วัดขุนสมุทรจีน เหลือที่ 5 ไร่! หนึ่งตัวชี้วัดกรุงเทพฯ จะน้ำท่วม

วันนี้ (30 มิถุนายน 2568) ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ออกโรงเตือนใน เพจโซเชียลมีเดีย ชี้โลกร้อนกำลังส่งผลกระทบต่อการกัดเซาะในเขตกรุงเทพฯและสมุทรปราการ โดยระบุว่า

1. องค์การอุตุนิยมโลก(WMO) ได้คาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกในช่วง 2025 ถึง 2029 พบว่าอุณหภูมิของโลกมีค่าโดยเฉลี่ยสูงขึ้นถึง1.5 องศาเซลเซียส เทียบกับช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม (คศ.1760 -1825) แล้ว

การคาดการณ์พบว่าในช่วงปี 2025-2029 ในแต่ละปีอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกอาจจะเพิ่มขึ้นระหว่าง1.2 ถึง1.9องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง คือ ระดับน้ำทะเลเฉลี่ยทั่วโลกสูงขึ้นประมาณ 21-24 เซนติเมตร (8-9 นิ้ว) การเพิ่มขึ้นนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและแผ่นน้ำแข็งรวมถึงการขยายตัวของน้ำทะเลเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นโดยระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร่งขึ้น โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 3.6 มิลลิเมตรต่อปี

2. กรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ มีการทรุดตัวของแผ่นดินเฉลี่ยประมาณ 1-2 เซนติเมตรต่อปี  อย่างไรก็ตามการทรุดตัวของดินในบางพื้นที่อาจมากกว่านั้น  โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำหรือพื้นที่ที่มีการสูบน้ำบาดาล

ปัจจัยที่ทำให้เกิดการทรุดตัวของแผ่นดิน ได้แก่ การสูบน้ำบาดาล  การก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ การถมดินหรือการอัดแน่นของดินบริเวณฐานรากอาคาร ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการทรุดตัวของดินได้ นอกจากนี้สภาพพื้นดินเป็นดินเหนียวอ่อนซึ่งเป็นดินที่มีการทรุดตัวได้ง่ายที่สุด

3. ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพฯ เฉลี่ยแล้วเพิ่มขึ้นประมาณ 5.8 มิลลิเมตรต่อปี ขณะที่มีการทรุดตัว เกิดขึ้น เฉลี่ยปีละ1-2เซนติเมตร  สิ่งที่ตามมาหากโลกยังประสบปัญหาอุณหภูมิสูงขึ้นและประเทศไทยยังไม่มีการปรับตัว อาจจะทำให้จังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพมหานครถูกน้ำท่วมทั้งหมดในปี 2050 ได้

หลักฐานเห็นได้ชัดคือที่ วัดขุนสมุทรจีน ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ กลายเป็นวัดที่อยู่กลางทะเล เป็นพื้นที่ที่มีการกัดเซาะที่รุนแรงที่สุดในประเทศไทย ที่ดินของวัดในอดีตมีเนื้อที่กว่า 76 ไร่ ได้รับบริจาคมาจากชาวบ้านขุนสมุทรจีน แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 5 ไร่เท่านั้นเพราะถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนหายไปหมด

ทั้งนี้  วัดขุนสมุทรจีน ตั้งอยู่ที่ ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ บริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่อ่าวไทย เดิมพื้นที่รอบวัดเป็นชุมชนคนไทยเชื้อสายจีนที่อพยพมาตั้งรกรากช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ (ราวต้นพุทธศตวรรษที่ 24) วัดนี้สร้างขึ้นสร้างขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนที่อาศัยอยู่ในแถบป่าชายเลน 

อย่างไรก็ตามในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา น้ำทะเลกัดเซาะทำให้พื้นที่หมู่บ้านรอบวัดหายไปในทะเล จากการศึกษาของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พบว่า แนวชายฝั่งบริเวณนี้ถอยร่นกว่า 1 กิโลเมตรในรอบไม่กี่สิบปี ทำให้ปัจจุบันวัดถูกล้อมด้วยทะเลแทบทุกด้าน ตัวอุโบสถยืนอยู่กลางน้ำ จนถูกเรียกว่า “วัดกลางน้ำ” หรือ “อุโบสถกลางทะเล” ทำให้วัดขุนสมุทรจีนกลายเป็น สัญลักษณ์สำคัญของผลกระทบโลกร้อนต่อชุมชนชายฝั่งไทย