posttoday

คลังสินค้าไทยเร่งอัปเกรดสู่อัตโนมัติ รับดีมานด์อีคอมเมิร์ซ

13 ตุลาคม 2568

ธุรกิจคลังสินค้าไทยเร่งปรับตัวรับการแข่งขัน–ต้นทุนสูง ด้านโตโยต้าขยับเปิด “T-Innovation Center” เสริมศักยภาพ Smart Warehouse ยุคใหม่

‘ธุรกิจคลังสินค้า’ เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจไทย แต่ยังเผชิญความท้าทายอยู่มาก 

 

จากข้อมูล ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงศรี (Krungsri Research) วิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจ อุตสาหกรรมปี 2568-2570 ระบุว่า ธุรกิจคลังสินค้าไทยยังคงเผชิญทั้งโอกาสและความท้าทายทั้งปี 2568 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเร่งเครื่องฟื้นตัวของการค้าระหว่างประเทศ แต่ทว่ากำลังซื้อภายในประเทศยังคงซบเซาและการท่องเที่ยวยังคงชะลอตัวส่งผลให้เกิดการจำกัดความต้องการใช้พื้นที่คลังสินค้าใหม่

  

ทั้งนี้บทวิเคราะห์ยังประเมินต่อไปอีกว่า ในช่วงปี 2569–2570 คาดการณ์ว่าแนวโน้มธุรกิจและอุตสาหกรรมจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการขับเคลื่อนของธุรกิจการค้าออนไลน์ ธุรกิจ Cross-Border และ ธุรกิจ E-Commerce ที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยสร้าง Demand ต่อภาคธุรกิจคลังสินค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้น 

 

นอกจากนี้การลงทุนของภาครัฐในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) ท่าเรือแหลมฉบัง สนามบินสุวรรณภูมิ และทางหลวงพิเศษ มีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงปี 2570 จะยิ่งเสริมศักยภาพของไทยให้เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าสำคัญของภูมิภาคอาเซียนได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการธุรกิจคลังสินค้ายังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจาก การแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น รวมถึงแรงกดดันด้านข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม (ESG Regulations) ซึ่งทำให้การลงทุนในเทคโนโลยีอัตโนมัติ และการออกแบบเพื่อพัฒนาคลังสินค้าที่ยั่งยืนกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อความอยู่รอดในอนาคต ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งลงทุนในระบบ Automation, Data Analytics และคลังสินค้าแบบ ESG เพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันธุรกิจที่ยั่งยืน

 

คลังสินค้าไทยเร่งอัปเกรดสู่อัตโนมัติ รับดีมานด์อีคอมเมิร์ซ

‘T-Innovation Center’  โตโยต้า 

 

ทั้งนี้ บริษัท โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง กรุ๊ป จำกัด (TMHG) ประกาศเปิดตัว ‘T-Innovation Center’ ศูนย์นวัตกรรมคลังสินค้าอัจฉริยะ และระบบอัตโนมัติครบวงจรแห่งแรกของโตโยต้าในประเทศไทย บนถนนกิ่งแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Material Handling & Smart Logistics Solutions พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมคลังสินค้าไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานโลก เสริมความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านธุรกิจไทยสู่ Industry 4.0 และขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ Smart Economy อย่างยั่งยืน

 

‘T-Innovation Center’ ก้าวใหม่ของ Smart Logistics

 

การก่อตั้ง ‘T-Innovation Center’ ถือเป็น ‘จังหวะเชิงกลยุทธ์’ ที่สำคัญของ โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง กรุ๊ป ในการมุ่งมั่นเป็น พันธมิตรเชิงธุรกิจ B2B (B2B Strategic Partner) ที่พร้อมส่งมอบโซลูชันครบวงจรตั้งแต่ ระบบแมนนวล และกึ่งอัตโนมัติ เช่น รถลากพาเลท, รถยกซ้อน, รถหยิบเลือกสินค้า, และ รถยกเสาสูงสำหรับพื้นที่แคบ ไปจนถึงระบบ Full Automation เช่น Storage, Robotics, และ Sortation เป็นต้น ภายใต้ Showroom แห่งนี้ จะเปิดโอกาสให้ลูกค้าระดับองค์กร สามารถเข้ามาทดลองระบบจริง เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพและประเมิน ROI ของการลงทุน ก่อนนำไปปรับใช้กับธุรกิจ ช่วยให้ผู้บริหารมองเห็นทางเลือกใหม่ๆในการปรับตัว เพื่อลดต้นทุนแรงงาน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของ Supply Chain และเสริมแกร่งความสามารถของการแข่งขันเพื่อสร้างความได้เปรียบในธุรกิจให้เท่าทันตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

