posttoday

ก้าวไกลฉะ 'ค่าไฟทะลุ 6 บาทตามคาด' เพราะรัฐไม่พยายามแก้ไขปัญหาค่าไฟแพง

14 กรกฎาคม 2567

พรรคก้าวไกลชี้ ค่าไฟทะลุหน่วยละ 6 บาทตามคาด เป็นผลพวงรัฐบาลยืดหนี้-ละเลยแก้โครงสร้าง ซ้ำรัฐบาลไม่ได้มีความพยายามแก้ไขปัญหาค่าไฟแพงทั้งที่เป็นเรื่องวิกฤต อั้นงบกลางไว้ทำดิจิทัลวอลเล็ตทั้งที่ประชาชนเดือดร้อน!

ย้อนไปธันวาคม 2566 ศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เคยคาดการณ์ว่าหากรัฐบาลตรึงค่าไฟในงวดต่อๆ ไป จะทำให้มูลค่าหนี้ต้นทุนค่าไฟที่รัฐบาลให้ทั้ง กฟผ. และ ปตท. แบกอยู่ เพิ่มสูงขึ้น และสุดท้ายเมื่อหมดโปรโมชัน ประชาชนอาจต้องจ่ายค่าไฟ 6 บาทต่อหน่วย

เวลาผ่านไป ในที่สุดเราก็ได้เห็นค่าไฟ 6 บาทต่อหน่วยจริงๆ หลังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพิ่งประกาศอัตราค่าไฟสำหรับเดือนกันยายน - ธันวาคม 2567 ไว้ที่ 4.65 บาทต่อหน่วยในกรณีที่ดีที่สุด หรือแย่ที่สุด 6.01 บาทต่อหน่วย! โดยอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นประชาชน ก่อนเคาะตัวเลขอย่างเป็นทางการ

 

ก้าวไกลฉะ 'ค่าไฟทะลุ 6 บาทตามคาด' เพราะรัฐไม่พยายามแก้ไขปัญหาค่าไฟแพง

  • ผลพวงมาตรการยืดหนี้ 

ศุภโชติระบุว่า ที่ค่าไฟต่อหน่วยเป็นแบบนี้ เกิดจากมาตรการยืดหนี้ของรัฐบาลที่ให้ทั้ง กฟผ. และ ปตท. แบกหนี้ต้นทุนค่าไฟในงวดที่ผ่านๆ มากว่า 114,000 ล้านบาท ตอนนี้จึงเป็นเวลาที่ประชาชนต้องชำระเงินคืนเจ้าหนี้ โดย 2 หน่วยงานดังกล่าวทำหนังสือถึง กกพ. ขอให้ขึ้นค่าไฟ ทั้งที่ต้นทุนค่าไฟที่แท้จริงที่ประชาชนควรได้รับอยู่ที่ 4.12 บาทต่อหน่วย ปรับขึ้นจากงวดก่อนเนื่องจากราคาก๊าซโลกเพิ่มสูงขึ้น

  • แนะตั้งงบกลางช่วยค่าไฟประชาชน

สิ่งที่เราเรียกร้องมาตลอดคือการมีมาตรการที่ส่งผลอย่างยั่งยืน ถึงแม้รัฐบาลจะทำตามสิ่งที่เราเรียกร้องข้อแรกอย่างมาตรการการถัวเฉลี่ยราคาก๊าซธรรมชาติ โดยนำก๊าซธรรมชาติราคาถูกที่ปกติขายให้กับกลุ่มปิโตรเคมีอย่างเดียว มาถัวเฉลี่ยต้นทุนกับก๊าซธรรมชาติที่มีราคาแพง แต่ยังมีอีกหลายมาตรการที่รัฐบาลทำได้ผ่านการทำผ่านงบประมาณแผ่นดิน

เช่น การตั้งงบกลางเพื่อช่วยเหลือค่าไฟในยามฉุกเฉิน สนับสนุนพลังงานสะอาดอย่างโซลาร์เซลล์สำหรับประชาชน หรือการกล้าเข้าไปเจรจาแก้ไขสัญญาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีอยู่แล้วไม่ได้ใช้ เพื่อลดค่าความพร้อมจ่าย

“แม้การตอบกระทู้สดของนายกฯ ล่าสุด เสมือนยอมรับว่าจะอั้นงบกลางไว้ทำดิจิทัลวอลเล็ตตอนปลายปี แต่เห็นความเดือดร้อนของประชาชนแบบนี้ ท่านควรทบทวนให้ความสำคัญกับปัญหาที่เห็นตรงหน้า ไม่ควรปล่อยผ่านให้ประชาชนรอต่อไป” ศุภโชติกล่าว

 

  • ผิดหวังแผนพลังงานชาติฉบับใหม่ ซ้ำรอยปัญหาเดิม

สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวต่อว่า นอกจากที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้มีความพยายามแก้ไขปัญหาค่าไฟแพงแล้ว หนำซ้ำตอนนี้ยังพยายามทำให้ปัญหาแย่ลงอีกในระยะยาว เพราะการที่ค่าไฟของพี่น้องประชาชนขึ้น ๆ ลง ๆ มาจากการวางแผนที่ผิดพลาดในอดีต ผ่านการทำแผนพลังงานชาติฉบับก่อนๆ ที่ผลักประเทศให้พึ่งพาก๊าซธรรมชาติที่มีความผันผวนด้านราคา ซึ่งถ้ารัฐบาลมีความตั้งใจจะแก้ไขปัญหานี้ ต้องมีการสะท้อนออกมาผ่านร่างแผนพลังงานชาติฉบับใหม่ หรือ PDP 2024 แต่ตัวร่างที่เพิ่งออกมา กลับแสดงให้เห็นปัญหาเดิม ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอีก

เช่น การคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงกว่าความเป็นจริง จนส่งผลให้มีโรงไฟฟ้าเยอะเกิน โรงไฟฟ้าใหม่ก็เน้นสร้างแต่โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ ทั้งที่เรามีตัวเลือกโรงไฟฟ้าประเภทอื่นที่ราคาถูกกว่าและปล่อยมลพิษน้อยกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนว่ารัฐบาลไม่เอาประชาชนเป็นที่ตั้งในการทำแผน ยังคงยึดติดกับโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่มีราคาผันผวน และเป็นที่ทราบกันดีว่ามีกลุ่มทุนเจ้าใหญ่ได้ประโยชน์จากแนวทางนี้

 

  • รัฐหยุดเอื้อกลุ่มทุนพลังงาน ทำกำไรบนบิลค่าไฟประชาชน

“ปัญหาราคาค่าไฟ ค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องวิกฤต รัฐบาลต้องเร่งทำมาตรการระยะสั้นอื่น ๆ เหมือนที่ผมได้เสนอไป พร้อมกับวางแผนระยะยาวที่ถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่อย่างนั้นประชาชนจะมองว่ารัฐบาลไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยจากบทเรียนในอดีต กลับมุ่งแต่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนพลังงานทำกำไร จากการจำกัดทางเลือกให้ประเทศใช้แต่ไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งสุดท้ายผลกระทบก็มาตกกับประชาชนผ่านบิลค่าไฟ” ศุภโชติกล่าว

ข่าวล่าสุด

ยุบสภาฯ สะดุดงบ! “หวยเกษียณ” กอช.ชี้ อาจขายไม่ทันไตรมาส 1 ปี 69