ประกาศใช้แล้ว! มียาบ้าเกิน 1 เม็ดถือเป็นความผิดตามกฎหมาย!
กฎกระทรวง สธ.ประกาศใช้ หากใครครอบครองยาบ้าเกิน1 เม็ดถือเป็นความผิด ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ถือเกิน 1 เม็ดคือมีไว้เพื่อจำหน่าย เตือนคนเสพ คนขายเลิกได้แล้ว รัฐบาล-สธ.เอาจริง ลงโทษเด็ดขาด
น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมืองเปิดเผยว่า กฎกระทรวงฉบับใหม่ประกาศใช้ล่าสุด ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 17 มิถุนายน 2567 มีผลบังคับใช้แล้ว นั่นหมายถึงการครอบครองยาบ้าไม่เกิน 1 เม็ด หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ให้นำตัวไปบำบัดรักษา หากเกินกว่านี้ ถือว่า มีไว้เพื่อจำหน่าย จะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการแก้ไขกฎกระทรวงเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 5 เม็ด
น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า กฎกระทรวงนี้ ลงนามโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567 กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2567 ด้วยเหตุผลที่บันทึกไว้ท้ายกฎกระทรวงว่า “โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีครอบไว้เพื่อเสพ ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้โทษอย่างจริงจัง โดยเฉพาะยาเสพติดในประเภท 1 กรณีแอมเฟตามีนและเมทแอมเฟตามีน จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้”
อย่างไรก็ตามน.ส.ตรีชฎากล่าวว่า กฏกระทรวงฉบับนี้ แก้ไขปริมาณยาเสพติดไว้ 2 ประเภท คือ ยาบ้าหรือแอมเฟตามีน ดังกล่าวไว้ข้างต้น กับยาไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน กำหนดปริมาณไม่เกิน 1 หน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 100 มิลลิกรัม หรือในกรณีที่เป็นเกล็ด ผง ผลึก มีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 20 มิลลิกรัม ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ หากเกินกว่านี้ถือว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีและรับโทษ
“ฝากเตือนไปถึงคนค้ายาบ้า ยาไอซ์รายเล็ก รายใหญ่ ขอให้กลับตัวกลับใจ รัฐบาลนี้เอาจริง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นตั้งใจยาเสพติดต้องหมดไปในรัฐบาลนี้ คืนลูกหลานกลับสู่อ้อมกอดครอบครัว คืนอนาคตให้ลูกหลาน ทันที่รับนโยบายนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบุคลากรในกระทรวงทำงานอย่างหนักและรวดเร็วเพื่อออกประกาศกฎกระทรวงฉบับนี้ ดังนั้นคนเสพที่มียาบ้า ไม่เกิน 1 เม็ด ยาไอซ์ในครอบครองไม่เกิน 100 มิลลิกรรม ขอให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่นำตัวบำบัดรักษาให้หายขาดจากการเสพติด เป็นยาแรงในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ได้ผลด้วยมาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มข้น ด้วยความร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรม ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล ปปส. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง” น.ส.ตรีชฎากล่าว