posttoday

สปสช.แจงปรับแนวทาง 'หน่วยนวัตกรรม' เป็นโควต้ารายสัปดาห์ ด้วยข้อจำกัดงบประมาณ

31 ธันวาคม 2568

สปสช. แจงปรับแนวทางให้บริการใหม่ 'หน่วยนวัตกรรมทั่วประเทศ' เป็นระบบโควต้ารายสัปดาห์ ด้วยข้อจำกัดงบประมาณ

KEY

POINTS

  • สปสช. ปรับแนวทางบริการของ 'หน่วยนวัตกรรม' เนื่องจากงบประมาณปี 2569 เหลือเพียง 737 ล้านบาท จากทั้งหมด 2,790 ล้านบาท
  • เปลี่ยนมาใช้ "ระบบโควต้ารายสัปดาห์" โดยกำหนดจำนวนครั้งการให้บริการเพื่อบริหารงบประมาณที่เหลือให้ครอบคลุมตลอดทั้งปี
  • แนวทางใหม่นี้จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2569 เป็นต้นไป โดยหน่วยบริการที่ไม่ประสงค์จะให้บริการตามแนวทางใหม่ สามารถแจ้งยกเลิกสัญญาก่อนครบ 1 ปีได้

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดประชุมชี้แจงการปรับแนวทางการให้บริการของ “หน่วยบริการนวัตกรรม” ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2568 ให้กับผู้ประกอบการหน่วยบริการนวัตกรรมทั่วประเทศ ผ่านระบบออนไลน์ โดยมี ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้บริหาร สปสช. ที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมชี้แจงในครั้งนี้

 

คงเหลืองบประมาณ 737 ล้านบาท

 

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2567 สปสช. ได้เริ่มเปิดให้บริการหน่วยบริการนวัตกรรม โดยร่วมมือกับ 7 สภาวิชาชีพ เพื่อเป็นหน่วยบริการเสริมเพิ่มเติมในการดูแลผู้มีสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ภายใต้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่

ปีงบประมาณ 2567

  • ประชาชนเข้ารับบริการอยู่ที่ 4 ล้านคน หรือเป็นจำนวน 10 ล้านครั้ง
  • เบิกจ่ายค่าบริการจำนวน 2,190 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2568

  • ประชาชนเข้ารับบริการมากขึ้น เพิ่มเป็น 10 ล้านคน หรือเป็นจำนวน 31 ล้านครั้ง
  • เบิกจ่ายค่าบริการเป็นจำนวน 6,700 ล้านบาท

ปีงบประมาณ 2569  (จากข้อมูลบริการในช่วงกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ( 15 ก.ย. – 24 ธ.ค. 68))

  • ประชาชนเข้ารับบริการแล้วกว่า 5 ล้านคน หรือเป็นจำนวน 9 ล้านครั้ง
  • เบิกจ่ายค่าบริการไปแล้วจำนวน 2,052 ล้านบาท 

ขณะที่ สปสช. จัดสรรงบประมาณรองรับบริการไว้ที่จำนวน 2,790 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันมีงบประมาณคงเหลือรองรับบริการที่หน่วยบริการนวัตกรรมเพียง 737 ล้านบาท

 

 

จัดสรรเป็นระบบโควต้า กำหนดจำนวนครั้งในแต่ละสัปดาห์

 

ด้วยข้อจำกัดงบประมาณดังกล่าว ซึ่งเป็นงบประมาณปลายปิด สปสช.จึงต้องปรับวิธีการและเงื่อนไขการให้บริการ เพื่อให้หน่วยบริการนวัตกรรมคงให้บริการประชาชนในปีนี้ต่อไปได้ โดยได้หารือร่วมกับสภาวิชาชีพและนำเสนอต่อ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) พิจารณา ซึ่งจะมีการนำ “ระบบโควต้าการให้บริการรายสัปดาห์” มาดำเนินการ

สปสช. จะกำหนดจำนวนครั้งการให้บริการของหน่วยบริการนวัตกรรมในแต่ละสัปดาห์ ด้วยวิธีนำงบประมาณที่มีอยู่และดูผลบริการย้อนหลังของแต่ละวิชาชีพ เพื่อกำหนดเป็นค่ากลางและคำนวณเฉลี่ยเป็นจำนวนโควตา ซึ่งจะอัพเดทโควต้าให้หน่วยบริการนวัตกรรมรับทราบทุกสัปดาห์
          
