รู้จัก "กฎหมายสัตว์เลี้ยงใหม่" กทม. คุมเข้ม จำนวน-สุขลักษณะ
กทม. ประกาศใช้ "ข้อบัญญัติควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567" ต้องจดทะเบียน - ฝังไมโครชิป หวัง จัดระเบียบ - สร้างสวัสดิภาพที่ดีขึ้นให้สัตว์เลี้ยง เริ่ม 10 ธ.ค. 2569
ข้อบัญญัติใหม่เพื่อการอยู่ร่วมกัน 🐾
กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ประกาศใช้ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่เข้ามาแทนที่ข้อบัญญัติเดิม
เพื่อควบคุมการเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยของทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ป้องกันการเกิดสัตว์จรจัด และแก้ไขปัญหาสุขลักษณะและเหตุรำคาญในชุมชน
กำหนดจำนวนสัตว์เลี้ยงตามขนาดพื้นที่อย่างชัดเจน
สาระสำคัญที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงในกรุงเทพฯ ต้องรับทราบ คือการจำกัดจำนวนการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสุนัขและแมว ตามขนาดพื้นที่อยู่อาศัย
1. ห้องเช่า/อาคารชุด (คอนโดมิเนียม)
- ขนาด 20 - 80 ตารางเมตร : เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว
- ขนาด 80 ตารางเมตรขึ้นไป: เลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว
2.บ้านพร้อมที่ดิน
- เนื้อที่ดินไม่เกิน 20 ตารางวา : เลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว
- เนื้อที่ดินไม่เกิน 50 ตารางวา : เลี้ยงได้ไม่เกิน 3 ตัว
- เนื้อที่ดินไม่เกิน 100 ตารางวา : เลี้ยงได้ไม่เกิน 4 ตัว
- เนื้อที่ดิน 100 ตารางวาขึ้นไป : เลี้ยงได้ไม่เกิน 6 ตัว
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดจำนวนการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจและสัตว์ประเภทอื่น ๆ ตามขนาดพื้นที่เพื่อควบคุมสุขอนามัยในชุมชนด้วย
การควบคุมจำนวน การเลี้ยงสัตว์ตามพื้นที่
1. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ขนาดใหญ่
เลี้ยงได้ 1 ตัว / 50 ตร.วา
2. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ขนาดเล็ก
เลี้ยงได้ 3 ตัว / 50 ตร.วา
3. ไก่ เป็ด ห่าน
เลี้ยงได้ 1 ตัว / 4 ตร.ม.
4. นกขนาดใหญ่
เลี้ยงได้ 1 ตัว / 50 ตร.ม.
5. นกขนาดเล็ก
เลี้ยงได้ 5 ตัว / 1 ตร.ม.
ห้ามเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่สาธารณะ ยกเว้น เพื่อรักษาพยาบาล การย้ายที่อยู่ของเจ้าของ ปล่อยสัตว์เพื่อการกุศล/จารีตประเพณี
ต้องจดทะเบียน - ฝังไมโครชิปเพื่อการควบคุม
ข้อบัญญัติใหม่นี้กำหนดให้เจ้าของสัตว์ต้องดำเนินการ จดทะเบียนสัตว์เลี้ยงและฝังไมโครชิป ณ สถานที่ที่ กทม. กำหนด
โดยต้องดำเนินการภายใน 120 วัน นับตั้งแต่วันที่สัตว์เกิด หรือภายใน 30 วัน นับแต่วันที่นำสัตว์มาเลี้ยงในเขตกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ เจ้าของสุนัขพันธุ์อันตราย เช่น พิทบูล และร็อตไวเลอร์ จะต้องแจ้งเขตเพื่อควบคุมเป็นพิเศษด้วย
ข้อปฏิบัติเมื่อพาสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้าน
เพื่อป้องกันเหตุรำคาญและอันตรายต่อสาธารณะ เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเมื่อพาสัตว์เลี้ยงออกนอกสถานที่อย่างเคร่งครัด:
1.ต้องใช้สายจูงหรือกรงที่มั่นคงแข็งแรง และควบคุมสัตว์เลี้ยงไม่ให้รบกวนผู้อื่น
2. เจ้าของต้องเก็บสิ่งปฏิกูลที่สัตว์ขับถ่ายในที่สาธารณะทุกครั้ง
ข้อบัญญัติดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2569 โดยผู้ที่เลี้ยงสัตว์เกินจำนวนที่กำหนดก่อนวันที่ข้อบัญญัติใช้บังคับ จะต้องแจ้งต่อสำนักงานเขตหรือแจ้งทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามแบบที่กำหนด ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อบัญญัติใช้บังคับ หากฝ่าฝืนข้อกำหนด อาจมีโทษปรับสูงสุดถึง 25,000 บาท
ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 มีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้
ขั้นตอนการจดทะเบียนสุนัขและแมว (มีผลบังคับใช้ 10 ม.ค. 2569)
เจ้าของสัตว์เลี้ยงมีหน้าที่ต้องนำสุนัขและแมวไปจดทะเบียนและฝังไมโครชิป ภายใน 120 วัน นับตั้งแต่วันที่สัตว์เกิด หรือ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่นำสัตว์มาเลี้ยงในเขตกรุงเทพมหานคร
1. การฝังไมโครชิป (Microchip Implantation)
ถือเป็นขั้นตอนแรกและเป็นข้อบังคับตามกฎหมายใหม่เพื่อยืนยันตัวตนของสัตว์เลี้ยง
สถานที่รับบริการ
คลินิกสัตวแพทย์กรุงเทพมหานครทั้ง 8 แห่ง หรือ หน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ของ กทม.
