ศาลยุติธรรมตั้งแล้วแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีปราบโจรไซเบอร์
ทำความรู้จัก แผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา ราชกิจจาฯ ประกาศจัดตั้งมีผลแล้วเพื่อให้คดีได้รับการพิจาณาจากผู้พิพากษาที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทันท่วงทีและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ได้ลงนามในประกาศเรื่อง การจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา และมีการประกาศในราชกิจจาบุเบกษา (คลิ๊กอ่าน)
ในประกาศฉบับดังกล่าวระบุถึงเหตุผลความจำเป็น การจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา ว่า โดยที่อาชญากรรมที่ใช้วิธีการทางเทคโนโลยีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มีรูปแบบการกระทําความผิดที่ซับซ้อนตามพัฒนาการทางเทคโนโลยีซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และพยานหลักฐานในคดีส่วนมากอยู่ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบกับการใช้มาตรการตามกฎหมายในบางกรณี เพื่อป้องกันหรือรับมืออาชญากรรมประเภทนี้ และภัยคุกคามทางไซเบอร์ ต้องอาศัยคําสั่งศาล
ดังนั้น เพื่อให้คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา และคําร้องขอใช้มาตรการตามกฎหมายได้รับการพิจารณา โดยผู้พิพากษาที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและทันท่วงที อันจะทําให้การพิจารณาพิพากษาคดี และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงจําเป็นต้องจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีขึ้นในศาลอาญา
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 4 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมออกประกาศให้จัดตั้งแผนกในศาลอาญา โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19มี.ค.2567เป็นต้นไป (ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประกาศเมื่อวันที่ 18มี.ค.2567)
ประเด็นที่น่าศึกษาเพิ่มเติมคือการกำหนดนิยามของ “คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” หมายความว่า คดีอาญาที่ฟ้องขอให้ลงโทษบุคคลที่กระทําความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และคดีดังต่อไปนี้ไม่ว่าจะมีข้อหาอื่นหรือ ความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องกันรวมอยู่ด้วยหรือไม่ก็ตาม
- คดีอาญา ขอให้ลงโทษความผิดฐานฉ้อโกง กรรโชก หรือรีดเอาทรัพย์ โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ
- คดีอาญาในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
- คดีอาญาขอให้ลงโทษในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล
แผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญามีอํานาจหน้าที่ พิจารณาพิพากษาคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยียกเว้นแต่คดีที่อยู่ในอํานาจพิจารณาพิพากษาของแผนกคดียาเสพติดและแผนกคดีค้ามนุษย์
นอกจากนี้ พิจารณาและมีคําสั่งเกี่ยวกับคําร้องของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ กฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ในการจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา ให้มีผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกฯ โดยอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาจัดให้ผู้พิพากษาที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจํานวนตามที่เห็นสมควร เป็นผู้พิพากษาประจําแผนก มีหน้าที่รับผิดชอบในการพิจารณาพิพากษาคดี และงานของแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา ตลอดจนช่วยเหลือผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในการบริหารและดําเนินงานต่าง ๆ ของแผนกให้เป็นไปโดยเรียบร้อย และกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาอาจมอบหมายให้ผู้พิพากษาอื่น เป็นองค์คณะในการพิจารณาพิพากษาคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีก็ได้
ภาพประกอบข่าว เมื่อวันที่ 9ก.พ.67 นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานในการประชุมการติดตามผลการดำเนินงานของสำนักงานศาลยุติธรรมตามนโยบายของประธานศาลฎีกา ณ อาคารสำนักงานศาลยุติธรรมโดยที่ประชุมมีการรายงานผลการดำเนินงานเกี่ยวข้อง การจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา (คลิ๊กอ่าน)