posttoday

สพฉ.จ่อเก็บ ‘ค่าบริการการแพทย์ฉุกเฉิน’ จากประกัน และกองทุนรัฐฯ ตามกฎหมาย

27 สิงหาคม 2568

สพฉ.จ่อกำหนดอัตราค่าบริการการแพทย์ฉุกเฉิน เรียกเก็บจากประกัน และกองทุนของรัฐฯ ตามกฎหมาย หลังไม่เคยเรียกเก็บ 20 ปี แม้ค่าบริการรวมอยู่ในประกันและบางกองทุนของรัฐฯ

วันนี้ (27 สิงหาคม 2568) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน (กพฉ.) และ ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ พร้อมคณะกรรมการฯ เข้าร่วมงานแถลงข่าว มติ ‘เห็นชอบ’ หลักการและนโยบายของสพฉ. (สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ) ที่จะดำเนินการกำหนดและเรียกเก็บค่าบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินและค่าดำเนินกิจการของสถาบัน

 

โดยมีการกำหนดแนวทางการดำเนินการสำคัญ ดังนี้

 

  1. กำหนดอัตราค่าบริการการแพทย์ฉุกเฉินและกิจการของสถาบัน ทั้งบริการการแพทย์ฉุกเฉินทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ (Thai Sky Doctor)
  2. เรียกเก็บค่าบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน จากประกันนักท่องเที่ยว ประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุ ประกันวินาศภัย และจากกองทุนต่างๆ ของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งค่าดำเนินกิจการของสถาบัน

 

ทั้งนี้ ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า

 

“อำนาจของสพฉ. สามารถกำหนดค่าบริการและเรียกเก็บเงินส่วนนี้ได้ตามพระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ.2551ในมาตรา 15 (8)  ส่วนที่เป็นโรงพยาบาลก็จะได้รับด้านการรักษาไป แต่ส่วนที่เป็นนอกโรงพยาบาลจะอยู่ในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อไปจ่ายค่าชดเชยให้แก่หน่วยปฏิบัติการทั้งหมด

รวมไปถึงการเพิ่มหน่วยบริการให้เพิ่มขึ้นและครอบคลุม และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองต่อผู้ป่วยฉุกเฉินในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว“

 

โดย ดร.พิเชษฐ์ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมกับ โพสต์ทูเดย์ ว่า ก่อนหน้านี้ทาง สพฉ. ไม่เคยเรียกเก็บเงินส่วนนี้จากหน่วยงานใดเลย เป็นการจ่ายออกของรัฐ 100% แม้ว่าในบางแพ็คเกจประกัน หรือบางกองทุนฯ มีการตั้งงบตรงนี้ไว้ก็ตาม การเรียกรถผ่าน 1669 นั้น สพฉ.เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

 

แนวทางต่อไปเป็นการ ‘ศึกษา’ เพื่อกำหนดอัตราบริการให้บอร์ดเห็นชอบก่อนที่จะมีการเรียกเก็บค่าบริการต่อไป โดยทางสพฉ. มีการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นแล้ว

 

ทั้งนี้ เลขาธิการสพฉ. กล่าวย้ำว่า การเรียกเก็บดังกล่าวจะไม่เก็บตรงไปที่ประชาชน

 

“ เราจะไม่เก็บตรงไปที่ประชาชน เราจะต้องเจรจากับกองทุนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนประกันต่างๆ เป็นเรื่องความสมัครใจ ซึ่งจริงๆ มีส่วนเหล่านี้ในประกันอยู่แล้ว  ส่วนนี้น่าจะทำให้ผู้ป่วยมั่นใจว่าเขาจะได้รับการตอบสนองในด้านการแพทย์ฉุกเฉินมากขึ้น”

 

ต้องการงบเพิ่ม 9 พันล้านบาทเพิ่มปฏิบัติการครอบคลุมอีกกว่า 35% ของประเทศ!

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน กล่าวว่า เพื่อให้มาตรฐานการแพทย์ฉุกเฉินของไทยครอบคลุมและเทียบเท่ามาตรฐานสากล จึงเสนอนโยบายดังกล่าว ที่ไม่พึ่งพางบประเทศเพิ่มเติม แต่จะใช้งบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ประกัน และกองทุนจากภาครัฐ เพื่อนำไปพัฒนาระบบเพิ่มเติม ได้แก่

 

  1. กำหนดอัตราค่าบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
  2. ขยายหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินครอบคลุมทุกตำบล
  3. พัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินแบบ Real Time
  4. จัดการอบรมด้านการแพทย์ฉุกเฉินให้แก่ประชาชน

 

ทั้งนี้ ภายในระยะเวลา 3 ปี ประชาชนรวมไปถึงนักท่องเที่ยวจะสามารถเข้าถึงบริการการแพทย์ฉุกเฉินไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 และสามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ ปลอดภัย และทันสมัยมากขึ้น

 

สพฉ.จ่อเก็บ ‘ค่าบริการการแพทย์ฉุกเฉิน’ จากประกัน และกองทุนรัฐฯ ตามกฎหมาย

สำหรับงบประมาณของระบบการแพทย์ฉุกเฉินในไทยที่ผ่านมาได้รับงบปีละ 1,050 ล้านบาท จ่ายค่าชดเชยปฏิบัติการในอัตราเดิมที่ต่ำกว่าต้นทุนเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี และมีความจำเป็นต้องของบกลางเพิ่มปีละ 200-300 ล้านบาททุกปี   

 

โดยสัดส่วนงบประมาณด้านการแพทย์ฉุกเฉินต่องบประมาณสุขภาพรวมประเทศของไทย น้อยกว่าร้อยละ 0.01 คิดเป็น 16 บาทต่อคนต่อปี ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่กำหนดไว้ร้อยละ 5-10 และเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีระบบการแพทย์ฉุกเฉินที่เข้มแข็ง อย่างญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ จะมีงบประมาณราว 100-1,000 บาทต่อคนต่อปี

 

“กองทุนที่ได้รับไม่เพียงพอ แต่ผู้ป่วยฉุกเฉินเพิ่มทุกปีราว 1 แสนถึง 2 แสนคน ปัจจุบันอยู่ที่ 2.2 ล้านคน ซึ่งเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินเพียง 35% เพราะยังมีผู้ป่วยที่ต้องเดินทางไปเอง เนื่องจากหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินไม่ครอบคลุมทั้งประเทศ เราไม่สามารถไปช่วยผู้ป่วยได้ทันเวลา เนื่องจากหน่วยบริการไม่ได้อยู่ครอบคลุมทุกตำบล

ปัจจุบันนี้มีตำบลที่ไม่มีหน่วยบริการราว 34% หรือราวๆ 2 พันกว่าตำบลที่ไม่มีหน่วยปฏิบัติอยู่เลย จึงเป็นความขาดแคลนพื้นฐาน ที่ควรจะดูแลให้ทั่วถึงทั้งประเทศ“ เลขาธิการสพฉ.ระบุ

 

ทั้งนี้ มติ กพฉ.เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ได้กำหนดวงเงิบงบประมาณเพื่อพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินให้เท่าเทียม ทั่วถึง และลดการเสียชีวิตและความพิการของผู้ป่วยก่อนถึงสถานพยาบาลไว้ที่ 9,704.08 ล้านบาท

 

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ซันเดอร์แลนด์ พบ นิวคาสเซิ่ล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68