Data Center บูมหนัก ฉุด โครงการสร้างถนน-สาธารณูปโภค ล่าช้า
กระแสการลงทุนก่อสร้าง Data Center เพื่อรองรับเทคโนโลยี AI กำลังส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน จากการแย่งชิงทรัพยากรแรงงานและวัสดุก่อสร้าง
KEY
POINTS
- ภาคเอกชนทุ่มเม็ดเงินก่อสร้าง Data Center สูงถึง 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่แทบจะเท่ากับงบประมาณที่รัฐบาลท้องถิ่นใช้ในการก่อสร้างระบบคมนาคมขนส่ง
- โครงการพัฒนาสาธารณูปโภคต้องแย่งชิงคนงานก่อสร้างกับภาคเอกชน ท่ามกลางภาวะขาดแคลนแรงงานเดิมจากการเกษียณอายุ และนโยบายกีดกันผู้อพยพของโดนัลด์ ทรัมป์
- ซีอีโอ Autodesk มั่นใจว่าการขยายตัวของ Data Center จะดึงทรัพยากรไปจากส่วนอื่น ส่งผลให้โครงการโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถเดินหน้าได้เร็วตามเป้า
รายงานจากสำนักข่าว Bloomberg เปิดเผยข้อมูลที่น่ากังวลสำหรับภาคการพัฒนาเมือง เมื่อการเร่งเครื่องก่อสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) จำนวนมหาศาลกำลังกลายเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการปรับปรุงถนนหนทาง สะพาน หรือระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ
ภาครัฐระดมทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สร้าง Data Center
สถานการณ์ทางการเงินของรัฐบาลระดับรัฐและท้องถิ่นในสหรัฐฯ ในปี 2025 มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองอยู่ไม่น้อย เนื่องจากมีการระดมทุนผ่านตราสารหนี้สูงเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นปีที่สอง
นักกลยุทธ์ทางการเงินคาดการณ์ว่าในปีหน้า ยอดขายพันธบัตรเพื่อระดมทุนอาจสูงถึง 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเม็ดเงินส่วนใหญ่ถูกวางแผนไว้สำหรับการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม แม้ภาครัฐจะมีงบประมาณพร้อม แต่ข้อมูลจากสำนักสำรวจสำมะโนประชากร (Census Bureau) เปิดเผยตัวเลขที่น่าตกใจว่า
การใช้จ่ายของภาคเอกชนในการก่อสร้าง Data Center นั้นพุ่งสูงแตะระดับ 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี (Annualized Run Rate) ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงพอๆ กับงบประมาณที่รัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลระดับรัฐใช้ไปกับการก่อสร้างระบบคมนาคมขนส่ง
ความต้องการก่อสร้างที่พุ่งสูงขึ้นพร้อมกันทั้งสองฝั่ง ทำให้เกิดการแย่งชิงทรัพยากร "แรงงานก่อสร้าง" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัญหานี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนแรงงานจากสองปัจจัยหลัก ได้แก่
การทยอยเกษียณอายุของแรงงานทักษะ และผลกระทบจากนโยบายปราบปรามผู้อพยพที่เข้มงวดขึ้นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อจำนวนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง
แอนดรูว์ อนาญอสต์ (Andrew Anagnost) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Autodesk ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบและก่อสร้างรายใหญ่ ให้ความเห็นกับ Bloomberg ไว้อย่างชัดเจนว่า
"การก่อสร้าง Data Center กำลังดึงทรัพยากรไปจากโครงการอื่นๆ ผมรับประกันได้ว่า โครงการโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากจะไม่สามารถเดินหน้าได้รวดเร็วอย่างที่หลายฝ่ายคาดหวัง"
สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายใหม่ของเศรษฐกิจโลก ที่การเติบโตของเทคโนโลยี AI อาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน หากไม่มีการบริหารจัดการทรัพยากรแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ
อ้างอิง:


