เปิดเทรนด์อินเทอร์เน็ต 2025 สงครามบอท AI ภัยไซเบอร์รุนแรงขึ้น
Cloudflare เปิดภาพรวมอินเทอร์เน็ตปี 2025 เมื่อโลกออนไลน์กำลังถูก “รื้อโครงสร้างใหม่” ท่ามกลางสงครามบอท AI และภัยไซเบอร์ที่รุนแรงขึ้น
KEY
POINTS
- สงครามบอท AI ทวีความรุนแรงขึ้น โดยบอทของ Google มีกิจกรรมมากกว่าบอท AI ชั้นนำอื่นๆ ทั้งหมดรวมกัน ทำให้ Google กลายเป็นแหล่งทราฟฟิกอัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดเพียงรายเดียว
- ภัยคุกคามทางไซเบอร์เปลี่ยนเป้าหมาย โดยเป็นครั้งแรกที่ภาคประชาสังคมและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรกลายเป็นภาคส่วนที่ถูกโจมตีมากที่สุด แซงหน้าภาคธุรกิจและเทคโนโลยี
- ความรุนแรงของภัยไซเบอร์สูงเป็นประวัติการณ์ โดยเกิดการโจมตีแบบ DDoS ครั้งใหญ่ที่สุดกว่า 25 ครั้ง และเกือบครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักของอินเทอร์เน็ตครั้งใหญ่ทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล
อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันไม่ได้แค่ “เปลี่ยนแปลง” แต่กำลังถูก “ปรับโครงสร้างพื้นฐานใหม่ทั้งหมด”
ปี 2025 นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของโลกอินเทอร์เน็ต เมื่อ Cloudflare บริษัทผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตและระบบคลาวด์ระดับโลก เผยแพร่ รายงานสรุปภาพรวมอินเทอร์เน็ตประจำปี (Cloudflare Year in Review 2025) ซึ่งถือเป็นปีที่หกของรายงานชุดนี้ และเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลที่ครอบคลุมพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากที่สุดในโลก รายงานฉบับนี้สะท้อนให้เห็นทั้งการเติบโตเชิงปริมาณ การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง และความท้าทายด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่เข้มข้นขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
Cloudflare ระบุว่า ปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกในปี 2025 เพิ่มขึ้นถึง 19% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนบทบาทของอินเทอร์เน็ตที่ฝังลึกยิ่งขึ้นทั้งในชีวิตประจำวัน การทำงาน และระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ปัจจัยสำคัญมาจากการเติบโตของบริการดิจิทัล การใช้ AI อย่างแพร่หลาย และการพึ่งพาแพลตฟอร์มออนไลน์ในระดับโครงสร้างพื้นฐานของสังคม
ในขณะเดียวกัน ปีนี้ยังเป็นปีที่เห็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญด้านความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะ การเข้ารหัสแบบหลังควอนตัม (Post-Quantum Cryptography) ซึ่ง Cloudflare ระบุว่า สามารถปกป้องข้อมูลการสื่อสารของมนุษย์บนอินเทอร์เน็ตได้แล้วกว่า 52% เพื่อเตรียมรับมือกับภัยคุกคามจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีก็เดินมาพร้อมความเสี่ยง เมื่อปี 2025 กลายเป็นปีที่เกิด การโจมตีแบบ DDoS ครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์กว่า 25 ครั้ง สะท้อนการทวีความรุนแรงของสงครามไซเบอร์ในระดับโลก
แมทธิว พรินซ์ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Cloudflare ให้มุมมองว่า อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันไม่ได้แค่ “เปลี่ยนแปลง” แต่กำลังถูก “ปรับโครงสร้างพื้นฐานใหม่ทั้งหมด” ตั้งแต่บทบาทของ AI ไปจนถึงผู้ไม่หวังดีที่มีความคิดสร้างสรรค์และซับซ้อนมากขึ้น เขาระบุว่า Cloudflare ซึ่งเป็นเครือข่ายที่รองรับทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตจำนวนมหาศาลในทุกวินาที มีความรับผิดชอบโดยตรงในการช่วยให้โลกออนไลน์พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และเดินไปสู่อนาคตที่ปลอดภัยและยั่งยืนกว่าเดิม
รายงานยังชี้ให้เห็นถึง โครงสร้างอำนาจของแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตที่ยังคงชัดเจน โดย Google และ Meta (Facebook เดิม) ครองอันดับหนึ่งและสองของบริการอินเทอร์เน็ตยอดนิยมของโลกเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน ขณะที่ในหมวด Generative AI นั้น ChatGPT ยังคงรักษาตำแหน่งแพลตฟอร์มอันดับหนึ่ง ท่ามกลางการแข่งขันของ AI ที่ร้อนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตาคือ “สงครามบอท AI” ซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดย Cloudflare พบว่า บอทของ Google มีปริมาณกิจกรรมมากกว่าบอท AI ชั้นนำรายอื่นรวมกันทั้งหมด ทำให้ Google กลายเป็นแหล่งทราฟฟิกอัตโนมัติ (Automated Traffic) ที่ใหญ่ที่สุดเพียงรายเดียวในระบบนิเวศอินเทอร์เน็ตปัจจุบัน
ในเชิงความปลอดภัย ภาพที่น่ากังวลคือ การเปลี่ยนเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์ เป็นครั้งแรกที่ภาคประชาสังคมและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร กลายเป็นภาคส่วนที่ถูกโจมตีมากที่สุด แซงหน้าภาคธุรกิจและเทคโนโลยี สาเหตุสำคัญมาจากลักษณะข้อมูลที่มีความอ่อนไหวสูง และศักยภาพในการนำข้อมูลไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเงินหรือการเมือง
ด้านเสถียรภาพของอินเทอร์เน็ต Cloudflare ระบุว่า รัฐบาลยังคงเป็นสาเหตุหลักของการหยุดชะงักของอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ โดยเกือบครึ่งหนึ่งของเหตุการณ์ทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดการเข้าถึงหรือปิดระบบบางส่วน ขณะที่การหยุดชะงักจากการตัดสายเคเบิลใต้น้ำลดลงเกือบ 50% แต่เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าดับกลับเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า สะท้อนความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานในยุคดิจิทัล
ในด้านคุณภาพการเชื่อมต่อ ยุโรปก้าวขึ้นเป็นผู้นำของโลกอย่างชัดเจน โดยหลายประเทศมีความเร็วอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยมากกว่า 200 Mbps และสเปนขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของโลกในด้านคุณภาพอินเทอร์เน็ตโดยรวม ทั้งความเร็ว ความเสถียร และประสบการณ์ผู้ใช้
ข้อมูลทั้งหมดในรายงานนี้มาจาก Cloudflare Radar เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตแบบเปิด ที่ใช้ข้อมูลจากเครือข่าย Cloudflare ซึ่งครอบคลุมกว่า 330 เมืองในมากกว่า 120 ประเทศ รวมถึงข้อมูลที่ผ่านการไม่ระบุตัวตนจากบริการ DNS สาธารณะ 1.1.1.1 ซึ่งได้รับความนิยมในฐานะ DNS ที่รวดเร็วและคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้จากแหล่งข้อมูลหลักของ Cloudflare ได้แก่
- Cloudflare Year in Review 2025 Blog
- Most Popular Internet Services of 2025
- Cloudflare Year in Review 2025 Microsite
รายงานฉบับนี้ไม่เพียงสะท้อนภาพอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนว่า โลกดิจิทัลในอนาคตจะต้องเผชิญทั้งโอกาสและความเสี่ยงในระดับที่ซับซ้อนและเข้มข้นยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา
สรุป
รายงานสรุปประจำปีของ Cloudflare นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับภูมิทัศน์ของอินเทอร์เน็ตที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อช่วยให้โลกออนไลน์มีความพร้อม ยืดหยุ่น และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ไฮไลท์สำคัญของปี 2025 ได้แก่ข่าวต่อไปนี้
- Google และ Meta ยังคงครองตำแหน่งสูงสุดต่อเนื่องเป็น : ปีที่สี่ติดต่อกัน: Google และ Facebook (ปัจจุบันคือ Meta) ยังคงรักษาสถานะผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตยอดนิยมที่สุดสองอันดับแรกของโลกไว้ได้ ในขณะที่ ChatGPT ยังคงรักษาอันดับหนึ่งในหมวดหมู่ปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
- สงครามบอท AI ทวีความรุนแรงขึ้น โดยมีผู้เล่นหลักเพียงรายเดียว : บอทของ Google มีกิจกรรมมากกว่าบอท AI ชั้นนำอื่นๆ ทั้งหมด ทำให้ Google กลายเป็นแหล่งที่มาของการรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตอัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดเพียงแหล่งเดียว
- อาชญากรไซเบอร์หันไปหาเป้าหมายที่เปราะบางใหม่ : เป็นครั้งแรกที่ภาคประชาสังคมและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรกลายเป็นภาคส่วนที่ถูกโจมตีมากที่สุด ซึ่งอาจเป็นเพราะลักษณะที่ละเอียดอ่อนและมูลค่าทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นของข้อมูลผู้ใช้ของพวกเขา
- รัฐบาลเป็นสาเหตุหลักของการหยุดชะงักครั้งใหญ่ : เกือบครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักของอินเทอร์เน็ตครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล แม้ว่าการหยุดชะงักที่เกิดจากการตัดสายเคเบิลจะลดลงเกือบ 50% และการหยุดชะงักที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าดับจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าก็ตาม
- ยุโรปเป็นผู้นำของโลกด้านความเร็วและคุณภาพอินเทอร์เน็ต : ประเทศในยุโรปครองความเป็นผู้นำด้านการเชื่อมต่อทั่วโลก โดยมีอัตความเร็วในการดาวน์โหลดเฉลี่ยสูงสุด (ทั้งหมดสูงกว่า 200 Mbps) และสเปนครองอันดับหนึ่งของโลกในด้านคุณภาพอินเทอร์เน็ตโดยรวม


