posttoday

คาริน่า-อีแจอุคมีรักแรกพบ แล้วคู่รักเดตออนไลน์จะพบบ้างได้หรือไม่?

28 กุมภาพันธ์ 2567

ส่งท้ายเดือนแห่งความรักด้วยข่าวการเดตระหว่างคาริน่า-อีแจอุค ซึ่งเกิด ‘รักแรกพบ’ ในงานแฟชั่นโชว์ที่มิลาน เมื่อเข้าใจ ‘รักแรกพบ’ มากขึ้นก็พบว่า ผู้ชายเชื่อมากกว่าผู้หญิง และเกิดขึ้นจากความหลงใหลขั้นรุนแรง คำถามคือแล้วคนที่เดตออนไลน์?จะมีรักแรก 'ปัด' ได้หรือไม่?

เมื่อวานข่าวการเดตของนักร้องไอดอลชื่อดังอย่างคาริน่า Aespa และนักแสดงหนุ่มชาวเกาหลีอย่างหนุ่มอีแจอุค นักแสดงตัวท็อปของเกาหลีใต้ ก็ทำให้โซเชียลมีเดียร้อนฉ่าขึ้นมาทันที  โดยเฉพาะประเด็นที่มีเพื่อนคนสนิทออกมาเปิดเผยกับทางสื่อเกาหลีว่า พวกเขาพบรักกันแบบ ‘รักแรกพบ’ ในการเจอกันครั้งแรกที่งานแสดงแฟชั่นโชว์ที่มิลาน

รักแรกพบ เป็นเรื่องโรแมนติกชวนฝันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร หนังรอมคอมของฝั่งฮอลลีวูด ก็มีหนังหลายเรื่องที่ประสบความสำเร็จจากเหตุการณ์รักแรกพบนี้ รวมไปถึงละครและภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง เราก็จะได้เห็นฉากแรกที่เจอกันของพระเอก-นางเอก ที่มาพร้อมฉากสโลว์โมชั่น บวกเพลงประกอบ

รักแรกพบจึงทำให้เรื่องราวการเจอกันของคู่รัก มีความโรแมนติกเพิ่มขึ้นอีกเป็นกอง แต่นักวิทยาศาสตร์กับพบว่ามันมีปฏิกิริยาอะไรบางอย่างทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลัง ‘รักแรกพบ’ รวมไปถึงว่าในสภาพสังคมทุกวันนี้ ที่การเริ่มต้นเดตทางออนไลน์พุ่งสูงขึ้น ‘รักแรกพบ’ จะยังมีอยู่หรือไม่?

 

รักแรกพบ ผู้ชายเชื่อมากกว่าผู้หญิง!

ผลสำรวจในปี 2017 พบว่าผู้ชายมีความเชื่อในเรื่องรักแรกพบมากกว่าผู้หญิง โดยมีการรวบรวมจากเว็ปไซต์ออนไลน์อย่าง Elite Singles และพบว่าในขณะที่ผู้หญิงร้อยละ 61 เชื่อในรักแรกพบ ผู้ชายกลับเชื่อในคอนเซ็ปต์นี้กว่าร้อยละ 72  และพบว่าชาวมิลเลนเนียล เชื่อคอนเซปต์นี้มากกว่าคนในยุคก่อนๆ และต่างก็มีความเชื่อว่ารักแรกพบนั้นจะไม่เกิดขึ้น หากมุ่งแต่ที่จะหามัน

กระบวนการของรักแรกพบนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางความรัก  ซึ่งเริ่มจาก การตกหลุมรัก ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและทางเคมีในร่างกาย สารสื่อประสาทอย่างออกซิโตซินและโดปามีนจำนวนมาก จะกระตุ้นสมองทำให้เกิดภาวะร่าเริง ส่วนออกซิโตซินจะช่วยให้เกิดความเชื่อใจคนที่พบอย่างประหลาดในแบบที่ผิดแผกจากปกติ (บางคนอาจจะมีความรู้สึกว่าคุ้นเคยกับคนนี้เหมือนชาติปางก่อนเคยเจอกันมานั่นแหละ) และสารออกซิโตซินนี้เองที่ทำให้เกิดความรู้สึกผูกพันอย่างลึกซึ้งอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นกัน โดยพบว่าเป็นสารที่ทำหน้าที่เดียวกันกับตอนที่แม่คลอดลูก!

กระบวนการตกหลุมรักในขั้นแรกนี้จึงทำให้เกิดความรักที่ล้นเอ่อขึ้นมาแบบเดียวกับที่พ่อแม่มีต่อลูกอย่างไรก็อย่างนั้น!

