โรคอ้วนคุกคามคนกรุง "ข้าราชการ-นักเรียน" น้ำหนักเกินพรึ่บ
เปิดตัวเลขช็อก! คนกรุงอ้วนเกินครึ่ง กทม. ชี้ Workไร้ Balance ต้นตอปัญหา พร้อมเปิดแผนเชิงรุก สร้างเมืองที่เอื้อสุขภาพ
ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเดนมาร์กฯ ย่านสาทร ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของการประชุมเชิงนโยบาย รองศาสตราจารย์ ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่ากังวลเกี่ยวกับสุขภาพของคนกรุงเทพฯ
ในงาน “Public Policy Forum : Obesity - A National Threat to Health and Wealth, Act Now for Our Future Generations” ซึ่งจัดขึ้นโดยสถานทูตเดนมาร์กฯ และบริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด
เปิดตัวเลขช็อก! สุขภาพคนกรุงวิกฤตกว่าที่คิด
รองผู้ว่าฯ ทวิดา เผยข้อมูลจากการตรวจสุขภาพประชาชนชาวกรุงเทพฯ กว่า 789,300 คน พบว่า ปัญหาอันดับหนึ่งคือ ไขมันในเลือดสูง ขณะที่โรคเบาหวานอยู่ในอันดับ 3-4
แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่า คือสถานการณ์ "โรคอ้วน" ในกรุงเทพฯ ที่แย่กว่าค่าเฉลี่ยของประเทศมาก! จากกลุ่มตัวอย่างที่ตรวจสุขภาพ 58% มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน โดยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป
ไม่เพียงเท่านั้น ปัญหานี้ยังลามไปถึงข้าราชการสังกัด กทม. ที่มีค่า BMI เกินมาตรฐานสูงถึง 68% และที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ เด็กนักเรียนในสังกัด กทม. กว่า 220,000 คน จาก 437 โรงเรียน พบว่ามีน้ำหนักเกินหรือมีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องถึง 21.65% ซึ่งพบสูงสุดในกลุ่มเด็กประถม
Work ไร้ Balance อาหารคลีนคือความฝัน
รองผู้ว่าฯ ทวิดา ชี้ตรงไปที่ "ไลฟ์สไตล์แบบ Work ไร้ Balance" ของคนเมือง เป็นสาเหตุหลักของปัญหานี้
"มันไม่น่าแปลกใจ เพราะว่า Lifestyle เป็นแบบ Work ไร้ Balance และอาหารคลีนก็แพง ไม่ง่าย และเสียง่ายมาก มันไม่อำนวยความสะดวก" เธอกล่าว พร้อมเสริมว่า
อาหารคนเมืองส่วนใหญ่มักมีโซเดียมสูง ซึ่งส่งผลให้โรคไตกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ใกล้เคียงกับเบาหวาน สะท้อนผ่านข้อมูลโรคต่างๆ ที่สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์สุขภาพของ กทม.
กทม. ไม่นิ่งเฉย สู้ศึกโรคอ้วนด้วยกลยุทธ์เชิงรุก
แม้ปัญหาจะใหญ่ แต่ กทม. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทุ่มเทงบประมาณเพื่อตรวจสุขภาพประชาชนไปกว่า 50 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา ความร่วมมือกับ สปสช. ทำให้สามารถเบิกค่าตรวจสุขภาพเพิ่มเติมได้ ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นภาพปัญหาสุขภาพของประชาชนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น นำไปสู่การวางแผนแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด
นอกเหนือจากการตรวจสุขภาพ กทม. ยังเดินหน้าสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี โดยได้ส่งเสริมการเดินด้วยการสร้างและปรับปรุง ทางเท้า (Walkway) ได้แล้วถึง 1,100 กิโลเมตร
และที่น่าสนใจคือ กิจกรรม "วิ่งล้อมเมือง" ที่ กทม. จัดขึ้นเองโดยไม่ใช้งบจ้างออร์แกไนเซอร์ เป็นการชวนคนกรุงเทพฯ มาวิ่งฟรี ระยะทาง 3, 5, และ 10 กิโลเมตร พร้อมอาหาร เครื่องดื่ม และเหรียญรางวัลสำหรับผู้ที่วิ่งครบระยะ
กิจกรรมนี้จัดไปแล้ว 5 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมแล้วกว่า 8,000 คน โดย กทม. ตั้งเป้าจัดครบ 50 เขต คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมรวมประมาณ 50,000 คน ซึ่งจะมีการเลือกสวนสาธารณะหรือถนนใกล้บ้านในแต่ละเขต เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายที่สุด เป็นความพยายามที่จะทำให้การดูแลสุขภาพ "ไม่ยากเกินไป" สำหรับคนเมือง
ทั้งนี้ การเสวนาครั้งนี้ มีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายภาคส่วนเข้าร่วม ทั้งนายแพทย์เพชร รอดอารีย์ นายกสมาคมเครือข่ายโรคไม่ติดต่อไทย, รองศาสตราจารย์นายแพทย์ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และนายเอ็นริโก้ คานัล บรูแลนด์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด สะท้อนให้เห็นถึงภัยคุกคามจาก "โรคอ้วน" ที่ไม่ใช่แค่ปัญหาสุขภาพส่วนบุคคล แต่เป็นภัยต่อระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจของชาติ


