posttoday

ดีอี แนะประชาชนลงทะเบียน ‘แอปทางรัฐ‘ แบบใช้ตัวช่วยได้ที่จุดบริการ

01 สิงหาคม 2567

ดีอี ลงพื้นที่ตรวจจุดให้บริการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต ณ ไปรษณีย์ไทย เผยขั้นตอนเพียงแค่แจ้งความประสงค์ ยื่นบัตรประชาชน ระบบจะยืนยันตัวตนและส่ง SMS เข้ามือถือทันที ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

วันนี้ (1 สิงหาคม 2567)
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดแนะนำข้อมูลและให้บริการรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" พร้อมทำการลงทะเบียน จนถึงขั้นตอนการยืนยันตัวตน (KYC) ได้อย่างเบ็ดเสร็จ โดยมี ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด  พร้อมคณะผู้บริหารร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ด้วย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ท่าอากาศยานดอนเมือง 

 

  • วิธีการลงทะเบียน

1. ประชาชนเพียงนำบัตรประชาชนมาที่เคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์

2. แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการพิสูจน์และยืนยันตัวตนแอปฯ ทางรัฐ โดยข้อมูลจากบัตรประชาชนจะเชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลของ DGA ผ่านเครื่องอ่านบัตรประชาชน

3. ลูกค้ายืนยันตัวตนสำเร็จจะได้รับ SMS ยืนยันทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 

ดีอี แนะประชาชนลงทะเบียน ‘แอปทางรัฐ‘ แบบใช้ตัวช่วยได้ที่จุดบริการ

 

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า

“สำหรับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ทางรัฐบาลได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วม ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ ของสํานักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2567โดยจะสามารถเริ่มใช้จ่ายได้ในช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2567 ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้ารับคำแนะนำ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ *ยกเว้นไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านไปรษณีย์ไทย     สามารถตรวจสอบรายชื่อที่ทำการฯ ที่ให้บริการได้ที่เว็บไซต์ thailandpost.co.th

 

 

ดีอี แนะประชาชนลงทะเบียน ‘แอปทางรัฐ‘ แบบใช้ตัวช่วยได้ที่จุดบริการ

 

  • เปิดจุดบริการทั่วประเทศ รองรับการลงทะเบียน

รัฐบาลได้กำหนดสถานที่จุดให้บริการ (Walk – in) สอบถามข้อมูล และให้บริการรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ดังนี้
 

1.ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ

2.ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่ง ทั่วประเทศ (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ)

3.ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ

4.ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่งทั่วประเทศ

ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 15 กันยายน 2567