 

นอกจากนี้ฮอร์โมนก็เข้ามามีบทบาทด้วยอย่างเอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรน ที่ทำให้เกิดอาการดึงดูดใจที่มีต่อเพศตรงข้ามมากขึ้น ถ้าพวกเขาเจอรักแรกพบ คนที่เจอก็จะดึงดูดใจได้รุนแรงอย่างหนักหน่วง  โดยนักวิทยาศาสตร์บางรายบอกว่า ความประทับใจแรกที่ได้รับนั้น มีพื้นฐานมากจากวิวัฒนาการของมนุษย์ หากเป็นคนที่แข็งแรง สูง หล่อ หรือสวย ก็จะมีเปอร์เซนต์ได้รับสิ่งนั้นมาก และแรงดึงดูดจะมากขึ้นหากมีการสบตาหรือสัมผัส ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสัญญาณของฮอร์โมนเพศที่ทำปฏิกิริยากับร่างกายและจิตใจของเรา

นักวิทยาศาสตร์บางรายจึงบอกว่า ‘รักแรกพบ’ นั้นไม่ใช่ความรักแท้ แต่เป็นเพียงแค่การถูกดึงดูดใจจากฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง แต่กับบางคนก็มองว่าแม้รักแรกพบจะไม่ลึกซึ้งเท่ารักโรแมนติกระยะยาว แต่มันก็เป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งคู่พร้อมที่จะเรียนรู้กันและกันได้มากขึ้น

 

เมื่อตกหลุมรักพัฒนาเป็นรักแท้

หลังจากที่ฮอร์โมนและสารสื่อประสาททำงานกับอย่างพลุ่งพล่าน ร่างกายจะพยายามหยุดและต่อต้าน แต่มันต้องใช้เวลา ซึ่งพบว่าอาจยาวนานได้ตั้งแต่ 2 เดือนถึง 2 ปี  ... สำหรับในช่วงสองสามเดือนแรกของความสัมพันธ์ ระดับเซโรโทนินลดลง ส่งผลให้คอร์ติซอลไหลเข้าสู่ร่างกาย ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น รูม่านตาขยาย และบางทีอาจเริ่มรู้สึกว่า 'ผีเสื้อ' บินในท้อง ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่ไม่สามารถคิดถึงสิ่งอื่นได้นอกจากคนที่เราตกหลุมรัก ระดับเซโรโทนินที่ลดลงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้หมกมุ่นอยู่กับคนใหม่โดยฉับพลัน โดยไม่สามารถคิดถึงสิ่งอื่นใดนอกจากเขาได้

การศึกษาในปี 2019 ที่ผ่านมายังพบว่าการตกหลุมรักในช่วงเวลานี้ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดของผู้หญิง ซึ่งจะช่วยปกป้องในเรื่องการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นการตกหลุมรักจะจบลงและต้องพัฒนาเป็นความรักที่แน่นแฟ้นมากขึ้นเกิดความผูกพันกันมากขึ้น โดยพบว่าหลังจากนั้นผู้คนจะตกหลุมรักกับนิสัยใจคอและคุณค่าที่ยึดถือมากกว่า รักแรกพบจึงไม่ใช่สิ่งที่บอกว่าเขาหรือเธอใช่แล้วแม้แต่น้อย

 

เคมีของความรัก

หากจะต้องอธิบายความรักในแบบวิทยาศาสตร์และเคมีในสมองอย่างแท้จริงนั้น มีคำอธิบายไว้ว่าประกอบด้วย 3 ขั้น ที่แบ่งแยกออกจากกันชัดเจน ได้แก่

  • ความหลง (Lust) ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยฮอร์โมนเพศล้วนๆ ซึ่งพื้นฐานพัฒนาการสิ่งนี้มากจากความต้องการในการสืบพันธุ์ของมนุษย์ เพื่อให้เผ่าพันธุ์คงอยู่ต่อไป
  • ความดึงดูด (Attraction) ซึ่งมีโดปามีนเป็นส่วนประกอบหลัก สารเคมีนี้จะถูกปล่อยออกมาหากเราเกิดการดึงดูดจาอีกฝ่าย ซึ่งทำให้รู้สึกเวียนหัว มีพลังและร่าเริงอย่างที่กล่าวไปแล้ว บางคนอาจนำไปสู่อาการที่ว่า ‘กินไม่ได้นอนไม่หลับ’ ย้ำคิดย้ำทำวนเวียนอยู่กับเรื่องของเขา
  • ความผูกพันลึกซึ้ง (Attachment) ซึ่งมีสารสื่อประสานอย่างออกซิโตซินและวาโซเพรสซิน ออกซิโตซินจะถูกเรียกว่าฮอร์โมนแห่งกอด เพราะฉะนั้นอย่างที่กล่าวไปคือฮอร์โมนนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนเวลาตอนคลอดลูก ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสารตั้งต้นของความผูกพัน ออกซิโตซินนี้นอกจากจะสร้างอารมณ์บวกแล้ว ยังเป็นต้นเหตุของอารมณ์หึงหวงและอิจฉาได้อีกด้วย

