posttoday

ยุบสภาฯ สะดุดงบ! “หวยเกษียณ” กอช.ชี้ อาจขายไม่ทันไตรมาส 1 ปี 69

23 ธันวาคม 2568

กอช. รับยุบสภา - ตั้งรัฐบาลใหม่ ฉุดไทม์ไลน์ “หวยเกษียณ” ระบบพร้อม 95% เตรียมทดสอบ Sandbox ก่อนขายจริง พร้อมปี 69 เล็งลงทุนต่างประเทศ 7% ตั้งเป้าผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ

KEY

POINTS

  • การยุบสภาและเปลี่ยนผ่านทางการเมืองส่งผลให้การพิจารณางบประมาณกลางสำหรับเงินรางวัลของ "หวยเกษียณ" ต้องล่าช้า
  • แผนการเปิดจำหน่ายสลาก "หวยเกษียณ" ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2569 มีแนวโน้มต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
  • โครงการจะสามารถเดินหน้าได้ต่อเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ และอนุมัติกฎกระทรวงพร้อมงบประมาณที่เกี่ยวข้อง

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือ “หวยเกษียณ” ว่า พระราชบัญญัติจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการหลังวันที่ 6 มกราคม 2569 โดยขณะนี้ กอช. ได้เสนอรายละเอียดกฎกระทรวง ซึ่งครอบคลุมหลักเกณฑ์การออกสลาก เงินรางวัล รวมถึงการใช้งบประมาณกลาง ต่อ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว


อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากระบวนการต่างๆ อาจล่าช้ากว่าที่คาด จากสถานการณ์ยุบสภาและการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ทำให้ต้องรอการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ให้แล้วเสร็จเสียก่อน จึงจะสามารถเดินหน้าเปิดจำหน่ายสลากได้

ในส่วนความพร้อมด้านระบบเทคโนโลยี เลขาธิการ กอช. ระบุว่า ระบบหลังบ้านดำเนินการแล้วเสร็จไปกว่า 95% หากกฎกระทรวงและงบประมาณกลางได้รับความชัดเจนตามแผน ก็สามารถเริ่มกระบวนการจำหน่ายได้ทันที โดยขั้นแรกจะมีการทดสอบในรูปแบบ Sandbox ซึ่งเป็นการจำหน่ายและออกรางวัลแบบเสมือนจริง ก่อนเปิดขายให้ประชาชนทั่วไปในปี 2569 ทั้งนี้ ช่วงเวลาการทดสอบจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง


“เป้าหมายเดิมที่วางไว้ในการเปิดจำหน่ายช่วงไตรมาส 1 ปี 2569 นั้น ยอมรับว่ายังไม่สามารถระบุกรอบเวลาที่แน่นอนได้ เนื่องจากยังต้องรอความคืบหน้าของกฎกระทรวงและความชัดเจนของงบประมาณกลาง ซึ่งหากงบประมาณสำหรับเงินรางวัลยังไม่ได้รับการอนุมัติ ก็จะไม่สามารถเริ่มจำหน่ายสลากได้ แม้กฎหมายลูกจะแล้วเสร็จก็ตาม” 

ขณะเดียวกัน กอช. ได้รายงานผลการดำเนินงานในปี 2568 ว่า ปัจจุบันมีสมาชิกสะสมรวม 2,838,537 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 140,000 คน นับเป็นอีกปีที่จำนวนสมาชิกขยายตัวในระดับสูง โดยมูลค่ากองทุนรวมอยู่ที่ประมาณ 15,000 ล้านบาท ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนยังคงเน้นความมั่นคงเป็นหลัก ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทยประมาณ 80% และตราสารทุนไทยไม่เกิน 20%


สำหรับปี 2569 กอช. มีแผนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศราว 7% ของสินทรัพย์เสี่ยง เพื่อยกระดับผลตอบแทนให้กับสมาชิก โดยตั้งเป้าผลตอบแทนชนะอัตราเงินเฟ้ออย่างน้อย 1% พร้อมตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่อีก 150,000 คน

โดยจุดเด่นของ กอช. คือการให้ความคุ้มครองด้านผลตอบแทนแก่สมาชิก ซึ่งต้องสูงกว่าเงินฝาก ทำให้การลงทุนจำเป็นต้องดำเนินอย่างรอบคอบ ไม่เน้นความเสี่ยงสูง แต่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงในระยะยาว
 

ข่าวล่าสุด

ชี้จุด วิ่งฟรี มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน - นครราชสีมา ต้องไปจุดไหน?