'30บาทรักษาทุกที่ กทม.' เริ่มเลยวันนี้! หลังเลื่อนเพื่อรอความชัดเจน ครม.
30 บาทรักษาทุกที่ กทม. เริ่มเลยวันนี้! หลังเคยประกาศเลื่อนเพื่อรอความชัดเจนรัฐบาลแถลงนโยบายรัฐสภา โดย 4 สภาวิชาชีพออกมายืนยันเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันนี้ 24 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป เพียงเข้ารับบริการในสถานพยาบาลที่มีโลโก้ '30บาทรักษาทุกที่' เท่านั้น
หลังโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ กทม. ถูกเลื่อนสองครั้ง จากที่เคยมีกำหนดการเป็นจังหวัดสุดท้าย และเลื่อนขึ้นมาเป็นจังหวัดที่ 46 ท่ามกลางคำถามถึงความพร้อมต่อการให้บริการ และการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมต้องเลื่อน? และแม้จะเคยมีกำหนดการคิกออฟในวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2567 ที่จะถึงนี้ แต่ก็ถูกเลื่อนออกไปเป็นหนที่ 2 เนื่องจากต้องรอความชัดเจนการแต่งตั้งครม. และการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของนายกรัฐมนตรี
ล่าสุดหลังจากมีข่าวล่ามาแรง จากทาง รมว.สาธารณสุข สมศักดิ์ เทพสุทินเองว่าจะได้ดำรงตำแหน่งที่เดิม รวมไปถึงนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ยังเป็นนโยบายเรือธงของทางรัฐบาล ซึ่ง นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เคยนั่งเป็น คณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ด้วย รวมไปถึงการแถลงข่าวที่เกิดขึ้นในวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมาเพื่อเปิดโลโก้ใหม่ของโครงการ แสดงให้เห็นถึงการดำเนินโครงการต่อเนื่องไม่มีสะดุดแน่นอน!
วันนี้ (24 สิงหาคม 2567) 4 สภาวิชาชีพ ทันตแพทยสภา สภาเภสัชกรรม สภากายภาพบำบัด และสภาเทคนิคการแพทย์ ออกมาเผยว่า นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่” วันนี้ประชาชนใน กทม. สิทธิบัตรทองเข้ารับบริการได้แล้ว โดยสังเกตตราสัญลักษณ์ “30 บาทรักษาทุกที่ กรุงเทพมหานคร” และมีความพร้อมให้การดูแลปฐมภูมิ ตามชุดสิทธิประโยชน์บริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
- รับยาได้ที่ร้านยาคุณภาพใกล้บ้าน ไม่ต้องรอคิวที่โรงพยาบาลนาน
ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช อุปนายกสภาเภสัชกรรม คนที่ 2 กล่าวว่า ร้านยาคุณภาพที่เข้าร่วมเป็น “หน่วยบริการนวัตกรรม” ตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันมีประมาณ 1,000 แห่ง จากร้านยาในพื้นที่ซึ่งมีกว่า 3,000 แห่ง โดยสภาเภสัชกรรมจะชวนให้ร้านยาเข้าร่วมให้บริการมากขึ้น ตั้งเป้าอย่างน้อยจำนวน 2,000 แห่งภายในในปีนี้ เพื่อรองรับการผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) เข้ารับบริการเพิ่มขึ้น
ส่วนการเชื่อมโยงข้อมูลร้านยาที่ร่วมให้บริการ ได้ใช้ระบบ A-MED Care (เอเมด แคร์) ที่เชื่อมกับระบบ Health Link เพื่อดูประวัติของผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลรัฐในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น ต้องได้รับความยินยอมการเข้าถึงข้อมูลจากผู้ป่วยทุกครั้งที่มารับบริการ ในรูปแบบรหัส OTP ผ่านสมาร์ทโฟนของผู้ป่วยเอง โดยขณะนี้ร้านยาที่เข้าร่วมได้ซักซ้อมการให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะให้บริการปฐมภูมิโดยร้านยาคุณภาพตามนโยบายนี้โดยไม่มีปัญหา ขอให้เข้ารับบริการโดยสังเกตตราสัญลักษณ์ 30 บาทรักษาทุกที่ กรุงเทพมหานคร ที่ติดอยู่หน้าร้าน
- กายภาพ 4 กลุ่มโรคได้ที่คลินิกายภาพบำบัดใกล้บ้าน
ศ.ดร.กภ.ประวิตร เจนวรรธนะกุล นายกสภากายภาพบำบัด ระบุว่า คลินิกกายภาพบำบัดที่เข้าร่วมต่างมีความพร้อมที่ให้บริการนโยบายนี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว โดยล่าสุดมีคลินิกกายภาพบำบัดที่ร่วมเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประมาณ 250 แห่ง และกำลังทยอยเพิ่มเติม ทั้งนี้ เชื่อได้ว่าจากการให้บริการของคลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่นตามนโยบาย จะช่วยให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองทั้ง 4 กลุ่มโรค ได้แก่ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยอุบัติเหตุทางสมอง ผู้ป่วยบาดเจ็บกระดูสันหลัง และผู้ป่วยสะโพกหักไม่ร้ายแรง ซึ่งเป็นผู้ป่วยระยะกลาง หรือผู้ป่วย IMC ให้เข้าถึงการบำบัดฟื้นฟูจากนักกายภาพบำบัดในคลินิกกายภาพบำบัดที่อยู่ใกล้บ้านได้ ช่วยลดการเดินทางไปทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล และไม่ต้องรอคิวการรักษา เนื่องจากนัดหมายรับบริการกับคลินิกกายภาพบำบัดได้เลย
"บริการคลินิการยภาพชุมชนอบอุ่น ตามสิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่ฯ ในต่างจังหวัดได้อย่างไร ในกรุงเทพฯ ก็ได้อย่างนั้น เช่น บริการบำบัดฟื้นฟูถึงบ้านผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง ที่ผู้ป่วยในกรุงเทพฯ ก็ขอใช้สิทธิได้เช่นกัน ผมเชื่อว่านโยบายนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ กทม. ทำให้ผู้ป่วยระยะกลางได้รับการบำบัดฟื้นฟูที่รวดเร็ว เข้าถึงได้ง่าย และมีความต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญอย่างมากต่อการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย 4 กลุ่มนี้ ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ หรือใกล้เคียงกับปกติหลังจากเจ็บป่วยได้อีกครั้ง" นายกสภากายภาพบำบัด กล่าว
- เจาะเลือด ที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ใกล้บ้าน
ทนพ.สมชัย เจิดเสริมอนันต์ นายกสภาเทคนิคการแพทย์ เปิดเผยว่า ในส่วนของคลินิกเทคนิคการแพทย์ ขณะนี้ได้เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้วประมาณ 35 แห่ง และกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีบางส่วนที่ยังรอการประเมินจากสภาเทคนิคการแพทย์ในการรับรองว่าเป็นห้องแล็บที่มีคุณภาพ มาตรฐานพร้อมบริการตามชุดสิทธิประโยชน์ของ สปสช. อย่างไรก็ดี จากการร่วมนโยบายให้บริการ ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด อยากให้ภาครัฐส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าไปรับการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในหน่วยบริการนวัตกรรมที่เข้าร่วมนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ให้มากขึ้น เพราะถือเป็นหน่วยปฐมภูมิที่ดูแลสุขภาพในชุมชน
- ขูดฟัน อุดฟัน ถอนฟัน เคลือบฟลูออไรด์ และเคลือบหลุมร่องฟัน
ขณะที่ ผศ.ดร.ทพ. สุชิต พูลทอง นายกทันตแพทยสภา กล่าวว่า ในส่วนคลินิกทันตกรรมจากเอกชนที่เข้าร่วมให้บริการ “30 บาทรักษาทุกที่ กรุงเทพมหานคร” ขณะนี้มีจำนวนหลักสิบแห่งที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการนวัตกรรม คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น ซึ่งทุกแห่งก็มีความพร้อมที่จะให้บริการ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการเข้าร่วมให้บริการของคลินิกทันตกรรมในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีไม่มาก เพราะด้วยต้นทุนการให้บริการที่สูง โดยเฉพาะค่าเช่าสถานที่ให้บริการ จึงทำให้การตัดสินใจเข้าร่วมไม่คึกคักเหมือนกับต่างจังหวัด อย่างไรก็ดี ในส่วนของคลินิกทันตกรรมฯ ที่ร่วมให้บริการ ขณะนี้ได้มีการเชื่อมข้อมูลและระบบเดนท์คลาวด์ (DentCloud) ของแต่ละแห่งแล้ว เป็นระบบที่ สปสช. ใช้ดูข้อมูลเพื่อจ่ายชดเชยค่าบริการ ซึ่งวันนี้ทุกแห่งได้ทำการทดลองระบบและพร้อมให้บริการแล้ว
“ตามสิทธิประโยชน์บริการตามนโยบาย จะเน้นการดูแลรักษาปฐมภูมิ เบื้องต้นจะทำการตรวจสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยก่อนเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและจัดการอย่างเหมาะสม หรือ Caries Risk Assessment and Managemen ที่ทันตแพทยสภากำหนด อาทิ ขูดฟัน อุดฟัน ถอนฟัน เคลือบฟลูออไรด์ และเคลือบหลุมร่องฟันที่เหมาะสมและถูกต้องกับสุขภาพช่องปาก” นายกทันตแพทยสภา กล่าว
อนึ่ง นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ กรุงเทพมหานคร ประชาชนสิทธิบัตรทอง สามารถเข้าถึงบริการจากร้านยา และคลินิกเอกชนจาก 7 วิชาชีพ ที่เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมได้ นอกเหนือจากการไปรับบริการจากหน่วยบริการตามสิทธิ ประกอบด้วย ร้านยาคุณภาพ, คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น,คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น คลนิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น, คลินิกการแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น, คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น และคลินิกการพยาบาลชุมชนอบอุ่น โดยสามารถเข้ารับบริการสุขภาพปฐมภูมิ ขอให้สังเกตตราสัญลักษณ์ “30 บาทรักษาทุกที่ กรุงเทพมหานคร” ซึ่งจะได้รับบริการตามชุดสิทธิประโยชน์ได้โดยสะดวก ลดเวลารอคิว รวมถึงยังไปรับบริการนอกเวลาราชการตามเวลาของร้านยาคุณภาพและคลินิกเอกชนที่เข้าร่วมได้ด้วย


