



"ปัญญา เนเชอรัล" ยกระดับมะรุมริมรั้ว สู่แบรนด์บิวตี้พรีเมียม
เจาะเบื้องหลัง "ปัญญา เนเชอรัล" แบรนด์ไทยที่ยกระดับมะรุมริมรั้วสู่แบรนด์บิวตี้พรีเมียม พิชิตใจคนรักความงาม 3 ทวีป อัปเกรดสมุนไพรพื้นบ้านสู่ตลาดโลก
จากกระแส Clean Beauty หรือผลิตภัณฑ์ความงามที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ กำลังได้รับความนิยมสูงทั่วโลก Panya Natural (ปัญญา เนเชอรัล) เป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องสำอางไทยที่นำสมุนไทยพื้นบ้านอย่างมะรุม พร้อมภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผสานเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ จนกลายเป็นกุญแจสำคัญที่เปิดประตู Soft Power ไทยให้โลกได้เห็น
อรวดี มุสิกชาต ผู้จัดการทั่วไปแบรนด์ปัญญา เนเชอรัล กล่าวว่า ปัญญา เนเชอรัล เริ่มต้นจากการค้นพบที่น่าสนใจของคุณกมลรัตน์ ลาดสีทา ผู้ก่อตั้งแบรนด์และผู้บริหาร ที่เติบโตมาในครอบครัวเกษตรกรชาวอีสาน ท่ามกลางภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรพื้นบ้านของคุณปู่คุณย่าที่เป็นหมอยา จนกระทั่งไปศึกษาที่อเมริกา และได้พบกับน้ำมันมะรุมขายในราคาสูงถึงหลักพันบาทต่อขวด 10 มิลลิลิตร จึงเห็นโอกาสและกลับมาเพื่อศึกษาวิจัยเกี่ยวกับมะรุมอย่างจริงจัง จนกระทั่งได้ก่อตั้งแบรนด์ปัญญาขึ้นในปี 2555
“สิ่งที่ทำให้ปัญญาโดดเด่น คือนวัตกรรมการพัฒนากระบวนการผลิต น้ำมันมะรุมสกัดเย็น 100% ผ่านกระบวนการกะเทาะเปลือกเมล็ด หรือ Peeling Off Process ที่เปลี่ยนน้ำมันจากสีเหลืองเขียวและกลิ่นเหม็นเขียวจัด ให้กลายเป็นสีเหลืองทองพร้อมกลิ่นสมุนไพรอ่อนละมุน"
โดยน้ำมันมะรุมของปัญญาอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระถึง 46 ชนิด พร้อมวิตามิน A, C, E ที่ครบถ้วนสำหรับผิว มีคุณสมบัติป้องกันมลภาวะ PM 2.5 ซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ทิ้งความมัน และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และจากความสำเร็จของผลิตภัณฑ์แรก ปัญญาได้ขยายสายผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกมิติของการดูแลผิว ตั้งแต่น้ำมันมะรุมผสมทองคำ กันแดด คลีนซิ่ง บอดี้ออยล์ แป้งพัฟ ยาหม่อง ไปจนถึงอาหารเสริม ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 42 SKU โดยใช้ทุกส่วนของมะรุมให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นางสาวอรวดี กล่าวถึงปรัชญา Sustainability Business ของแบรนด์ว่าหากอยู่ได้แค่บริษัท แต่ว่าชุมชนหรือว่าสิ่งแวดล้อมอยู่ไม่ได้ ก็ไม่สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น ปัญญาจึงไม่เพียงใช้วัตถุดิบธรรมชาติล้วน ๆ แต่ยังเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เป็น Eco-friendly ลดการใช้พลาสติก และสนับสนุนชุมชนผลิตถุงผ้าแทนการสั่งจากโรงงาน เพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ให้ลูกค้า
อีกทั้งได้ดำเนินโครงการ "Thai Moringa Soft Power" ที่มีเป้าหมายครอบคลุม 30 จังหวัด โดยส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมะรุม 1 ต้น 1 ครัวเรือน สนับสนุนทั้งความรู้ เมล็ดพันธุ์ และทำสัญญารับซื้อผลผลิตกลับคืนในราคาที่เป็นธรรม
รายได้โต 48 ล้านบาท
นางสาวอรวดี กล่าวต่อว่า ปี 2566-2567 ปัญญาเติบโตแบบก้าวกระโดด รายได้เพิ่มจาก 27 ล้านเป็น 48 ล้านบาท และนี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด เมื่อได้เข้าร่วม "โครงการ Fashion Hero Brand " ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
โดยโครงการนี้ไม่ใช่แค่การมอบเกียรติบัตร แต่เป็นการพัฒนาผู้ประกอบการอย่างเป็นระบบและครบวงจร มีจัดการอบรมและถ่ายทอดความรู้จากผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์ที่มีประสบการณ์ ช่วยชี้ให้เห็นว่า มีจุดไหนที่ต้องส่งเสริม หรือปรับปรุง ซึ่งกรมฯ ไม่เพียงให้ความรู้ในห้องเรียน แต่ยังพาผู้ประกอบการไปศึกษาดูงานโรงงานต้นแบบที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน เพื่อให้เห็นภาพจริงของการบริหารจัดการไลน์การผลิตที่มีประสิทธิภาพ การดูแลคุณภาพ และการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล
“ปัญญา เนเชอรัล ได้รับคำปรึกษาแบบเจาะลึกในทุกมิติของธุรกิจ ตั้งแต่กลยุทธ์การตลาด เพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ที่ตอบโจทย์ตลาดสากล การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้ได้มาตรฐาน การเชื่อมโยงสถาบันวิชาการ เพื่อการวิจัยและพัฒนา โดยหนึ่งในผลลัพธ์ที่มีค่าที่สุดคือ ทำให้แบรนด์ปัญญาได้เซ็น MOU กับมหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อช่วยการตรวจวิเคราะห์สารสำคัญและสารปนเปื้อน ซึ่งปกติค่าใช้จ่ายในสถาบันเอกชนสูงมาก และยังร่วมการทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมทีมงานช่วยประเมินคาร์บอนเครดิต เพื่อตอบโจทย์ตลาดสากล”
อรวดี กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังสถานการณ์โควิด เทรนด์ต่าง ๆ ล้วนกลับคืนมาสู่ความเรียบง่าย คนเริ่มหันมาดูแลสุขภาพตัวเองโดยการที่ไม่ใช้สารเคมี การดูแลผิวก็เช่นกัน ทุกคนต้องการผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ สิ่งนี้คือ Clean Beauty ซึ่งทำให้แบรนด์มีโอกาสในตลาดเครื่องสำอางโลกเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของปัญญาจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ 90% ออฟไลน์ 10% และกำลังขยายไปยังสปาและโรงแรมชั้นนำ อีกทั้งยังมีแผนการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ
โดยตั้งเป้า 3 ทวีปหลัก ได้แก่ เอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่น ซึ่งกำลังพยายามปลูกมะรุมเอง แสดงถึงความต้องการในตลาดที่สูง ยุโรป โดยเฉพาะออสเตรีย ซึ่งเป็น "ประตู" สู่ยุโรป ที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และตะวันออกกลาง ดูไบ โอมาน ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคนในพื้นที่รู้จักมะรุม หรือ "Miracle Tree" อยู่แล้ว และต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง
ต้นมะรุมจากที่เคยเป็นเพียงพืชธรรมดาริมรั้วบ้าน กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่า เป็นที่ต้องการของตลาดโลกได้ สิ่งที่ปัญญา เนเชอรัล กำลังทำคือการพิสูจน์ว่าสมุนไพรไทยและภูมิปัญญาการดูแลผิวของคนไทยสามารถเป็น Soft Power ที่แท้จริงได้ และภูมิปัญหาของไทยก็มีโอกาสไปโตที่ต่างประเทศ แต่เราก็ต้องพยายามสร้างผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลด้วยเช่นกัน
ในตลาดโลกที่มีการแข่งขันสูง การสู้ด้วยราคาไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน แต่ SME ไทยต้องแข่งขันด้วยคุณภาพและเอกลักษณ์ สิ่งนี้คือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อนาคตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามไทยมีเส้นทางที่สดใส เมื่อไทยไม่ได้ขายเพียงเครื่องสำอางแต่ขายคุณค่า วัฒนธรรม และความยั่งยืนที่ผู้คนทั่วโลกกำลังมองหา ความงามแบบของไทยก็จะเปล่งประกายต้องตา จับใจผู้คนไปทั่วโลก






