GOKOO และ E-Gets แอปฯ เดลิเวอรี่สัญชาติจีน บุกตลาดส่งอาหารไทย
รู้จัก GOKOO-EGets แอปเดลิเวอรี่สัญชาติจีน บุกตลาดส่งอาหารไทย พัฒนาโดยบริษัทเทคของจีนร่วมทุนบริษัทไทย ขายอาหารจีน-อาหารไทย ราคาย่อมเยาวน์
นอกจากร้านอาหาร-เครื่องดื่มจะเป็นธุรกิจเนื้อหอมที่จีนเข้ามาเจาะตลาดประเทศไทยแล้ว “ธุรกิจเดลิเวอรี่” เป็นอีกหนึ่งโมเดลที่เริ่มเข้ามาทำตลาดเช่นกัน
อย่าง GOKOO และ E-Gets เป็นน้องใหม่วงการเดลิเวอรี่เข้ามาเปิดบริการโดยเป้าหมายของผู้ใช้งานเริ่มแรก เป็นชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ก่อนจะเป็นที่รู้จักสำหรับคนไทยในภายหลัง
GOKOO เกิดจากบริษัทจีนร่วมทุนไทย
สำหรับ GOKOO เปิดให้บริการในประเทศไทยเมื่อต้นปี 2564 โดยบริษัท โกคู ออนไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนและไทย
โดยจากข้อมูลพบว่าผู้พัฒนาแอปฯ นี้คือวิศวกร และโปรแกรมเมอร์ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส จากบริษัทยูนิคอร์นชั้นนำของจีนอย่าง Alibaba และ Meituan ที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมธุรกิจออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์ มานานหลายทศวรรษ และมีผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย ช่วยสร้างทีมงานหลังบ้าน
ปัจจุบัน GOKOO กลายเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำในตลาดกลุ่มชาวจีนในประเทศไทย
และด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทีมงานจึงได้ขยายขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีพนักงานที่ประเทศไทยมากกว่า 100 คน นอกจากนั้นยังมีทีมงานพัฒนาระบบหลายสิบคน และมีไรเดอร์ที่เชี่ยวชาญทั้งภาษาไทย และภาษาจีนนับร้อยคน ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงเปิดรับสมัครไรเดอร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
GOKOO ได้รับการพัฒนาและอัปเดตใหม่อยู่เรื่อย ๆ จนแพลตฟอร์มค่อยๆ เริ่มมีการเปิดตัวธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่ให้บริการอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มลูกค้าชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมากขึ้น
มีการให้บริการร้านค้ามากมาย ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์แก่ผู้ใช้งานกับร้านค้า รวมไปถึงร้านอาหาร ที่พักโรงแรม บัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ความสวยความงาม การพักผ่อนและสันทนาการ เป็นต้น
ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้งานมากกว่า 1 แสนราย และมีร้านค้าพันธมิตรมากกว่า 25,000 ราย
E-Gets ตีตลาดกัมพูชาสำเร็จ ขยายสู่ตลาดไทย
ในขณะที่ E-Gets เป็นแอปฯ สัญชาติจีนที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีน โดยมีสโลแกนว่า “Enjoy Easy Life” มุ่งมั่นที่จะสร้างแพลตฟอร์มบริการชีวิตครบวงจรชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลก โดยใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมเป็นจุดแข็ง เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลในภูมิภาคนี้
จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นจากการเข้าไปเปิดตลาดกัมพูชาได้สำเร็จ
โดยมีการร่วมมือกับร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ ในพนมเปญและสีหนุวิล และได้รับผลตอบรับดีจากชาวจีนที่อยู่ในกัมพูชา ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 70% เป็นชาวจีน
และกำลังตีตลาดลาว เวียดนาม และไทย โดย E-GetS รองรับหลายภาษา เช่น จีน อังกฤษ กัมพูชา เวียดนาม ลาว ไทย ญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย เพื่อให้ผู้ใช้จากหลากหลายภูมิภาคสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก
นอกจากนี้ E-GetS ยังมีแอปพลิเคชันเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการร้านค้า (E-GetS Store) และพนักงานจัดส่ง (E-GetS Driver) เพื่อช่วยในการจัดการคำสั่งซื้อ และการจัดส่งอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับในประเทศไทย E-GetS ได้เปิดตัวเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา พร้อมโปรทุบตลาดเดลิเวอรี่ อย่างแบรนด์ Mixue, Snow tea เหลือแค่แก้วละ 10 บาท แถมยังทุบราคาทุเรียน ผลไม้ยอดนิยมทั้งคนไทย คนจีน จาก 300 บาทลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง
ในระยะแรก ขอบเขตการจัดส่งอยู่แค่ห้วยขวาง-พระราม 9 เท่านั้น แต่ ณ ปัจจุบันเริ่มขยายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ และพัทยา
ไม่ใช่แค่สองแอปฯ นี้ที่ให้บริการในไทยเท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้ มี Feixiang (เฟยเซี่ยง แปลว่าช้างบิน) ซึ่งเป็นแอปฯ สำหรับสั่งอาหารที่เน้นกลุ่มคนจีนในไทย และมีผู้บริหารคนจีนเช่นเดียวกัน
ขายอาหารจีน-ไทยราคาย่อมเยาวน์
ทั้งนี้ โพสต์ทูเดย์ได้สำรวจการใช้งานทั้งสองแอปฯ พบว่า ร้านอาหารส่วนใหญ่ เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มจีน มีร้านอาหารไทยตามสั่งบ้าง โดยราคาขายขึ้นอยู่กับประเภทอาหาร ขณะที่อาหารตามสั่งบางรายการมีราคาถูกตั้งแต่ 20-30 บาทเป็นต้นไป ขึ้นอยู่กับประเภทอาหาร ขณะที่บางร้านใช้ราคามาตรฐาน
นับว่าเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ ของธุรกิจใหม่ ๆ จากจีนที่เข้ามาสู่ประเทศไทย
ที่มาข้อมูล : Money Buffalo


