ชวนลดหวาน ลดไซส์ "ชานมไข่มุก" อร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสุขภาพดีขึ้น
เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน แนะผู้บริโภคสั่งชานมไข่มุก "หวานน้อย" และ "แก้วเล็ก" ลดปริมาณน้ำตาล เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
จากกรณี มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นิตยสารฉลาดซื้อได้สุ่มตรวจวิเคราะห์ ปริมาณน้ำตาลใน “ชานม” ที่ระดับหวานน้อย เพื่อทดสอบว่า ในระดับหวานน้อยได้ให้ปริมาณน้ำตาลที่ปลอดภัยหรือเป็นโภชนาการที่เหมาะสมกับร่างกายหรือไม่ โดยตรวจน้ำตาล 4 ประเภทคือ Fructoes, Glucose, Sucose, Maltose, Lactose จำนวน 15 ตัวอย่าง จนพบว่า การบริโภคชานมไข่มุก แม้ในระดับหวานน้อย ร่างกายยังได้รับปริมาณน้ำตาลสูงกว่ามาตรฐานกำหนดคือ ปริมาณ 8 ช้อนชา ซึ่งเป็นระดับหวานน้อยที่ยังส่งผลให้ร่างกายมีความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยได้
ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม ผู้จัดการโครงการเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน ในฐานะเครือข่ายฯ ที่ขับเคลื่อนรณรงค์สร้างความรอบรู้ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคหวานของคนในสังคมไทย ให้ความเห็นว่า การรณรงค์จนกระทั่งคนไทยนิยมสั่ง “หวานน้อย” หมายความว่า เราอยากให้ร้านกาแฟ หรือร้านชานมไข่มุก คิดค้นสูตรเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลตามเกณฑ์ คือ ไม่เกิน 2 ช้อนชาต่อแก้ว แต่สิ่งที่ตามมา คือ ตามท้องตลาดจะเห็นผลิตภัณฑ์หันมาใช้สารทดแทนความหวานเต็มบ้านเต็มเมือง
สารทดแทนความหวาน ผลกระทบต่อร่างกายระยะยาว
การใช้สารทดแทนความหวาน ไม่ได้ทำให้คนไทยลดพฤติกรรมการบริโภคหวานลงแต่อย่างใด ลิ้นคนไทยก็ยังคงติดหวานอยู่เช่นเดิม ขณะที่ในต่างประเทศเริ่มมีผลการศึกษาออกมาเรื่อยๆ ว่า สารทดแทนความหวานมีผลกระทบต่อร่างกายระยะยาว รวมถึงจุลินทรีย์ หรือ normal flora ที่อยู่ในร่างกายของมนุษย์พยายามปรับตัวเอาสารทดแทนความหวานไปใช้ ให้เป็นพลังงาน หาก normal flora ปรับตัว หรืออาจมีการกลายพันธุ์ เราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะส่งผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์อย่างไรบ้าง
ทพญ.ปิยะดา ยังยืนยันชัดเจน เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน ปฏิเสธการใช้สารให้ความหวานทุกชนิด ไม่ว่าจะในเครื่องดื่ม หรืออาหาร เนื่องจากไม่มีสารให้ความหวานชนิดใดปลอดภัยกับผู้บริโภค 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับเน้นย้ำถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนไทยให้ลดปริมาณความหวานลงที่ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการค่อย ๆ ลดปริมาณน้ำตาล
ในปัจจุบัน แม้การสั่งเครื่องดื่มหวานน้อย จะยังคงมีความหวานมากกว่าที่ทางเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวานคาดหวัง (น้ำตาล 2 ช้อนชา) แต่ทางเครือข่ายเชื่อว่า คนไทยจะปรับลิ้นให้หวานน้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้น สิ่งที่ทางเครือข่าย จะรณรงค์ต่อไป คือ การสั่งเครื่องดื่มหวานในแก้วที่เล็กลง เช่น การสั่งชานมไข่มุกก็ต้องสั่งชานมไข่มุกหวานน้อย และแก้วเล็ก ซึ่งคนไทยที่ยังนิยมบริโภคชานมไข่มุกอยู่ก็จะได้ปริมาณน้ำตาลที่น้อยลงตามไปด้วย โดยไม่เปลี่ยนรสชาติของเครื่องดื่มมากจนเกินไป
ทพญ.ปิยะดา กล่าวทิ้งท้ายว่า “ทุกวันนี้น่าดีใจที่ร้านค้าแทบจะทุกร้าน ถามผู้บริโภคแล้วว่า หวานน้อยหรือไม่ จากอดีตแทบไม่มีร้านไหนถามคำนี้เลย การสั่งหวานน้อยได้กลายเป็นบรรทัดฐาน (Norm) ของสังคมไทยไปแล้ว คนไทยรับรู้ว่า การกินน้ำตาลเกินพอดี ไม่ดีต่อสุขภาพ แล้วทุกคนพยายามดูแลสุขภาพตนเอง แม้ว่า อาจจะไม่สามารถเปลี่ยนได้อย่างสิ้นเชิงก็ตาม”
ทั้งนี้ ทพญ.ปิยะดา ยังฝากถึงผู้บริโภคที่ติดดื่มชานมไข่มุก อยากให้ดื่มแค่พอหายอยาก นอกจากสั่ง “หวานน้อยไซด์เล็ก” แล้ว อยากให้เลือกไข่มุกที่ทำจากบุก ไม่ใช่ไข่มุกที่ทำจากแป้ง จะดีต่อสุขภาพมากสุด


