'Psy กังนัมสไตล์' ถูกสอบสวนกรณีรับยา 'อัลปราโซแลม' โดยไม่พบแพทย์
อันตรายแค่ไหน? จากข่าว 'Psy' ศิลปินเกาหลีใต้เจ้าของเพลงฮิต 'กังนัมสไตล์' กำลังถูกสอบกรณีรับยา 'อัลปราโซแลม' โดยไม่พบแพทย์
จากประเด็นร้อนแรงทางฝั่งเกาหลีใต้ เมื่อมีการรายงานประเด็นนักร้อง 'ไซ' (Psy)' หรือเจ้าของเพลงดัง 'Gangnam Style' ถูกตั้งข้อสงสัยว่าละเมิดพระราชบัญญัติการบริการทางการแพทย์ ในประเด็นที่ว่า 'มีการสั่งยาจิตเวชผ่านบุคคลอื่นหรือไม่?'
เรื่องนี้ มีจุดเริ่มต้นจาก เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ไซและศาสตราจารย์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยรายหนึ่ง (ระบุตัวตนเพียง A) ถูกแจ้งความในข้อหาละเมิดพระราชบัญญัติการบริการทางการแพทย์ โดยตำรวจระบุว่า ไซถูกกล่าวหาว่า ได้รับใบสั่งยาสำหรับ ยาจิตเวช (psychotropic drugs) จากโรงพยาบาลทั่วไปในกรุงโซลโดยไม่ได้เข้าพบแพทย์ด้วยตนเอง
เนื่องจากกฎหมายเกาหลีใต้ ยาจิตเวชสามารถสั่งจ่ายได้ก็ต่อเมื่อมีการพบและปรึกษาแพทย์โดยตรงเท่านั้น และโดยทั่วไปผู้ป่วยจะต้องเป็นผู้รับยาด้วยตนเอง ยกเว้นกรณีสำคัญที่มีข้อจำกัด เช่น ผ่านทางสมาชิกครอบครัวใกล้ชิดหรือผู้ดูแลจึงจะสามารถรับยาแทนได้
อย่างไรก็ตาม ต้นสังกัดพีเนชัน (P Nation) ของ 'ไซ' ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (28 สิงหาคม 2568) โดยยอมรับว่า การให้บุคคลที่สามไปรับยานอนหลับตามใบสั่งแพทย์แทน ถือเป็นความผิดพลาดและความประมาทที่ปฏิเสธไม่ได้
ต้นสังกัดยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า นักร้องมีอาการโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง มานาน และต้องใช้ยานอนหลับที่แพทย์สั่งจ่ายอยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม 'ไซ' ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำและปริมาณยาที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และไม่ได้มีการสั่งยาผ่านผู้อื่นแต่อย่างใด แต่ชี้แจงว่ามีบางกรณีที่บุคคลที่สามไปรับยานอนหลับแทน
สำนักข่าวโคเรียไทม์ ของเกาหลีใต้ระบุว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งยาที่รายงานว่าไซ (Psy) ได้รับ ได้แก่
ยาในกลุ่มอัลปราโซแลม (Alprazolam) และโซลพิเดม (Zolpidem)
ซึ่งมักใช้รักษาอาการ นอนไม่หลับ และ โรควิตกกังวล ทั้งสองชนิดเป็นยาที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงต่อการเสพติดและการพึ่งพายา
ทำไมยากลุ่มอัลปราโซแลมและโซลพิเดมจึงถูกควบคุมเข้มงวด?
เรื่องของไซยังคงต้องเข้าสู่การสืบสวนต่อไป ตามระบบกฎหมายของเกาหลีใต้ แต่เมื่อย้อนกลับมาในประเทศไทย หากจำกันได้กับคดี 'หมอแอร์' ซึ่งดำรงตำแหน่งแพทย์และตำรวจประจำ รพ.ตำรวจ ถูกจับในข้อหา ลักลอบจำหน่ายยาควบคุม (sedatives) โดยเฉพาะ 'อัลปราโซแลม' ซึ่งเป็นการสั่งซื้อยาโดยใช้ชื่อคลินิกปลอมถึง 11 แห่ง และมีการเก็บยาในห้องพักของตำรวจก่อนจำหน่ายต่อ มีเส้นทางการเงินหมุนเวียนสูงถึง 80 ล้านบาท
ทำไม 'อัลปราโซแลม' จึงถูกควบคุม? และควรให้แพทย์สั่งให้เท่านั้น?
เนื่องจาก อัลปราโซแลม หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ 'ยาเสียสาว' ถูกจัดเป็น ยาในวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ตามกฎหมายไทย (ถูกยกระดับควบคุมจากประเภท 4 ในปี 2555)
ยาชนิดนี้มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาอื่นๆ ที่พบ เช่น คลายกล้ามเนื้อลาย (muscle relaxants) ต้านอาการชัก (antiepileptics) ทำให้สูญเสียความทรงจำชั่วขณะ (anterograde amnesia) ความสามารถในการเรียนรู้ และความจำลดลง สมรรถภาพในการทำงานที่ต้องใช้ความชำนาญ หรือการตัดสินใจฉับพลันเสื่อมลง
เนื่องจากยานี้มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลางจึงมีผู้ที่นำยานี้มาใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด เช่น นำไปก่ออาชญากรรม หรือ เป็นสารเสพติด
ในบางกรณีมีรายงานว่า คนไข้กินยาแล้ว 'ทำกิจกรรมโดยไม่รู้ตัว' เช่น ขับรถ ทำอาหาร หรือเดินออกจากบ้าน โดยไม่จำเหตุการณ์ทีหลัง และหากใช้ร่วมกับแอลกอฮอล์หรือยากดประสาทอื่น อาจกดการหายใจจนเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ หากใช้ยากลุ่มนี้ในขนาดสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการติดยาทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งถ้าหยุดยาทันทีจะเกิดอาการขาดยาหรือถอนยา เช่น คลื่นไส้ นอนไม่หลับ มือสั่น หัวใจเต้นเร็ว ซึมเศร้า เป็นโรคจิต หรืออาจถึงกับชักได้
ส่วน 'โซลพิแดม' เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 4 มีฤทธิ์กดประสาท สามารถทำให้ง่วง สับสน และอาจเกิดการเสพติดหรือพึ่งพายาได้หากใช้ต่อเนื่องเช่นกัน
ด้วยเหตุผลดังกล่าว 'อัลปราโซแลม' และ 'โซลพิแดม' จึงถูกควบคุมเข้มงวดและควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น ไม่ควรจะไปหาซื้อมารับประทานเองอย่างเด็ดขาด!


