posttoday

มาดู! ประกันสังคมแจง 750 บาทที่หักแต่ละเดือน เป็นค่าอะไรบ้าง

13 พฤษภาคม 2568

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม แจงยิบเงินสมทบ 750 บาทที่หักไปแต่ละเดือน ไปอยู่ตรงไหนบ้าง ชี้อย่าคิดว่าไม่คุ้มถ้าไม่ได้ใช้สิทธิรักษาพยาบาล

นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่าผู้ประกันตนจะได้รับความคุ้มครองจากการนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือนในอัตรา 5% ของค่าจ้าง บวกกับนายจ้างสมทบในอัตรา 5% เช่นกัน นอกจากนี้ รัฐบาลร่วมสมทบในอัตรา 2.75% รวมทั้ง 3 ฝ่าย เป็น 12.75%

โดยกำหนดเพดานค่าจ้างสูงสุดสำหรับคำนวณเงินสมทบไว้ที่อัตราเดือนละ 15,000 บาท ดังนั้น ผู้ประกันตนที่มีเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป จะชำระเงินสมทบ 5% จากเพดานค่าจ้างสูงสุด 15,000 บาท หรือเดือนละ 750 บาท นายจ้างจะสมทบด้วย 750 บาท และรัฐบาลร่วมสมทบอีก 412.50 บาท รวมเงินสมทบ 3 ฝ่าย 1,912.50 บาท

เงินสมทบดังกล่าว สำหรับใช้ในการจ่ายสิทธิประโยชน์ทั้ง 7 กรณี ให้แก่ผู้ประกันตน ได้แก่

  • กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย
  • กรณีคลอดบุตร
  • กรณีทุพพลภาพ
  • กรณีตาย
  • กรณีสงเคราะห์บุตร
  • กรณีชราภาพ
  • กรณีว่างงาน

 

สำนักงานประกันสังคมได้นำไปจัดสรรสำหรับการจ่ายสิทธิประโยชน์แต่ละกรณี ลงรายละเอียดดังนี้

 

675 บาท หรือ 4.5%

นำไปใช้ในกรณีเจ็บป่วย ซึ่งครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ทันตกรรม และเงินทดแทนการขาดรายได้ที่ต้องหยุดพักรักษาตัวตามคำสั่งแพทย์ ค่าคลอดบุตร รวมถึงค่าฝากครรภ์และเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อคลอดบุตร เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ เงินจัดการศพและเงินสงเคราะห์กรณีตาย 


1,050 บาท หรือ 7%

นำไปใช้ในกรณีชราภาพ และสงเคราะห์บุตร โดยเป็นเงินออมกรณีบำเหน็จบำนาญชราภาพให้ผู้ประกันตน 900 บาท และกรณีสงเคราะห์บุตร 150 บาท


187.50 บาท หรือ 1.25%

นำไปใช้สำหรับการจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน

 

ทั้งนี้ ไม่ใช่ผู้ประกันตนทุกคนต้องชำระเงินสมทบ 750 บาทต่อเดือน ผู้ประกันตนมีค่าจ้างไม่ถึง 15,000 บาท จะชำระในอัตรา 5% ของค่าจ้างจริง เช่น ค่าจ้าง 10,000 บาท จะจ่ายเงินสมทบในอัตรา 500 บาทต่อเดือน เป็นต้น

 

ชี้บางคนอาจมองว่าไม่คุ้มเพราะไม่ได้ใช้สิทธิรักษาพยาบาล

นางมารศรี กล่าวต่อว่า ในกรณีที่ผู้ประกันตนไม่เคยใช้สิทธิการรักษาพยาบาล รวมถึงไม่มีครอบครัว อาจรู้สึกว่าไม่คุ้มกับเงินสมทบที่นำส่งนั้น ขอชี้แจงข้อมูลให้ทราบว่า ถึงแม้ผู้ประกันตนไม่เจ็บป่วย ไม่ได้ใช้สิทธิในการรักษาพยาบาล แต่กองทุนประกันสังคมได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลในลักษณะเหมาจ่ายให้กับโรงพยาบาลคู่สัญญาเป็นประจำทุกเดือน เพื่อรองรับความเสี่ยงและให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ในยามจำเป็นหรือในเวลาฉุกเฉินได้ โดยไม่ต้องกังวลถึงค่าใช้จ่าย

ในกรณีที่ผู้ประกันตนที่ไม่เคยใช้สิทธิใดๆ เลย ก็ขอให้อุ่นใจได้ว่ายังมีเงินออมกรณีชราภาพคอยดูแลในยามเกษียณ นอกจากนี้ กรณีผู้ประกันตนเสียชีวิต ทายาทผู้มีสิทธิจะได้รับเงินค่าทำศพ เงินสงเคราะห์กรณีตาย และเงินบำเหน็จชราภาพของผู้ประกันตน เป็นหลักประกันว่า หากเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น ก็ยังมีสิทธิประโยชน์จากสำนักงานประกันสังคมให้การดูแลแก่ครอบครัวของผู้ประกันตนต่อไป.

ข่าวล่าสุด

คดีพลิก สหรัฐฯปลดล็อกขายชิปให้จีน แต่รัฐบาลจีนอาจไม่อยากซื้อ