ญี่ปุ่นเป็นผู้ผลิตข้าว แต่ทำไมยังต้องนำเข้าจากไทย ปีละ 3 แสนตัน
ญี่ปุ่นเป็นผู้ผลิตข้าวรายสำคัญของโลก แต่ทำไมยังต้องนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ รวมถึงไทย ที่มีนโยบายส่งออกให้ได้ 3 แสนตันต่อปี
KEY
POINTS
- แม้ญี่ปุ่นจะเป็นผู้ผลิตข้าวรายสำคัญของโลก แต่ยังคงต้องพึ่งพานำเข้า โดยเฉพาะจากไทย
- กว่า 90% ของข้าวไทยถูกนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม เช่น การผลิตสาเกและขนมอบกรอบ ฯลฯ มากกว่าในครัวเรือน
- กรมการค้าต่างประเทศนำทีมผู้ส่งออกข้าวไทยเดินทางเยือนญี่ปุ่น เพื่อกระชับความสัมพันธ์และรักษาตลาดส่งออกข้าว ให้ได้ปีละประมาณ 300,000 ตัน
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้ผลิตและผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของโลก โดยแต่ละปีมีผลผลิตข้าว ประมาณ 7.28 – 7.64 ล้านตัน และมีความต้องการข้าวปีละมากกว่า 8 ล้านตัน โดยนำเข้าข้าวจากต่างประเทศปีละประมาณ 700,000 ตัน ซึ่งแหล่งนำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ไทย สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และจีน
สำหรับปี 2568 ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ แล้วประมาณ 402,157 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.15 โดยนำเข้าจากสหรัฐฯ มากที่สุด รองลงมา ได้แก่ ไทย ออสเตรเลีย และจีน ตามลำดับ
ในส่วนการส่งออกข้าวไทยไปญี่ปุ่น ในแต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปญี่ปุ่นประมาณ 257,000 – 336,000 ตัน ครองส่วนแบ่งตลาดนำเข้าข้าวของญี่ปุ่นประมาณร้อยละ 37 – 45 โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 ไทยส่งออกข้าวไปญี่ปุ่น แล้วประมาณ 148,000 ตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 19.36 ที่ส่งออกประมาณ 183,000 ตัน เนื่องจาก
ข้าวไทยถูกส่งไปทำสาเก ขนมอบกรอบ
ชาวญี่ปุ่นนิยมบริโภคข้าวเมล็ดสั้น (Japonica) เป็นอาหารหลัก แต่ในช่วงที่ผ่านมาญี่ปุ่นผลิตข้าวได้ไม่เพียงพอ กับความต้องการในประเทศ จึงต้องนำเข้าข้าวเมล็ดสั้นหรือเมล็ดกลางจากต่างประเทศเข้าไปทดแทนผลผลิตข้าวในประเทศ
ขณะที่ข้าวไทยที่ส่งออกไปญี่ปุ่นเป็นข้าวเมล็ดยาว ได้แก่ ข้าวขาว ข้าวเหนียว และข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 90 ของปริมาณข้าวไทยที่ส่งออกไปญี่ปุ่นถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เช่น ผลิตสาเก และขนมอบกรอบ เนื่องจากข้าวไทยเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพและมาตรฐาน
ส่วนข้าวไทยที่เหลืออีกร้อยละ 10 ถูกนำไปใช้ในครัวเรือนและร้านอาหารในญี่ปุ่น ด้วยจุดเด่นของข้าวไทยโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยในด้านความนุ่มความหอม และรสชาติเฉพาะตัวจึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคข้าวในญี่ปุ่น
ไทยนำทีมกระชับสัมพันธ์ญี่ปุ่น รักษาปริมาณส่งออก 3 แสนตัน
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในระหว่างวันที่ 7 – 11 กันยายน 2568 คณะผู้ส่งออกข้าวไทยเดินทางไปพบปะหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับสินค้าข้าวของญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า และรักษาตลาดข้าวไทยในญี่ปุ่น ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่มอบหมายให้กรมฯ รักษาปริมาณการส่งออกข้าวไปญี่ปุ่นที่ปีละประมาณ 300,000 ตัน
สำหรับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่นที่กรมฯ นำคณะผู้ส่งออกข้าวไทยไปพบหารือในครั้งนี้ได้แก่ กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น (Ministry of Agriculture, Forestry and Fisheries: MAFF) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ ที่ทำหน้าที่กำหนดปริมาณการนำเข้าข้าวและกำกับดูแลการประมูลเพื่อนำเข้าข้าวของญี่ปุ่น บริษัท Overseas Merchandise Inspection Company (OMIC) เป็นหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพข้าวที่จะนำเข้าของญี่ปุ่นและผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญ ของญี่ปุ่น ประกอบด้วย บริษัท Kitoku Shinryo Co., Ltd. บริษัท ITOCHU Food Sales and Marketing Co., Ltd. และบริษัท Kanematsu Corporation รวมทั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าวรายสำคัญของญี่ปุ่น ซึ่งต่างล้วนมีบทบาทสำคัญ ต่อการค้าข้าวของญี่ปุ่นและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฝ่ายไทยมาโดยตลอด
ดังนั้น การเดินทางเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ นอกจากเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าข้าวแล้ว ยังมุ่งหวังจะช่วยรักษาส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในญี่ปุ่น และส่งเสริมปริมาณการส่งออกข้าวไทยไปญี่ปุ่นให้เพิ่มขึ้นด้วย


