posttoday

สวทช. จับมือ ศิริราช เดินหน้า “ระบบนำส่งยาแบบแม่นยำ” รักษามะเร็งสมอง

23 กุมภาพันธ์ 2567

สวทช. จับมือศิริราช ยกระดับการรักษาโรคมะเร็ง ใช้นาโนเทคโนโลยีพัฒนา “ระบบนำส่งยาแบบแม่นยำ" รักษาและวินิจฉัยมะเร็งสมอง

“มะเร็งสมอง” หนึ่งในมะเร็งในระบบประสาทส่วนกลางที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตประชาชน รวมถึงส่งผลต่องบประมาณที่หน่วยงานทางด้านสาธารณสุขในประเทศต้องใช้เพื่อรักษาและดูแลผู้ป่วยจากโรคเหล่านี้ อว. โดย นาโนเทค สวทช. จับมือศิริราช ใช้นาโนเทคโนโลยีพัฒนา “ระบบนำส่งยาเพื่อการรักษาและการวินิจฉัยมะเร็งสมอง” ออกแบบอนุภาคนำส่งยาแบบมุ่งเป้าข้ามผ่าน “BBB หรือตัวกรองกั้นระหว่างเลือดและสมอง” อุปสรรคสำคัญของการรักษา ผลในสัตว์ทดลองได้ผลดี เป็นโอกาสสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาโรคมะเร็งในระบบประสาทส่วนกลาง สามารถต่อยอดประยุกต์ใช้กับเปลี่ยนยา โมเลกุลมุ่งเป้า หรือสารทึบรังสี เพื่อให้เหมาะสมกับการรักษาโรคมะเร็งชนิดอื่น ๆ รวมถึงโรคทางสมอง อาทิ พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ได้อีกด้วย

ปัญหาหนึ่งในการรักษาโรคมะเร็งสมองคือ กว่า 95% ของยาที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นไม่สามารถที่จะผ่านเข้าไปรักษาโรคในสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากในสมองนั้นมีโครงสร้างตัวกรองกั้นระหว่างเลือดและสมอง หรือ BBB (blood-brain barrier) ที่บุและห่อหุ้มหลอดเลือดทุกเส้นในสมอง ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ขัดขวางไม่ให้ยารักษาโรคทางสมองเข้าถึงเซลล์สมองส่วนที่เป็นโรคด้วยเช่นกัน

 

ดร. ณัฏฐิกา แสงกฤช หัวหน้าทีมวิจัยเวชศาสตร์นาโน กลุ่มวิจัยการห่อหุ้มระดับนาโน ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า

“งานวิจัยนี้ต้องการใช้ประโยชน์ของนาโนเทคโนโลยีในการพัฒนาระบบนำส่งยาเพื่อการรักษาและการวินิจฉัยมะเร็งสมองโดยสามารถข้ามผ่าน BBB โดยได้ออกแบบอนุภาคเพื่อการนำส่งแบบมุ่งเป้า ซึ่งนำเข้าสู่ร่างกายโดยการบริหารยาผ่านเส้นเลือดดำ (intravenous administration) เพื่อให้ยาเข้าสู่บริเวณเป้าหมายคือสมองโดยข้ามผ่าน BBB สำหรับการบำบัดโรคมะเร็งสมองระบบประสาทส่วนกลาง ได้แก่ Primary central nervous system lymphoma (PCNSL) ซึ่งเป็นมะเร็งที่ยังไม่มีความเข้าใจมากนักเกี่ยวกับระบบการวินิจฉัยและรักษา”

ทีมวิจัยยังได้ร่วมกับ รศ. นพ. สิทธิ์ สาธรสุเมธี ศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิจัยเวชศาสตร์นาโนวินิจฉัยพร้อมรักษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ศึกษาเบื้องต้นในระดับ pre-clinical เพื่อยืนยันความสามารถในการวินิจฉัยแบบจำเพาะกับมะเร็งสมองในหนูทดลองที่มีอาการโรค โดยทำซีโนกราฟท์ (xenograft) มะเร็งต่อมน้ำเหลืองของมนุษย์ในสมองหนูพร่องระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง แล้วฉีดอนุภาคผ่านหลอดเลือดดำที่หาง เพื่อวิเคราะห์ MRI พบสัญญาณของ MRI ชัดเจนที่บริเวณเป้าหมายในสมองหนูทดลอง

