ภาษีทรัมป์กระทบ SME กว่า 3 พันราย มูลค่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
สมาพันธ์ SME ไทยเร่งเครื่อง "การเงินสีเขียว" หนุนธุรกิจยั่งยืน หวั่นพึ่งพาสหรัฐฯ เสี่ยงสูง – หนี้นอกระบบพุ่งไม่หยุด
นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานยุทธศาสตร์ สมาพันธ์SMEไทย เปิดเผยว่า สมาพันธ์ฯ กำลังเร่งผลักดันนโยบาย "การเงินสีเขียว" เพื่อสร้างโอกาสให้ SME ไทยเข้าถึงเงินทุนที่ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทางธรรมาภิบาลและการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
วงเงินสินเชื่อสีเขียวกว่า 3,000 ล้านบาท
ที่ผ่านมา สมาพันธ์ฯ ได้ร่วมมือกับธนาคารออมสินและสถาบันการเงินอื่น ๆ ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ SME กว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการเข้าถึงแหล่งทุนอย่างรวดเร็ว พร้อมวางแผนขยายการพัฒนา "SME สีเขียว" และ "แรงงานสีเขียว" ที่ยังมีไม่ถึง 10% ของ SME ไทยทั้งหมด
นายแสงชัย ย้ำว่า การเข้าถึงทุนอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องควบคู่ไปกับการเสริมองค์ความรู้ในด้านการบริหารจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในกลุ่ม SME ที่ยังขาดความพร้อมทั้งในด้านบุคลากร เทคโนโลยี และแผนการเปลี่ยนผ่านธุรกิจ
ตลาดสหรัฐฯ ยังมีความเสี่ยงสูง
ทั้งนี้ SME ไทยยังคงพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ เป็นหลัก โดยมีสัดส่วนการส่งออก 20% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อSMEกว่า 3,700 ราย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
การพึ่งตลาดสหรัฐฯ มากเกินไปเป็นความเสี่ยงระยะยาว โดยเฉพาะในบริบทที่สหรัฐฯ ไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ขณะที่จีนและยุโรปกำลังเดินหน้าเต็มที่ในเรื่องเศรษฐกิจสีเขียวและการลดคาร์บอน
ESG: จุดอ่อนที่ต้องเร่งอุด
จากข้อมูลการสำรวจของสมาพันธ์ฯ พบว่า มี SME เพียง ไม่ถึง 5% เท่านั้นที่ดำเนินการตามหลัก ESG และไม่ถึง 10% ที่มีแผนปรับตัวสู่ธุรกิจยั่งยืน ส่วนใหญ่ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ โดยปัจจัยหลักคือ "ขาดเงินทุน" และ "ขาดที่ปรึกษา"
เกาหลีใต้ถือเป็นต้นแบบที่ดี โดยรัฐบาลมีการตั้งหน่วยงานเฉพาะทางให้คำปรึกษาSME ขณะที่ไทยยังขาดระบบสนับสนุนในลักษณะเดียวกัน
หนี้นอกระบบ: ความเสี่ยงซ่อนเร้น
ข้อมูลยังชี้ว่า ปัจจุบัน SME ไทยหันไปกู้เงินนอกระบบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางรายกู้เงินทั้งในระบบและนอกระบบแบบไฮบริด สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบสินเชื่อSMEในประเทศ
"การแก้ไขต้องเริ่มตั้งแต่การยกระดับการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ โดยเฉพาะจากสถาบันการเงินของรัฐ และการลดข้อจำกัดทางกฎระเบียบ เพื่อสร้างความยืดหยุ่น คล้ายโมเดลยุโรป" นายแสงชัย เสนอ พร้อมระบุว่า ต้องทำให้การช่วยเหลือSMEเป็น "วาระแห่งชาติ" เพื่อป้องกันปัญหาหนี้เสียในระยะยาว
Roadmap สู่อนาคต: เชื่อมสถาบันการเงิน-ผู้ประกอบการ
นายแสงชัย เสนอว่า ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมกันสร้าง "ระบบนิเวศ" ใหม่ที่ช่วยลดกับดักหนี้ กับดักคน และกับดักทุน โดยเชื่อมโยงผู้ประกอบการ เกษตรกร และสถาบันการเงินให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน
SMEโต สถาบันการเงินก็ต้องโตไปด้วย การปฏิรูปทั้งระบบเป็นคำตอบเดียวที่จะทำให้ธุรกิจไทยอยู่รอดอย่างยั่งยืนในโลกยุคใหม่


