รมว.พาณิชย์ซาอุดีฯ เตรียมนำรัฐ-เอกชนเยือนไทย ผลักดันมูลค่าการค้า-ลงทุน
ภูมิธรรม หารือทูตซาอุดีอาระเบีย เตรียมพร้อมต้อนรับรมว.พาณิชย์ นำคณะเอกชนเยือนไทยกว่า 100 บริษัท ตั้งเป้าจับคู่เจรจาธุรกิจ ผลักดันมูลค่าการค้า การลงทุนไทย-ซาอุดีฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้น
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับ นายอับดุรเราะห์มาน อับดุลอะซีซ อัลซุฮัยบานี เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่าเป็นครั้งแรกที่ตนได้พูดคุยกระชับความสัมพันธ์กับฝ่ายซาอุดีอาระเบีย โดยเป็นการหารือเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ ดร. มาญิด บิน อับดุลเลาะฮ์ อัลกอเศาะบี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ซาอุดีอาระเบีย ในฐานะแขกของกระทรวงพาณิชย์ ในช่วงระหว่างวันที่ 8 – 10 พฤษภาคม 2567
นับตั้งแต่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อปี 2565 ไทยกับซาอุดีอาระเบียมีความสัมพันธ์ที่รุดหน้าอย่างรวดเร็ว มีการเดินทางเยือนของผู้แทนระดับสูงระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง เช่น การเสด็จฯ เยือนไทยอย่างเป็นทางการของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 และการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนตุลาคม 2566 เป็นต้น นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า การค้าระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียมีทิศทางขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการค้าที่มิใช่น้ำมัน (non-oil trade) และยังมีศักยภาพในการขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศได้อีกมาก โดยไทยได้แสดงความพร้อมที่จะใช้จุดเด่นของไทยในการสนับสนุนด้านความมั่นคงทางอาหารให้แก่ซาอุดีอาระเบีย ขณะที่ฝ่ายซาอุดีฯ ได้แสดงความพร้อมที่จะเป็นแหล่งความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ไทย
นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้แสดงความพร้อมและความยินดีอย่างยิ่งที่จะต้อนรับ ดร.มาญิด ซึ่งจะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก โดย ดร. มาญิด เป็นรัฐมนตรีที่มีบทบาทสำคัญ และได้รับการยอมรับจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างกว้างขวาง โดย ดร. มาญิด จะนำคณะภาครัฐ และภาคเอกชน จำนวนกว่า 100 บริษัท เดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ เพื่อสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างภาคเอกชนสองฝ่าย ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิดโอกาสทางการค้าและการลงทุนร่วมกันอีกมาก โดยเฉพาะในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพและความเชี่ยวชาญ อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม การก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง การท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าและของใช้ในบ้าน ยานยนต์และชิ้นส่วน ปุ๋ย พลังงานและพลังงานทดแทน
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 17 ของไทย และอันดับที่ 2 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยในปี 2566 การค้าระหว่างกันมีมูลค่า 8,796.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ คิดเป็น 305,738.80 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการค้า 1.53% ของการค้าทั้งหมดของไทยกับโลก โดยไทยส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย 2,667.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 92,076.43 ล้านบาท และไทยนำเข้าจากซาอุดีอาระเบีย 6,128.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 213,662.37 ล้านบาท สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยาง และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันสำเร็จรูป