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.1 สีพระยา เขตบางรัก โทร. 0-2236-4055 ต่อ 213
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.2 มีนบุรี เขตมีนบุรี โทร. O-2914-5822
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.3 วัดธาตุทอง เขตวัฒนา โทร. O-2392-9278
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.4 บางเขน เขตจตุจักร โทร. O-2579-1342
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.5 วัดหงส์รัตนาราม เขต
บางกอกใหญ่ โทร. 0-2472-5895 ต่อ 109
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.6 ช่วงนุชเนตร เขตจอมทอง โทร. 0-2476-6493 ต่อ 1104
- คลินิกสัตวแพทย์ กทม.7 บางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย โทร. 0-2411-2432
คลินิก/โรงพยาบาลสัตว์เอกชน (มีค่าใช้จ่ายตามที่แต่ละแห่งกำหนด)
สิ่งที่ได้รับ : เจ้าของจะได้รับ ใบรับรอง (คลส. 1) เพื่อนำไปยื่นประกอบการจดทะเบียน
2. การยื่นคำขอจดทะเบียน
เมื่อสัตว์ได้รับการฝังไมโครชิปเรียบร้อยแล้ว เจ้าของต้องยื่นคำขอจดทะเบียนสัตว์เลี้ยง (คลส. 2)
สถานที่ยื่นคำขอ
- คลินิกสัตวแพทย์กรุงเทพมหานคร
- สำนักงานเขต ในพื้นที่
- ระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ตามที่ กทม. จะได้พัฒนาและประกาศกำหนด)
3. เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียน
เจ้าของสัตว์ต้องเตรียมเอกสารหลักและเอกสารแนบให้ครบถ้วน
เอกสาร
- บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของสัตว์
- ทะเบียนบ้านที่สัตว์อาศัยอยู่ (ที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร)
- ใบรับรอง (คลส. 1) ที่ได้รับจากการฝังไมโครชิป
- หนังสือรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (ถ้ามี)
- หนังสือรับรองการผ่าตัดทำหมันจากสัตวแพทย์ (ถ้ามี)
- หนังสือยินยอมจากผู้ให้เช่า ในกรณีที่เจ้าของสัตว์เป็นผู้เช่าที่พักอาศัย
- หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน)
4. รับบัตรประจำตัวสัตว์ (คลส. 3)
เมื่อการจดทะเบียนเสร็จสมบูรณ์ เจ้าของจะได้รับบัตรประจำตัวสัตว์เลี้ยง (คลส. 3)
ข้อควรรู้สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์เกินจำนวนก่อนกฎหมายบังคับใช้
สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงสุนัขหรือแมวเกินจำนวนที่กำหนดไว้ในข้อบัญญัติ ก่อนวันที่ 10 มกราคม 2569 (วันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้)
สามารถเลี้ยงสัตว์เดิมต่อไปได้ตลอดชีวิต แต่ต้องรีบแจ้งต่อสำนักงานเขต หรือแจ้งโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ ตามแบบ คลส. 5 ภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันที่ข้อบัญญัติใช้บังคับ (คือตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2569 ถึงประมาณ 9 เมษายน 2569)


