แอมโมเนียอาจไม่ใช่คำตอบของเชื้อเพลิงสะอาดอย่างที่คิด!
แอมโมเนีย ถูกมองเป็นเชื้อเพลิงสะอาดชนิดใหม่ในภาคการขนส่ง แต่วันนี้เราจะพาไปชมว่า เชื้อเพลิงแอมโมเนียอาจสร้างผลกระทบร้ายแรงยิ่งกว่าการใช้น้ำมันหลายเท่า
แอมโมเนีย สารเคมีที่ใช้ในการเกษตร ทำความเย็น และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ล่าสุดมีการพัฒนาสารเคมีชนิดนี้สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงพลังงานสะอาด จนเริ่มถูกนำไปทดลองใช้ในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะในส่วนการขนส่งทางทะเล ที่เริ่มมีแนวคิดในการผลักดันแอมโมเนียเข้ามาทดแทน เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในภาคการขนส่ง
แต่จากผลการวิจัยล่าสุดพบว่าแอมโมเนียอาจไม่ได้เป็นเชื้อเพลิงสะอาดอย่างที่คิด
อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากเชื้อเพลิงแอมโมเนีย
ข้อมูลนี้มาจากผลการวิจัยของทีมวิจัยจากสถาบัน MIT ที่ออกมาเตือนว่า เชื้อเพลิงแอมโมเนียในภาคการขนส่งทางทะเล นอกจากไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นยังอาจทำให้ผลกระทบยิ่งรุนแรงกว่าเก่า โดยมีสาเหตุมาจากพื้นฐานตามธรรมชาติของแอมโมเนียเอง
แม้แอมโมเนียมีศักยภาพในฐานะเชื้อเพลิงสูง แต่เมื่อนำสารเคมีชนิดนี้ไปเผาไหม้เป็นเชื้อเพลิง สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ไนตรัสออกไซด์ สารเคมีที่มีคุณสมบัติในการเป็นก๊าซเรือนกระจกประสิทธิภาพสูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 300 เท่า ซึ่งอาจทำให้ภาวะโลกร้อนรุนแรงยิ่งขึ้น
ไนตรัสออกไซด์จัดเป็นสารเคมีซึ่งมีความเป็นพิษสูง เมื่อทำการสูดดมสารชนิดนี้มากเกินไป อาจทำให้เกิดการมึนงง ควบคุมร่างกายลำบาก หมดสติ หากเกิดการสัมผัสในระยะยาวยังอาจเป็นพิษต่อระบบประสาท นำไปสู่ความเสียหายต่อระบบประสาทส่วนกลางอย่างถาวร
นอกจากนี้ระหว่างการเผาไหม้จะเกิดการปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ รวมถึงมีแอมโมเนียที่เผาไหม้ไม่หมดหลุดออกมาจากเครื่องยนต์ อนุภาคเหล่านี้มีขนาดเล็กสามารถปะปนไปกับฝุ่นละอองใกล้เคียงกับ PM2.5 เมื่อสูดดมเข้าไปในปอดก็อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และหลอดเลือดสมองอีกด้วย
ในทางหนึ่งเชื้อเพลิงแอมโมเนียจึงอาจไม่ได้ช่วยแต่ยิ่งซ้ำเติมผลกระทบจากน้ำมันเชื้อเพลิงให้รุนแรงขึ้นไปอีก
เมื่อแอมโมเนียอาจไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป
จริงอยู่แอมโมเนียมีจุดเด่นในด้านการปล่อยคาร์บอนต่ำแทบจะเป็นศูนย์ เป็นเชื้อเพลิงที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้จริง แต่ไม่ว่าจะผ่านกรรมวิธีการผลิตสีเขียวขนาดไหน แอมโมเนียที่เผาไหม้จะก่อให้เกิดไนตรัสออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ และอนุภาคแอมโมเนียในอากาศเช่นเดิม
ไนตรัสออกไซด์ เมื่อเข้าสู่ชั้นบรรยากาศจะยิ่งทวีความรุนแรงภาวะโลกร้อน และจะคงอยู่โดยไม่สลายตัวเป็นเวลาราว 100 ปี ฝุ่นละอองจากการเผาไหม้อาจก่อให้เกิดผลกระทบทางสุขภาพ เช่นเดียวกับอนุภาคแอมโมเนียที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง รวมถึงทำให้ค่าออกซิเจนในดินและน้ำลดลง
ข้อมูลจากแบบจำลองของทีมวิจัยพบว่า ในกรณีเปลี่ยนเรือขนส่งทั่วโลกให้หันมาใช้เชื้อเพลิงแอมโมเนีย การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงชนิดนี้อาจทำให้เกิดผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรถึง 600,000 ราย มากกว่าผลกระทบจากมลพิษทางอากาศของเชื้อเพลิงดีเซลที่ใช้งานในปัจจุบันถึง 6 เท่า
อีกทั้งกรณีที่ไนโตรเจนออกไซด์และแอมโมเนียถูกเผาไหม้เป็นฝุ่นละออง เจือปนภายในอากาศจะกลายเป็นมลพิษทางอากาศรูปแบบใหม่ อาจส่งผลกระทบทางสุขภาพและทำให้เกิดผู้เสียชีวิตราว 4 ล้านราย/ปี ยังไม่รวมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวที่ประเมินได้ยาก
นำไปสู่การตั้งคำถามว่า แอมโมเนีย ยังจัดเป็นเชื้อเพลิงสะอาดที่เราตั้งความหวังอยู่หรือไม่?
อย่างไรก็ตามทั้งหมดเป็นข้อกังวลของทีมวิจัยเป็นหลัก ข้อมูลที่ได้ล้วนมาจากการคำนวณและคาดการณ์ผ่านแบบจำลองอ้างอิงจากการเผาไหม้ของแอมโมเนีย ยังขาดข้อมูลจริงมายืนยันเปรียบเทียบ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีการใช้เรือขนส่งที่ใช้แอมโมเนียเป็นเชื้อเพลิงจริง
แต่ข้อมูลเหล่านี้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่ยังไม่มีข้อบังคับหรือกฎหมายควบคุมเชื้อเพลิงแอมโมเนีย โดยเฉพาะแถบเอเชียที่ขาดการควบคุมดูแลคุณภาพอากาศอย่างเข้มงวด เมื่อมีการเปลี่ยนผ่านมาใช้แอมโมเนียเต็มรูปแบบคนกลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ที่เหลือเราคงต้องรอดูต่อไปว่าแอมโมเนียจะถูกผลักดันให้นำมาใช้งานจริงหรือไม่ และจะมีกฎระเบียบรูปแบบใดมาควบคุมเชื้อเพลิงชนิดนี้
ที่มา
https://techxplore.com/news/2024-07-health-ships-diesel-ammonia-fuel.html