ขณะที่ประชาชนจะเข้ารับบริการโดยเป็นไปตามเงื่อนไข เช่น อาการเจ็บป่วยเล็กน้อยรับบริการได้ 2 ครั้งต่อคนต่อปี เป็นต้น เพื่อให้การจัดบริการและการใช้งบประมาณเป็นไปอย่างเหมาะสม ครอบคลุมการบริการตลอดทั้งปีงบประมาณ

 

รายละเอียดหน่วยบริการที่จะยกเลิกสัญญา

 

ทพ.อรรถพร กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ สปสช. ได้พัฒนาระบบสนับสนุนต่างๆ อาทิ การยืนยันตัวตนด้วยระบบ Face Recognition หรือการสแกนใบหน้า การเชื่อมโยงข้อมูลบริการกับ Health Link หรือแอปพลิเคชันอื่น และการพัฒนาระบบตรวจสอบ (Audit) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและความโปร่งใสในการเบิกจ่าย รวมถึงการจัดเครือข่ายหน่วยบริการ เพื่อให้หน่วยบริการนวัตกรรมสามารถส่งต่อผู้ป่วยไปยังหน่วยบริการปฐมภูมิหรือโรงพยาบาลได้ 
          
“แนวทางการให้บริการของหน่วยบริการนวัตกรรมในรูปแบบใหม่นี้ จะเริ่มในวันจันทร์ที่ 12 มกราคม 2569 โดยในระหว่างนี้ สปสช. จะเร่งประชาสัมพันธ์ไปยังหน่วยบริการนวัตกรรมเพื่อให้เกิดความชัดเจน พร้อมควบคู่กับการสร้างความเข้าใจกับประชาชน” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
          
ทพ.อรรถพร กล่าวต่อว่า ในการร่วมเป็นหน่วยบริการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามประกาศหลักเกณฑ์เดิมนั้น หน่วยบริการจะต้องร่วมให้บริการเป็นระยะเวลาครบ 1 ปีก่อน จึงจะยกเลิกสัญญาได้

อย่างไรก็ตาม ในการปรับแนวทางการให้บริการหน่วยบริการนวัตกรรม เพื่อให้หน่วยบริการนวัตกรรมที่ไม่ประสงค์จะร่วมให้บริการตามแนวทางใหม่นี้ เพื่อให้เป็นไปตามความสมัครใจ สปสช. จึงได้มีการปรับหลักเกณฑ์ใหม่ โดยให้สามารถออกจากระบบก่อนครบปีตามสัญญาได้ โดยให้แจ้งเจตน์จำนงไปยัง สปสช.เขตพื้นที่ ระบุเหตุผลหรือความจำเป็นในการลาออก ซึ่ง สปสช. จะดำเนินการตรวจสอบตามขอบเขต แจ้งวันสิ้นสุดการเป็นหน่วยบริการในระบบ รวมถึงการเบิกจ่ายต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการเรียกเก็บและค้างจ่ายระหว่างกัน
          
สำหรับในส่วนของหลักประกันสัญญานั้น ทางสำนักงานฯ จะคืนเงินประกันสัญญาครบถ้วนจำนวน 10,000 บาท ที่ทางหน่วยบริการให้ไว้ในการทำสัญญาบริการ โดยไม่ได้มีการยึดเงินในส่วนนี้แต่อย่างใด  
          
“สปสช. ยืนยันพร้อมสนับสนุนหน่วยบริการนวัตกรรมทั้ง 7 ประเภท และไม่มีนโยบายที่ให้หนวยบริการลาออก หรือยุบหน่วยบริการใด เนื่องจากเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพและลดความแออัดในโรงพยาบาล แต่ด้วยข้อจำกัดวงเงินปีนี้ ทำให้จำเป็นต้องปรับเงื่อนไขการให้บริการและการเบิกจ่าย” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว

 

สปสช.แจงปรับแนวทาง 'หน่วยนวัตกรรม' เป็นโควต้ารายสัปดาห์ ด้วยข้อจำกัดงบประมาณ

 

ข่าวล่าสุด

สปสช.แจงปรับแนวทาง 'หน่วยนวัตกรรม' เป็นโควต้ารายสัปดาห์ ด้วยข้อจำกัดงบประมาณ