 

นอกจากนี้ระบบการบริหารจัดการคลังสินค้าอัจฉริยะ ยังตอบโจทย์ทั้งในเชิงเศรษฐกิจมหภาค และทุกระดับของธุรกิจ โดยจะทำหน้าที่เป็น Platform ด้านนวัตกรรม และโซลูชันการจัดการคลังสินค้าแบบครบวงจร ช่วยผลักดันภาคธุรกิจบริหารจัดการคลังสินค้าไทยให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

ยกระดับคลังสินค้าไทยสู่มาตรฐานโลก

 

ชิเงรุ มัตสึโมโต้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า T-Innovation Center ไม่ใช่แค่ Showroom ทั่วไป แต่จะเป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถมาร่วมชม เพื่อสัมผัสประสบการณ์ และ เรียนรู้ไปด้วยกัน ว่าโตโยต้าสามารถนำเสนอโซลูชันใดบ้างที่จะช่วยตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทุกท่าน เราได้รวบรวมโซลูชันด้าน Material Handling และ Warehouse Automation ไว้อย่างครบวงจร เราพร้อมนำเสนอเทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ การบริหารจัดการคลังสินค้า และสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจระยะยาวในยุค Industry 4.0 และเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนให้แก่ทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มอุตสาหกรรม Manufacturing, Retail, Warehouse, E-Commerce และ Logistics” 

 

ด้านโนริฮารุ เทราโอกะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า แมททีเรียล แฮนด์ลิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า T-Innovation Center จะเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างธุรกิจไทย กับมาตรฐานธุรกิจระดับโลก โดยการลงทุนใน Smart Logistics ไม่เพียงแต่ช่วยธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพแต่ยังคงช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในฐานะการเป็นฐานการผลิตและกระจายสินค้าในภูมิภาคร่วมด้วย

คลังสินค้าไทยเร่งอัปเกรดสู่อัตโนมัติ รับดีมานด์อีคอมเมิร์ซ

6 องค์ประกอบสำคัญของ Smart Logistics เพื่อสร้างสรรค์ Warehouse Automation หนุนธุรกิจคลังสินค้าไทย

 

การเปิดตัว T-Innovation Center จึงไม่เพียงเป็นการแสดงศักยภาพของโตโยต้าด้าน Material Handling & Smart Logistics Solutions แต่ยังเป็นการสะท้อนบทบาทในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของเศรษฐกิจไทยไปสู่ Smart Economyเพื่อตอบโจทย์ทั้งธุรกิจเชิงจุลภาคและมหภาค พร้อมช่วยผู้ประกอบการองค์กรไทยเสริมความแข็งแกร่ง ท่ามกลางตลาดการแข่งขันระดับโลกที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

 

ทั้งนี้นอกจาก Material Handling ที่เป็นระบบแมนนวลและกึ่งอัตโนมัติแล้ว T-Innovation Center ยังจัดแสดงอีก 6 องค์ประกอบสำคัญของ Smart Logistics สำหรับ Warehouse Automation เพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการไทย  อันได้แก่ 

 

  1. Data Analysis & Consulting เพื่อวางแผน วิเคราะห์ และสร้างผลลัพธ์อย่างเหนือความคาดหมาย
  2. Storage ที่ยกระดับโซลูชันการจัดเก็บเพื่อประหยัดเวลา และเพิ่มพื้นที่การใช้งาน
  3. Robotics ช่วยประยุกต์การทำงานอย่างรวดเร็วและคล่องตัวด้วยระบบโรโบติกส์อัจฉริยะเข้ากับระบบการขนถ่ายสินค้า 
  4. Goods to Person การพัฒนาขั้นตอนการเติมสินค้าด้วยการผสานระหว่างระบบการจัดเก็บอัตโนมัติที่แม่นยำ และหลักการออกแบบสรีรศาสตร์อย่างลงตัว 
  5. Sortation System ระบบการคัดแยกสินค้าอัตโนมัติไปยังตำแหน่งปลายทางอย่างรวดเร็ว 
  6. Transportation การขยายขีดความสามารถของการขนถ่ายสินค้าให้มีความปลอดภัยขั้นสูงและทำงานอย่างเป็นระบบ

 

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”