posttoday

ทาสแมวจงฟัง! ประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ของ 'แมว' เนื่องใน 'วันกอดแมวสากล'

04 มิถุนายน 2568

โพสต์ทูเดย์ เปิดประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ของ 'แมว' ว่าแมวเข้ามามีบทบาทในชีวิต 'มนุษย์อย่างไร' เนื่องในวันที่ 4 มิถุนายนของทุกปีเป็น 'วันกอดแมวสากล'

'ทาสแมว' จงฟัง เพราะนี่คือ ประวัติศาสตร์ 'เผ่าพันธุ์แมว'  ที่ โพสต์ทูเดย์ หามาให้ทุกคนได้รู้กัน!

 

แมวไม่ใช่สัตว์ที่มนุษย์ฝึกมาเชื่องเหมือนสุนัข แต่กลับ 'เลือก' ที่จะอยู่ใกล้มนุษย์เอง เพราะเหตุผลด้านอาหารและความปลอดภัย นี่คือจุดเริ่มต้นของการอยู่ร่วมกันระหว่างสองสายพันธุ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

หลักฐานทางโบราณคดีชี้ว่า แมวบ้าน (Felis catus) มีต้นกำเนิดจากแมวป่าแอฟริกัน (Felis lybica) ซึ่งแพร่พันธุ์อยู่ในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือในยุคก่อนประวัติศาสตร์ จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อราว 9,500 ปีก่อน ในยุคที่มนุษย์เริ่มเปลี่ยนจากการล่าสัตว์สู่การทำเกษตรกรรมแบบตั้งถิ่นฐาน เมื่อมนุษย์ทำการเกษตร  ปลูกข้าว ข้าวบาเล่ย์ และธัญพืชต่างๆ ที่ดึงดูดให้สัตว์ที่ไม่ถูกกับแมวอย่าง 'หนู' เข้ามาในพื้นที่! จุดนี้เองจึงทำให้ 'แมว' เลือกและตัดสินใจเข้ามาวนเวียนอยู่ใกล้กับมนุษย์ โดยไม่ต้องฝึกให้เชื่องแต่อย่างใด เพราะเจ้าแมวรู้ว่า 'ต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน' 

 

Felis lybica

 

ปี 2004 นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสค้นพบโครงกระดูกแมวฝังร่วมกับมนุษย์ในหลุมศพที่เกาะไซปรัส ซึ่งเก่าแก่กว่าฟาโรห์องค์ใดในอียิปต์หลายพันปี การพบนี้แสดงให้เห็นว่า แมวเริ่มเข้ามาอยู่ในวิถีชีวิตของมนุษย์อย่างใกล้ชิดแล้วในช่วงเวลานั้น

 

ต่อมาในสมัยโลกยุคโบราณ แมวกลับมีบทบาทสำคัญมากกว่าเดิม! เนื่องจากในอารยธรรมอียิปต์โบราณ แมวถูกยกย่องให้เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์และเป็นสัญลักษณ์ของ 'เทพี Bastet'  เทพีแห่งความคุ้มครอง ความอ่อนโยน และดนตรี  'เทพี Bastet'  มักถูกวาดภาพเป็นสตรีที่มีหัวแมว แมวจึงได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพสูงสุด มีการจัดพิธีฝังศพแมวพร้อมเครื่องบูชา และครอบครัวที่แมวตายอาจต้องโกนคิ้วเพื่อแสดงความเศร้าโศกอีกด้วย

 

  เทพี Bastet

 

ความศักดิ์สิทธิ์ของแมวเข้มขนาดที่มีกฎหมายคุ้มครองเรื่อง 'การฆ่าแมว' แม้โดยอุบัติเหตุอาจนำไปสู่โทษประหาร ในบางยุคสมัย มีการจัดพิธีฝังแมวอย่างเป็นทางการ พร้อมของเซ่นไหว้ และพบ 'มัมมี่แมว' นับแสนตัวในสุสานโบราณ

 

แมวไม่ได้หยุดอยู่แค่ในอียิปต์ ช่วง 1,000 ปีก่อนคริสตกาล การค้าทางทะเลในเมดิเตอร์เรเนียนนำแมวไปสู่แผ่นดินกรีก โรมัน และตะวันออกกลาง แมวเริ่มมีบทบาทในเรือเดินทะเลเพื่อควบคุมหนูที่ทำลายเสบียงและเชือกเส้นใยพืช  ส่วนในอารยธรรมกรีกและโรมัน แมวไม่ถูกยกให้เป็นเทพเจ้า แต่ก็ได้รับความเคารพในฐานะสัตว์ฉลาด คล่องแคล่ว และมี  'นิสัยเหมือนนักปราชญ์'  

 

จากจุดสูงสุด สู่การพลิกผันครั้งแล้วครั้งเล่าของ 'เผ่าพันธุ์แมว' 

จุดพลิกผันของสถานะ 'แมว' ก็มีเช่นเดียวกับมนุษย์  แม้แมวจะเคยรุ่งเรืองในอียิปต์และได้รับความเคารพในโลกยุคโบราณ แต่เมื่อเวลาผ่านเข้าสู่ยุคกลาง ภาพลักษณ์ของแมวกลับพลิกกลับอย่างสุดขั้ว

ในช่วงศตวรรษที่ 13–17 ยุโรปตกอยู่ในยุคของความกลัว ไสยศาสตร์ และศาสนจักรที่มีอิทธิพลสูง สันตะปาปาเกรกอรีที่ 9 (Pope Gregory IX) เคยออกประกาศในปี ค.ศ. 1233 ว่าแมวเป็น "สัตว์ปีศาจ" ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับคาถาและพิธีกรรมของแม่มด  โดยเฉพาะแมวดำกลายเป็นสัญลักษณ์ทางไสยศาสตร์ว่า และถูกเรียกว่าเป็น 'บริวารของปีศาจ' แมวถูกกล่าวหาว่าเป็นสหายของแม่มดและมีพลังเหนือธรรมชาติ หลายเมืองมี 'การสังหารแมวหมู่' เพื่อแสดงพลังแห่งศาสนาและขจัดความชั่วร้าย อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่าการลดจำนวนแมวอาจทำให้ประชากรหนูเพิ่มขึ้น และเป็นปัจจัยหนึ่งของการแพร่ระบาดของกาฬโรคในศตวรรษที่ 14

 

สันตะปาปาเกรกอรีที่ 9

 

อย่างไรก็ตาม ในยุควิกตอเรีย (ศตวรรษที่ 19) ที่อังกฤษ โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นกลางและบน 'แมว' ก็กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง  เหตุจากควีนวิกตอเรียเองก็ทรงเลี้ยงแมว และให้การสนับสนุนสังคมคุ้มครองสัตว์ (RSPCA) การเลี้ยงแมวกลายเป็นเรื่องของ 'ผู้ดี' และเริ่มมีการเพาะพันธุ์เพื่อความสวยงามเกิดขึ้น ไม่ได้เป็นแมวที่มีประโยชน์เพียงเพื่อไล่หนูเท่านั้น!  จนกระทั่ง ในปี 1871 มีการจัดงาน ประกวดแมวครั้งแรกของโลก ที่ Crystal Palace ในลอนดอน มีแมวสายพันธุ์เปอร์เซียและอังกฤษเข้าร่วมด้วย  

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง 'แมวสยาม หรือแมวไทย' ซึ่งมีขนสีครีม จุดสีเข้ม และตาสีฟ้าอันโดดเด่น ได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูงของยุโรปและอเมริกา โดยเชื่อว่าเป็นแมวที่มาจากราชสำนักแห่งสยาม และเป็นสัญลักษณ์แห่งความลึกลับ

 

แมวสยาม

 

'แมว' กับความใกล้ชิดกับสายพันธุ์มนุษย์

 

แมวไม่ได้ถูกพัฒนาสายพันธุ์เพื่อประโยชน์ใช้งานเช่นการล่าสัตว์หรือเฝ้าบ้านเหมือนสุนัข ทำให้แมวบ้านยังมีลักษณะพันธุกรรมใกล้เคียงกับบรรพบุรุษมาก นอกจากนี้ การถอดรหัสพันธุกรรมของแมวในปี 2007 แสดงให้เห็นว่า แมวมีโครงสร้างจีโนมบางส่วนคล้ายมนุษย์ในด้านการรับรู้ การมองเห็น และระบบประสาท ทำให้แมวกลายเป็นสัตว์ต้นแบบในงานวิจัยเกี่ยวกับโรคตา โรคประสาท และพันธุกรรม โดยเฉพาะโรคจอประสาทตาเสื่อมที่เกิดในแมวบางพันธุ์

และในปี 1963 ประเทศฝรั่งเศสเคยส่งแมวชื่อ Félicette ขึ้นสู่อวกาศในการทดลองเพื่อศึกษาระบบประสาทในภาวะไร้น้ำหนัก แม้ภารกิจจะกินเวลาเพียง 15 นาที แต่นับเป็นครั้งแรกที่แมวได้ก้าวขาออกนอกโลก Félicette กลายเป็นสัญลักษณ์ของบทบาทแมวในโลกวิทยาศาสตร์ แม้จะไม่ค่อยมีคนจดจำเธอเท่าสุนัขอวกาศจากรัสเซียอย่างไลก้าก็ตาม

 

เจ้าแมว Félicette

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่พูดถึงในแง่วิทยาศาสตร์ ความใกล้ชิดกับสายพันธุ์มนุษย์ของ 'แมว' ก็มีมากขึ้น และกลายเป็น 'สัตว์เลี้ยง' ที่หลายคนยอมสยบกลายเป็น 'ทาสแมว' กันไปนักต่อนัก  แมวกลายเป็นตัวแทนของอารมณ์ขัน ความเป็นอิสระ และความลึกลับในวัฒนธรรมร่วมสมัย ตั้งแต่งานศิลปะ วรรณกรรม ภาพยนตร์ จนถึงมีมในโลกอินเทอร์เน็ต  นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่บอกว่าการได้สัมผัสแมวหรือเลี้ยงดูแมวช่วยเรื่อง 'สุขภาพ' ของมนุษย์ได้อย่างดี

 

Cheshire Cat ใน Alice’s Adventures in Wonderland

 

เสียงครางในลำคอของแมวซึ่งมีความถี่ราว 25-150 Hz เชื่อกันว่าส่งผลบวกต่อการผ่อนคลายระบบประสาท และอาจช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมของกล้ามเนื้อและกระดูก และการดูแลแมวยังช่วยส่งเสริมความรับผิดชอบ การเข้าใจอารมณ์ตนเอง และลดความรู้สึกโดดเดี่ยว งานวิจัยหลายชิ้นพบว่าแมวมีส่วนช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด และส่งผลดีต่อผู้ป่วยภาวะซึมเศร้าหรือ PTSD แม้แต่แค่การลูบแมว ก็สามารถกระตุ้นการหลั่งสาร 'ออกซิโทซิน' (oxytocin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความรัก ความผูกพัน และความไว้วางใจได้

.

.

จากสัตว์ป่าในตะวันออกกลางเมื่อกว่า 9,000 ปีก่อน สู่การเป็นเทพเจ้าในอียิปต์ ผู้เฝ้าหนูในคลังเสบียงยุโรป จนถึงผู้สร้างยอดวิวในโลกออนไลน์ นี่คือ 'ประวัติศาสตร์แมว' ที่อยู่ร่วมกับ 'ทาสมนุษย์' อย่างย่อ ที่ต่อให้เปลี่ยนหลายบทบาทแต่แมวก็ยังคงนิสัย 'แมว' ที่รักอิสระและอยู่กับมนุษย์ เหมือนต่างคนต่างมีผลประโยชน์ร่วมกันแบบมีระยะห่างเสมอ .. แต่ดูเหมือนว่านิสัยแบบนี้ของแมวจะยิ่งเปิดพื้นที่ให้แก่จิตใจของมนุษย์ได้อย่างเหลือเชื่อ

ใครเป็น 'ทาสแมว' วันนี้ก็อย่าลืมกลับไปกอดแมว เนื่องใน วันกอดแมวสากล หรือ National Hug Your Cat Day  กัน

 

 

ที่มา

Driscoll, C. A. et al., "The Near Eastern Origin of Cat Domestication", Science, 2007

Malek, Jaromir. The Cat in Ancient Egypt. University of Pennsylvania Press, 1997

Thomas, Keith. Religion and the Decline of Magic. Penguin, 1991

ข่าวล่าสุด

เส้นทาง “เถ้าแก่ส้ม” ร้อยล้าน ปั้นโชกุนเบตง–สายน้ำผึ้งฝางดังทั่วประเทศ