ท่องเที่ยว 2026 : เมื่อ AI พลิกโฉม แบรนด์ต้องเติม Human Touch
เจาะลึก OAC Forum 2025 ชี้ AI ปฏิวัติท่องเที่ยว นักเดินทางใช้ AI วางแผน แต่กุญแจความสำเร็จคือการผสานเทคโนโลยีกับความจริงใจแบบมนุษย์ที่ AI แทนไม่ได้
เมื่อ AI ครองกระดาน: ทางรอดท่องเที่ยวปี 2026 คือการกลับสู่ "ความเป็นมนุษย์"
ในอดีต เราอาจมองว่าการท่องเที่ยวคือเรื่องของการ "ไปให้ถึงและสัมผัสของจริง" แต่ในเวที OAC Regional Communications Forum 2025 ภายใต้ธีม AI-Powered PR ได้เปิดเผยความจริงใหม่ที่น่าตระหนกและท้าทายว่า AI ไม่ได้เข้ามาเป็นแค่ตัวช่วย แต่กำลัง "ล้มกระดาน" วิธีคิดเดิมๆ ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไปอย่างสิ้นเชิง
เมื่อเทคโนโลยีฉลาดขึ้น โจทย์ใหญ่ของแบรนด์และผู้ประกอบการจึงไม่ใช่แค่การวิ่งตามเทรนด์ แต่คือการยืนหยัดใน "ความเป็นมนุษย์" ท่ามกลางกระแสอัลกอริทึม
1. จาก "สถานที่" สู่ "ประสบการณ์" และการวางแผนผ่าน AI
เมล เค กวน จากควอตโตร คอมมิวนิเคชันส์ (มาเลเซีย) ชี้ให้เห็นจุดเปลี่ยนสำคัญหลังยุคโควิด นักท่องเที่ยวไม่ได้ต้องการแค่ไป "เช็คอิน" ตามสถานที่ดังอีกต่อไป แต่พวกเขามองหา "Meaningful Experience" หรือประสบการณ์ที่มีความหมายเฉพาะตัว
พฤติกรรมนี้ส่งผลต่อเครื่องมือที่ใช้ ปัจจุบันนักเดินทางหันมาใช้ AI อย่าง ChatGPT หรือ Gemini ในการวางแผนทริปแทนการเสิร์ช Google แบบเดิม เพราะ AI สามารถวิเคราะห์ความต้องการที่ซับซ้อนและออกแบบตารางเที่ยวที่ "รู้ใจ" รายบุคคลได้แม่นยำกว่า การสื่อสารของแบรนด์จึงต้องเปลี่ยนจากการโฆษณา เป็นการ "เล่าเรื่อง" (Storytelling) ที่เชื่อมโยงนักท่องเที่ยวเข้ากับชุมชนและวิถีชีวิตท้องถิ่นอย่างแท้จริง
2. เอาชนะ "ความเหนื่อยหน่าย" ด้วยอารมณ์ความรู้สึก
เมื่อ AI ช่วยให้การผลิตคอนเทนต์ง่ายและเร็วขึ้น ผลข้างเคียงคือภาวะ "ข้อมูลท่วมท้น" (Information Overload) ที่ทำให้ทุกอย่างดูเหมือนกันไปหมด คุณคาร์โบ ยู จากซินแคลร์ คอมมิวนิเคชันส์ (ฮ่องกง) เตือนว่า สิ่งนี้จะนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจของผู้บริโภค
ทางออกไม่ใช่การแข่งกันผลิตคอนเทนต์ให้เยอะขึ้น แต่คือการใส่ "Human Touch" หรืออารมณ์ความรู้สึกเข้าไป แบรนด์ไม่ควรพึ่งพา Influencer เพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นเจ้าของเรื่องราวที่แข็งแกร่ง น่าเชื่อถือ (Credibility) และมีความเข้าอกเข้าใจบริบทท้องถิ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ยังทำแทนไม่ได้
3. Human Intelligence: จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ AI ขาดหาย
มาเรียน วอลช์-ฮีดูอิน จากไมเนอร์ โฮเทลส์ และคุณโนเอล เรเน่ นีเอวา จากเพอร์เซ็ปชันส์ (ฟิลิปปินส์) เห็นตรงกันว่า แม้ AI จะเก่งกาจเรื่องการประมวลผลข้อมูลมหาศาล แต่มนุษย์ยังต้องทำหน้าที่เป็น Gatekeeper
มนุษย์มีความสามารถในการอ่านบรรยากาศ เข้าใจบริบททางวัฒนธรรมที่ละเอียดอ่อน และมีความรับผิดชอบทางจริยธรรม ข้อมูลระบุชัดว่าเนื้อหาที่มนุษย์สร้างสรรค์ (Human-generated content) มักได้รับความไว้วางใจและการจัดอันดับที่ดีกว่าเนื้อหาจาก AI ล้วนๆ
บทสรุปสู่ปี 2026 อนาคตของการท่องเที่ยวไม่ใช่การเลือกระหว่าง "เทคโนโลยี" หรือ "มนุษย์" แต่คือการผสมผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน การใช้ AI เป็นเพื่อนคู่คิดในการจัดการข้อมูล แต่ใช้หัวใจของมนุษย์ในการส่งมอบความจริงใจและความรู้สึก
ในวันที่โลกหมุนเร็วด้วย AI แบรนด์ที่จะชนะใจนักเดินทางได้ คือแบรนด์ที่ยังคงรักษาจิตวิญญาณแห่งการต้อนรับและความเป็นมนุษย์ไว้ได้อย่างมั่นคงที่สุด