไพรไทยใน BB Herb มีคุณภาพสูง ได้มาตรฐานสามารถบุกตลาดจีนได้อย่างถูกกฎหมาย ที่สำคัญต้องไม่ถูกหลอกนำไปลอกเลียนแบบ และสุดท้ายกลายเป็นว่าสินค้าของตัวเองเป็นของ ก้อปปี้ แทน 

BB Herb พลังยาดมสมุนไพรไทย ชูคุณภาพ ทุบตลาดจีน ออเดอร์แรกแสนกระปุก

จากผู้เชี่ยวชาญ สู่การค้นพบ "เสน่ห์สมุนไพรไทย" ในสายตาชาวจีน

นิจวรรณ เล่าถึงจุดเริ่มต้นในธุรกิจสมุนไพรไทยว่า เธอเริ่มต้นจากการเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทผลิตยาสมุนไพรตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับการจัดตั้งโรงงานและการผลิต ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเปิดบริษัทของตนเองในปี 2558 โดยช่วงแรกนั้น บริษัท เน้นการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าสมุนไพรไทยกว่า 30 แบรนด์ (ประมาณ 100 รายการสินค้า หรือ 100 SKU)

ลูกค้าหลักที่โฟกัสตั้งแต่แรกคือ กลุ่มทัวร์จีน ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยเธอเลือกขายสินค้าบนห้างสรรพสินค้าและร้านยาที่เป็นเน็ตเวิร์กของเธออยู่แล้ว จึงไม่ได้เน้นขายตามแหล่งท่องเที่ยว

BB Herb พลังยาดมสมุนไพรไทย ชูคุณภาพ ทุบตลาดจีน ออเดอร์แรกแสนกระปุก

นิจวรรณ ผลงาม

เมื่อถามถึงสาเหตุที่ชาวจีนชื่นชอบสมุนไพรไทย เธอ อธิบายว่า "พี่มองว่าของไทย 1. คุณภาพดี 2. ราคาไม่แพง และ 3. ที่สำคัญคือ ที่บ้านเขาไม่มี ผลิตภัณฑ์สมุนไพรแบบนี้ ของไทยมีความเป็นเอกลักษณ์ มีกลิ่น และมีรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนของเขา"

2 ปี แห่งการพัฒนา "ยาดมสีชมพู" ที่ต้องสู้กับเชื้อรา

แรงบันดาลใจในการสร้างแบรนด์ BB Herb ของเธอเกิดขึ้นในช่วงหลังโควิดใหม่ ๆ ที่ยาดมเริ่มเป็นที่นิยมอย่างมาก เธอจึงตั้งใจว่า หากจะทำยาดมเป็นแบรนด์ของตัวเอง จะต้องทำออกมาให้เป็น เอกลักษณ์และไม่เหมือนใคร

โดยจุดเด่นสำคัญของ BB Herb คือการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบใส เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถมองเห็นสมุนไพรที่เป็นชิ้น ๆ ที่อยู่ข้างใน โดยส่วนผสมหลัก ๆ ประกอบด้วย การบูร กะวาน ดอกจันทน์ สมุนแว้ง พิมพ์เสน และ พริกไทยดำ นอกจากนี้ ยังมีการผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับความร่วมสมัยด้วย สีสันที่สดใส อย่างสีชมพู เพื่อไม่ให้ผลิตภัณฑ์ดู "โบราณ" หรือ "แก่" จนเกินไป

กว่าจะมาเป็นยาดมที่สมบูรณ์แบบนี้ได้ ต้องใช้เวลาพัฒนาสูตรถึง 2 ปี อุปสรรคที่ยากที่สุดในระหว่างการพัฒนาคือ การหาวิธีไม่ให้เชื้อราขึ้น ในตัวสมุนไพร ซึ่งต้องมีการนำนวัตกรรมเข้ามาช่วยในการพัฒนาสูตรนี้

ก้าวสู่ตลาดจีน แสนกระปุกแรก กับ ยุทธศาสตร์ "ต้องไปแบบถูกกฎหมาย"

นิจวรรณ ยืนยันว่า BB Herb ถูกตั้งใจเปิดแบรนด์มาเพื่อขายที่ประเทศจีนโดยเฉพาะ แต่การบุกตลาดจีนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะการเตรียมพร้อมก่อนนำสินค้าเข้าไปขายในจีนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และต้องใช้เวลาเตรียมการถึง 2 ปี โดยเธอได้แชร์ถึงสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องทำคือ

1. จดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า (Trade Mark) ให้ครอบคลุมทุกประเภท ที่จีน ก่อนนำสินค้าไปแสดงในงานแสดงสินค้า โดยเธอย้ำว่า หากยังไม่ได้จดลิขสิทธิ์ อย่าเพิ่งนำสินค้าไปงานแสดงสินค้าที่จีน เพราะเมื่อกลับมาแล้ว สินค้าเราอาจกลายเป็นของปลอมที่นั่น

2. ทำสินค้าให้ผ่านมาตรฐานของจีน และผ่านกรมศุลกากรอย่างถูกกฎหมาย

3. ศึกษาตลาดอย่างละเอียด และรู้ว่าควรไปขายในมณฑลไหน เพราะแต่ละมณฑลมีความชอบไม่เหมือนกัน 

BB Herb พลังยาดมสมุนไพรไทย ชูคุณภาพ ทุบตลาดจีน ออเดอร์แรกแสนกระปุก

สำหรับ BB Herb ในการทดลองตลาด พบว่าเซี่ยงไฮ้ ไม่เหมาะกับแบรนด์ของเธอ เพราะเป็นเมืองที่เน้นสินค้าเทคโนโลยี  ดังนั้น จึงเลือก กว่างโจว เป็นเมืองนำร่อง เนื่องจากเป็นเมืองท่าและเป็นเมืองค้าส่ง ลูกค้ามีการตอบรับที่ดีจากที่นั่น

ด้วยความมั่นใจในการวางแผนและมาตรฐานสินค้า ชิปเมนต์ล็อตแรกที่ส่งไปจีนคือ 100,000 กระปุก โดยสินค้าของ BB Herb ถูกวางขายในห้างสรรพสินค้า และมีราคาค่อนข้างสูง คือ 100 หยวน 3 กระปุก (ประมาณ 500 บาท)

มาตรฐาน GMP และบทเรียนสำคัญจาก SME D Bank

แน่นอนว่าการทำตลาดส่งออก ต้องให้ความสำคัญกับ มาตรฐาน โรงงานผลิตของ BB Herb จึงได้รับมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) ซึ่งมาตรฐานนี้จะครอบคลุมตั้งแต่การผลิต วัตถุดิบ ไปจนถึง Packaging การมีมาตรฐานระดับนี้ทำให้สามารถส่งออกได้ทั่วโลก และทำมาตรฐานให้สอดคล้องกับประเทศปลายทาง เช่น จีน

ในส่วนของการสนับสนุนจาก SME D Bank นิจวรรณ กล่าวว่า ได้รับประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะในเรื่องการจัดการการเงิน นอกจากนี้ SME D Bank ยังช่วยประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ BB Herb ผ่านโครงการไลฟ์สดกับอินฟลูเอนเซอร์ด้วย

ทางเจ้าหน้าที่ของ SME D Bank โทรมาตามให้ไปอบรมเรื่อง ภาษี ตอนแรกไม่คิดว่าเกี่ยว แต่พอไปอบรมแล้วได้ความรู้พอดีกับที่พี่กู้เงินในนามส่วนตัว เดิมทีพี่ต้องสำรองจ่ายเงินกู้ส่วนตัว แต่หลังจากที่ได้ความรู้มา บริษัทสามารถทำจ่ายให้พี่เพื่อนำไปจ่ายเงินกู้ได้เลย ทำให้พี่ประหยัดเงินไปได้เดือนละแสนกว่าบาท

ตั้งเป้าออเดอร์ 2 แสนกระปุกต่อเดือน ขยายสินค้าสู่เครื่องสำอาง 

สุดท้าย นิจวรรณ เล่าถึงเป้าหมายของ แบรนด์ BB Herb ว่า ยอดส่งออกในระยะสั้นจะต้องเพิ่มเป็นเดือนละ 200,000 กระปุกให้ได้ ขณะที่เป้าหมายระยะยาว ภายในไม่เกิน 3 ปี แบรนด์ BB Herb จะมีสินค้าครอบคลุมทุกไอเทม โดยจะขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น เครื่องสำอาง (ลิปสติก ครีม) และ อาหารเพื่อสุขภาพ แต่ผลิตภัณฑ์หลักของแบรนด์จะยังคงเน้นสมุนไพร

นอกจากตลาดจีนแล้ว ยังมีการมองตลาดอื่น ๆ เช่น พม่า เนื่องจากร้านค้าที่มีสินค้าของ BB Herb ไปขาย พบว่าลูกค้าหลักคือชาวพม่าและมีการตอบรับที่ดี โดยยาดมตัวนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์นำร่องในตลาดพม่าต่อไป

ข่าวล่าสุด

กัมพูชาเปิดฉากยิงช่องอานม้า ฝ่ายไทยสูญเสีย ยังปะทะเดือด