 

รักแรกพบในออนไลน์เกิดขึ้นได้จริงหรือไม่

แล้วในสังคมปัจจุบันล่ะ? จากข้อมูลของ Statista ภายในสิ้นปี 2023 สหรัฐอเมริกาจะมีเปอร์เซ็นต์ประชากรที่ใช้บริการหาคู่ออนไลน์สูงที่สุด โดยสูงถึง 21.9% เทรนด์การหาคู่ออนไลน์นี้จะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในประเทศแถบยุโรป เช่น สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส ทำให้เห็นว่ายุคสมัยนี้การหารักในออนไลน์เป็นอีกหนทางหนึ่งที่ผู้คนนิยมกันเป็นอย่างมาก

ความรักแรกพบในออนไลน์ คือการสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบ ซึ่งมาในรูปแบบของ รูปโปรไฟล์ คำบรรยายใต้ภาพ หรือรูปถ่ายที่ทำให้ได้เห็นถึงไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิต บางคนสวย หล่อ ตามความนิยมก็จะมีโอกาสถูกปัดเข้าไปพูดคุยมากกว่า แล้วเมื่อพูดคุยก็ดูว่าบทสนทนาจะไปต่อได้ยาวมั้ย จนกระทั่งเกิดการนัดเจอในเวลาต่อมา ..

แต่ถ้าถามว่า ดีกรีของรักแรกพบในออนไลน์จะรุนแรง พลุ่งพล่านได้หรือไม่ ก็อาจจะตอบว่าน้อยกว่า เพราะอย่าลืมว่าดีกรีของรักแรกพบ จะพุ่งสูงขึ้นจาก การสื่อสารด้วยสายตาและการสัมผัส .. นอกจากนี้คนทั่วไปที่เข้ามาในแอปหาคู่ ก็ไม่ใช่คนที่มองหา 'รักแรกพบ' ในรูปแบบที่เจอและตกหลุมรักทันที  แต่เป็นการมองหาคนที่อยากคุยด้วย คนที่คิดว่าไลฟ์สไตล์น่าสนใจและเข้ากันได้มากกว่าและทักไป .. ซึ่งเป็นกระบวนการมองหา 'คู่ชีวิต' อย่างแท้จริง

 

เพราะฉะนั้นหากจะกล่าวว่า  รักโรแมนติกแรกพบสบตา ในออนไลน์เกิดขึ้นได้หรือไม่ ก็ต้องบอกว่ามันคงเกิดขึ้นได้น้อยเสียเหลือเกิน แต่มันคือการสร้าง ‘ความประทับใจแรก’ เสียมากกว่า ความประทับใจจึงไม่ได้ทำให้ใจเต้นตึกตัก ดูรูปแล้วกินไม่ได้นอนไม่หลับ รู้สึกร่าเริงกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาได้เลย อย่างที่ปฏิกิริยา ‘รักแรกพบ’ ทำกับร่างกายของเรา .. แต่อย่างที่บอกไปว่า รักแรกพบนั้น เป็นขั้นแรกๆ ของความรักและไม่ได้การันตีว่ารักจะยั่งยืนยงเสมอไป 

เราพบว่าความรักในออนไลน์มีเปอร์เซนต์ความสำเร็จสูงขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งพวกเขาเริ่มต้นมาจากการพูดคุย มีความสุขที่ได้คุยได้ทำความรู้จัก บางคู่ใช้เวลาพูดคุยกันอยู่นาน หรือบางคู่ใช้เวลาอันสั้นและนัดเจอกัน และเมื่อต้องเจอสำหรับบางคนเฉยๆ บางคนผิดหวังกับสิ่งที่จินตนาการไว้ แต่บางคนกลับเกิดอาการตกหลุมรักและชื่นชอบได้มากขึ้น และสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ระยะยาวก็มีอยู่หลายคู่เลยทีเดียว!