posttoday

มาแล้ว! โลโก้ '30บาทรักษาทุกที่' ในกทม. ติดรพ.ไหน ที่นั่นใช้สิทธิได้!

11 สิงหาคม 2567

'30บาทรักษาทุกที่ใน กทม.' มีความแตกต่างจากที่อื่นตรงที่ ประชาชนจะสามารถเข้ารับบริการได้เฉพาะสถานพยาบาลที่ติด 'โลโก้' เท่านั่น และนี่คือโลโก้ที่ต้องจดจำให้แม่น ก่อนใช้สิทธิบัตรทอง! รวมถึงจะมีการติดไปยังสถานพยาบาล 30 บาทรักษาทุกที่ทั่วประเทศ!

เมื่อวันที่  5 สิงหาคม 2567  นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยระบุว่า นโยบายนี้เน้นไปที่โรงพยาบาลปฐมภูมิเป็นหลัก ไม่รวมกับโรงพยาบาลของคณะแพทย์แต่อย่างใด แต่จะเน้นที่โรงพยาบาลปฐมภูมิซึ่งเข้าร่วมนโยบาย โดยโรงพยาบาลจะแสดงตนด้วยการติดสติ๊กเกอร์โครงการ หากประชาชนเห็นสติ๊กเกอร์ดังกล่าวจึงสามารถเข้าไปใช้บริการตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ได้

โพสต์ทูเดย์ตามติดประเด็นดังกล่าว เพื่อให้พี่น้องประชาชนไม่เกิดความสับสนในการเข้ารับบริการ โดยสติ๊กเกอร์โครงการ ที่ทางผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึง ได้มีการออกแบบใหม่

ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยว่าสำหรับโลโก้ 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อใช้ในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ได้มอบให้ สปสช. ดำเนินการจัดทำโลโก้ใหม่ ที่มีความโดดเด่น ชัดเจน และสังเกตได้ง่าย ทำให้ประชาชนเข้ารับบริการได้โดยสะดวก

นอกจากจะประกอบด้วยข้อความ “30 บาทรักษาทุกที่” แล้ว ยังมีเครื่องหมาย “ถูก” ที่สะท้อนว่าที่นี่ให้บริการอย่างมีคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข บนสัญลักษณ์เครื่องหมายกากบาทสีแดง “กาชาด” และได้ใช้สีแดงที่สื่อถึงการรักษาพยาบาล ที่บ่งบอกถึงความอุ่นใจในบริการดูแล  

 

มาแล้ว! โลโก้ '30บาทรักษาทุกที่' ในกทม. ติดรพ.ไหน ที่นั่นใช้สิทธิได้!

 

ด้าน นพ.จเด็จ ธะรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  กล่าวอีกว่า ในการเข้ารับบริการนั้น ประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท นอกจากจะเข้ารักษาตามขั้นตอนปกติที่หน่วยบริการประจำของท่านแล้ว ยังมีทางเลือกใหม่สามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการที่มีตราสัญลักษณ์ (โลโก้) “30 บาทรักษาทุกที่” ปรากฏอยู่ด้านหน้า ซึ่งจะเป็นหน่วยบริการในระดับปฐมภูมิ ได้แก่ รพ.สต., สถานีอนามัย, ศูนย์สุขภาพชุมชน, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) ประจำอำเภอ, และ โรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.)/โรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) ประจำจังหวัด ขณะที่ในกรุงเทพมหานคร หน่วยบริการระดับปฐมภูมิจะเป็น คลินิกชุมชนอบอุ่น และศูนย์บริการสาธารณสุข นอกจากนั้นยังมีหน่วยปฐมภูมิของโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์เข้าร่วมด้วย สำหรับโรงพยาบาลรัฐสังกัดอื่นๆ นั้น เป็นหน่วยบริการในระดับทุติยภูมิและตติยภูมิ ถือเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อที่จะต้องใช้ใบส่งตัวในการเข้ารักษา

 

“นอกจากนั้น ยังมีหน่วยบริการนวัตกรรมที่เป็นทางเลือกใหม่ ได้แก่ ร้านยาคุณภาพและคลินิกเอกชนที่เข้าร่วมกับ สปสช. เช่น คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม คลินิกพยาบาล คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกแพทย์แผนไทย คลินิกกายภาพบำบัด ฯลฯ ในกรณีที่อาการป่วยเกินศักยภาพที่หน่วยบริการที่จะให้การรักษาได้ ก็จะได้รับการส่งต่อไปรับบริการที่โรงพยาบาลในเครือข่าย ซึ่งระบบการส่งต่อจะมีทั้งในรูปแบบใบส่งตัวกระดาษและใบส่งตัวอิเล็กทรอนิกส์หรือแบบออนไลน์ขึ้นอยู่กับความพร้อมของหน่วยบริการในการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ ในส่วนของหน่วยบริการที่เข้าร่วมและจะเข้าร่วมกับ สปสช.ทุกแห่งนั้น ขอให้มั่นใจในการเรื่องการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการ ซึ่ง สปสช. ได้มีการปรับการจ่ายบริการในรูปแบบใหม่ รวมถึงระบบการเบิกจ่ายเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เข้ากับระบบสุขภาพในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่ง สปสช. จะมีการจัดแถลงข่าวชี้แจงทำความเข้าใจขั้นตอนการใช้สิทธิของประชาชน การเชื่อมข้อมูล การส่งต่อผู้ป่วย และการเบิกจ่ายต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและหน่วยบริการ ในวันที่ 20 สิงหาคม 2567“ เลขาธิการ สปสช. กล่าว 

 

ทั้งนี้  ตราสัญลักษณ์ (Logo) “30 บาทรักษาทุกที่” เพื่อใช้ในการรับรองคุณภาพและการเข้าร่วมโครงการฯ ของหน่วยบริการทั่วประเทศ รวมถึงการสื่อสารประชาสัมพันธ์ในการเข้ารับบริการของประชาชน จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 26 สิงหาคม 2567 พร้อมกับการจัดงาน Kick Off โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ กรุงเทพมหานคร “30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า” ซึ่งจะมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เข้าร่วมด้วย 

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68