ดีอี เตือนข่าว ปรับสิทธิค่ายาข้าราชการปี 69 ได้เฉพาะยาสามัญ ไม่จริง
กระทรวงดิจิทัลฯ เตือนข่าวลวง “ปี 69 เบิกค่ายาได้เฉพาะยาสามัญ” เป็นข่าวปลอม สร้างความเข้าใจผิดในสังคม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณา ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ
KEY
POINTS
- กระทรวงดีอีเตือนว่าข่าวการปรับสิทธิเบิกค่ายาข้าราชการในปี 2569 ให้เบิกได้เฉพาะยาสามัญเป็นข้อมูลเท็จ
- กรมบัญชีกลางยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาและยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด
- ประชาชนควรติดตามความคืบหน้าจากช่องทางที่เป็นทางการของกรมบัญชีกลางเพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้อง
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ติดตามและรับแจ้งข่าวปลอมในช่วงวันที่ 5–11 กันยายน 2568 พบข้อความที่เข้าข่ายต้องตรวจสอบจำนวนทั้งสิ้น 807 ข้อความ
โดยช่องทางที่พบมากที่สุดมาจากระบบ Social Listening ซึ่งประมวลผลแล้วมี 216 เรื่องที่เข้าข่ายต้องตรวจสอบอย่างเป็นทางการ และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 89 เรื่อง
โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่
อันดับที่ 1 : เรื่อง ปรับสิทธิค่ายาข้าราชการ ปี 69 เบิกได้เฉพาะยาสามัญ
อันดับที่ 2 : เรื่อง ไทยยิงปราสาทพระวิหารเสียหาย
อันดับที่ 3 : เรื่อง ศบ.ทก. อนุมัติ แผนสร้างรั้ว 16 กิโลเมตร หลักเขตแดนที่ 50 ถึง 51
อันดับที่ 4 : เรื่อง ผลิตภัณฑ์ BLACK RHINO ช่วยเพิ่มขนาดน้องชาย
อันดับที่ 5 : เรื่อง แจ้งเตือนให้พลเรือน จ.สระแก้ว ออกจากพื้นที่ชายแดน
อันดับที่ 6 : เรื่อง กทม. จัดซื้อสายสูบน้ำดับเพลิง ท่อดูด เส้นละ 42,900 บาท
อันดับที่ 7 : เรื่อง กระทรวงวัฒนธรรม ยอมรับ รามเกียรติ์เป็นของกัมพูชา
อันดับที่ 8 : เรื่อง กระทรวงวัฒนธรรม พร้อมยกชุดไทยให้กัมพูชา
อันดับที่ 9 : เรื่อง ประกาศวันหยุดราชการพิเศษ วันที่ 12 กันยายน 2568
อันดับที่ 10 : เรื่อง เลขาฯ ป.ป.ส. เตรียมยื่นใบลาออกหลังมีการประกาศนายกคนที่ 32 ของไทย
สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “ปรับสิทธิค่ายาข้าราชการ ปี 69 เบิกได้เฉพาะยาสามัญ” กระทรวงดีอี ได้ประสานงานร่วมกับ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตรวจสอบข่าวเรื่อง รัฐปรับสิทธิค่ายาข้าราชการ ปี 69 เบิกได้เฉพาะยาสามัญ หากเลือกยาต้นแบบต้องร่วมจ่ายเอง พบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยขอชี้แจงว่า ในขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณายังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด ขอให้ประชาชนติดตามข่าวความคืบหน้าการดำเนินงาน ผ่านทาง www.cgd.go.th หรือ Facebook กรมบัญชีกลางที่มีเครื่องหมาย verify เท่านั้น เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง


