ธุรกิจ Wellness & Healthcare สดใส คาดปี 2027 สร้างรายได้เข้าประเทศได้ 8 แสนล้าน
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หวังดันไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ มองเห็นโอกาสเติบโตของ ธุรกิจ Wellness & Healthcare คาด ปี 2027 สร้างรายได้เข้าไทยไม่ต่ำกว่า 8 แสนล้านบาท
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า Medical Hub เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาบริการทางการแพทย์และสุขภาพให้มีคุณภาพสูงที่ครอบคลุมทั้งการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้สนใจด้านสุขภาพจากทั่วโลก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายพิชัย นริพทะพันธุ์) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายนภินทร ศรีสรรพางค์) จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งยกระดับอุตสาหกรรม Wellness and Healthcare ให้พร้อมรับมือเทรนด์สุขภาพโลกที่กำลังมาแรง เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้บริหารและผู้ประกอบการในธุรกิจ Wellness and Healthcare ให้มีความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจ การตลาด การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ แก่ลูกค้าพร้อมศึกษาดูงานจากสถานประกอบการจริง และนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาศักยภาพธุรกิจให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
ผู้ประกอบการต้องมีทักษะ-เข้าใจกฏระเบียบ
โดยผู้ประกอบธุรกิจ Wellness and Healthcare ในปัจจุบัน นอกจากจะต้องมีทักษะความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ การตลาดแล้ว ยังควรมีความเข้าใจในข้อกำหนด กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน รวมถึงการใช้ประโยชน์จากข้อตกลง FTA และการยกระดับการบริการด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้วยคุณภาพตามมาตรฐานสากล
การรวมกลุ่มเพื่อเชื่อมโยงธุรกิจและสร้างความสัมพันธ์ให้เกิดการขยายเครือข่ายภายในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อุปทาน รองรับการปรับตัวและเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นการกระตุ้นให้ธุรกิจบริการไทยมีความพร้อมปรับตัวรองรับกติกาการค้าตามระเบียบโลกใหม่
ไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางสุขภาพ
นางอรมน กล่าวต่อว่า ธุรกิจ Wellness and Healthcare มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการที่ผู้ประกอบการควรศึกษาและทำความเข้าใจแนวโน้มเหล่านี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีบริการคลังข้อมูลธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ (DBD DataWarehouse+) ทางลัดที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการค้นหาข้อมูล เพื่อวางแผนธุรกิจและปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของไทยในเวทีการค้าระหว่างประเทศ
ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายและอุปสรรคอีกหลายประการ การพัฒนาธุรกิจ Wellness and Healthcare อย่างยั่งยืนจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการยกระดับมาตรฐาน พัฒนาบุคลากร เพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ ส่งเสริมการตลาด และปรับตัวรองรับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติอย่างแท้จริง
ซึ่งกรมฯ มองเห็นแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะให้การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการในธุรกิจ Wellness และ Healthcare อย่างเต็มที่
ผู้ประกอบการ 2.8 หมื่นรายในธุรกิจสุขภาพ
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2568) ประเทศไทยมีนิติบุคคลธุรกิจ Healthcare & Wellness คงอยู่จำนวน 28,536 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 359,321 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 1.13 ล้านล้านบาท โดยแบ่งตามประเภทธุรกิจ ดังนี้
- บริการสปาและนวดเพื่อสุขภาพ 1,806 ราย ทุน 10,315 ล้านบาท
- บริการความงาม 2,421 ราย ทุน 6,574 ล้านบาท
- บริการทางการแพทย์ 9,570 ราย ทุน 218,202 ล้านบาท
- บริการดูแลผู้สูงอายุ 765 ราย ทุน 4,216 ล้านบาท
- ค้าส่ง-ปลีก เภสัชภัณฑ์ทางการแพทย์ 13,974 ราย ทุน 120,014 ล้านบาท