หลังจากที่ยืนยันคุณสมบัติของอนุภาคที่ออกแบบเพื่อการบำบัดพร้อมวินิจฉัยแล้วนั้น อนุภาคได้ถูกนำมาทดสอบประสิทธิภาพในการรักษาโรค PCNSL ต่อ โดยได้สังเคราะห์อนุภาคลิโปโซมที่ติดโมเลกุลยา RTX ไว้ที่ผิวของอนุภาค (Lip/RTX) ซึ่งเป็นแบบ therapeutic เพื่อทดสอบในหนูทดลองที่ทำการเหนี่ยวนำให้เกิดโรค PCNSL ผลพบว่า อนุภาคลิโปโซมที่ติดโมเลกุลยา RTX ไว้ สามารถเพิ่มระยะรอดชีพที่ของหนูที่เป็น PCNSL ได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับด้วยยาหลอกหรือยา RTX ปกติ แสดงให้เห็นว่า ยาถูกนำส่งและข้ามผ่าน BBB ได้ สอดคล้องกับผลจากการทดสอบระดับเซลล์

ทีมวิจัยนาโนเทคได้ออกแบบและสังเคราะห์อนุภาคนาโนเพื่อใช้ในการตรวจวินิจฉัยพร้อมรักษาสำหรับ PCNSL ประกอบด้วยอนุภาคนาโนลิโปโซมที่บรรจุสารทึบรังสี superparamagnetic nanoparticles (SPIONs) สำหรับติดตามเซลล์เป้าหมาย ที่ทำงานร่วมกับแอนติบอดีเพื่อการรักษาชื่อ Rituximab (RTX) สำหรับการกำหนดเป้าหมายและการรักษาที่เฉพาะเจาะจง และมีสารลดแรงตึงผิวเพื่อช่วยให้ระบบนำส่งนี้ข้ามผ่าน BBB ได้ จากการประเมินประสิทธิภาพของอนุภาคดังกล่าวพบว่า อนุภาคสามารถข้ามผ่าน BBB ได้จริง มีความจำเพาะในการจับและเข้าเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลือง สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ RTX ในการยับยั้งเซลล์มะเร็งแบบ apoptosis ในหลอดทดลองได้และมีผลต่อการยับยั้งเซลล์มะเร็งที่อยู่ภายใต้ BBB ที่จำลองขึ้นในหลอดทดลองดังกล่าว

ทั้งนี้ งานวิจัยเรื่อง “ระบบนำส่งยาแบบแม่นยำเพื่อการรักษาโรคมะเร็งระบบประสาทส่วนกลาง” ได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติฯ ประจำปี 2567 ในรางวัลผลงานวิจัยระดับดีมาก ภายในงาน “วันนักประดิษฐ์” ประจำปี 2567 (Thailand Inventors’ Day 2024) จัดโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รวมถึงสามารถสร้างผลงานตีพิมพ์ระดับนานาชาติ 4 ฉบับและทรัพย์สินทางปัญญา 1 ฉบับ พร้อมแสดงศักยภาพของระบบนำส่งยานาโนชนิดใหม่ในการสำหรับการพัฒนาต่อยอดทางคลินิก เพื่อใช้ในผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระบบประสาทส่วนกลางปฐมภูมิ และโรคความบกพร่องทางสมอง (neurodegenerative disease) ชนิดอื่น ๆ ได้ อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนยา โมเลกุลมุ่งเป้า หรือสารทึบรังสี เพื่อให้เหมาะสมกับการรักษาโรคมะเร็งชนิดอื่น ๆ ได้อีกด้วย