posttoday

เคาะปรับอุโมงค์เกษตร–งามวงศ์วานเป็นทางด่วน เก็บค่าผ่านทาง 30 บาท

06 ธันวาคม 2568

คจร.อนุมัติเปลี่ยนอุโมงค์เกษตร–งามวงศ์วานเป็นทางด่วนเชื่อมตะวันออก–ตะวันตก เก็บค่าผ่านทาง 30 บาท ขณะพรรคไทยก้าวใหม่คัดค้านหวั่นจราจรพัง–ชาวบ้านเดือดร้อน

KEY

POINTS

  • คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) มีมติอนุมัติให้เปลี่ยนโครงการอุโมงค์แยกเกษตร-งามวงศ์วาน เป็นทางด่วนยกระดับเพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายกรุงเทพฯ ตะวันออก-ตะวันตก
  • กำหนดอัตราค่าผ่านทางตลอดเส้นทาง 19 กิโลเมตรไว้ที่ 30 บาทสำหรับรถยนต์ 4 ล้อ โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง (ฉลองรัช-คลองเปรม 20 บาท และ คลองเปรม-แคราย 10 บาท)
  • โครงการเผชิญเสียงวิจารณ์ว่าจะทำให้การจราจรบนถนนงามวงศ์วานติดขัดรุนแรงขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ เนื่องจากต้องลดช่องจราจรสาธารณะลง

วันที่ 4 ธันวาคม 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) มีมติอนุมัติให้เปลี่ยนแนวเส้นทางอุโมงค์แยกเกษตร–ถนนงามวงศ์วาน–สะพานพงษ์เพชร มาเป็น “ทางด่วน” เพื่อเชื่อมระบบโครงข่ายด้านตะวันออก–ตะวันตกของกรุงเทพฯ โดยกำหนดค่าผ่านทางตลอดเส้นทาง 19 กิโลเมตร ราคา 30 บาท เฉพาะรถ 4 ล้อ แบ่งเป็นช่วงฉลองรัช–เรือนจำคลองเปรม 20 บาท และช่วงเรือนจำคลองเปรม–แคราย 10 บาท ทั้งนี้ โครงการยังต้องจัดทำประชาพิจารณ์ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นประธานการประชุม เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับแนวทางเชื่อมต่อโครงข่ายทางพิเศษตะวันออก–ตะวันตก โดยมอบหมายให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ศึกษาออกแบบรายละเอียดเพิ่มเติมและทบทวนผลการศึกษาอีกครั้ง

 

รายงานจาก กทพ. ระบุว่า การปรับรูปแบบจาก “อุโมงค์ทางลอด” มาเป็น “ทางยกระดับ” จะช่วยลดวงเงินลงทุนได้มาก เพราะต้นทุนก่อสร้างอุโมงค์สูงกว่าทางยกระดับถึง 3 เท่า อีกทั้งยังเคยถูกคัดค้านจากหลายภาคส่วน ทำให้แนวคิดใหม่วางแผนก่อสร้างทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจร ซ้อนทับตามกลางถนนประเสริฐมนูกิจ ผ่านแยกเสนานิคมและแยกลาดปลาเค้า ก่อนค่อย ๆ ลดระดับลงมาเชื่อมต่อกับผิวถนนช่วงแยกเกษตร–แยกพงษ์เพชร ซึ่งจะถูกจัดเป็นช่องจราจรเฉพาะทางด่วน และยกระดับต่อจากแยกพงษ์เพชรไปจนถึงแยกแคราย

 

สำหรับช่วงข้ามถนนวิภาวดีรังสิตบริเวณทางแยกต่างระดับบางเขน จะก่อสร้างสะพานกลับรถใหม่เพื่อทดแทนสะพานเดิม พร้อมทั้งปรับรูปแบบสะพานข้ามแยกพงษ์เพชรใหม่ โดยปลายเส้นทางจะสิ้นสุดที่แยกแคราย จากเดิมที่เคยวางแนวให้สิ้นสุดที่แยกต่างระดับศรีรัช

 

เสียงวิจารณ์จากพรรคไทยก้าวใหม่ กทม. อาจ “รถติดสาหัส วินาศสันตะโร”

ด้านนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความกังวลต่อมติ คจร. ครั้งนี้ โดยระบุว่า การยึดพื้นที่ถนนงามวงศ์วานมาเป็นทางด่วนจะสร้างผลกระทบโดยตรงกับประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ใช้เส้นทางทุกวัน พร้อมตั้งคำถามว่ารัฐมนตรีคมนาคมได้ศึกษาข้อมูลและลงพื้นที่จริงหรือไม่ ก่อนอนุมัติโครงการที่เสี่ยงต่อความเดือดร้อนของชุมชนจำนวนมาก

 

สุชัชวีร์ให้เหตุผลเชิงวิศวกรรม 3 ประเด็นหลักว่าทำไมไม่ควรยึดถนนงามวงศ์วานมาทำเป็นทางด่วน ได้แก่

1. ถนนหายไปครึ่งหนึ่ง รถติดหนักหลายเท่า
ถนนงามวงศ์วานเป็นเส้นหลักที่มีปริมาณรถหนาแน่นอยู่แล้ว การนำพื้นที่ 4 ช่องจราจรไปใช้เป็นทางด่วนจะทำให้ถนนเหลือฝั่งละเพียง 2 ช่องทาง ซึ่งจะทำให้การจราจรติดขัดรุนแรงยิ่งกว่าเดิม ครอบคลุมตั้งแต่ถนนงามวงศ์วานถึงนนทบุรี รวมถึงถนนเกษตร–นวมินทร์และถนนพหลโยธิน

 

2. เสี่ยงอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นอย่างมาก
อุโมงค์แยกเกษตรซึ่งออกแบบมาเพื่อการวิ่งความเร็วต่ำ จะถูกดัดแปลงให้เป็นทางด่วนที่รถวิ่งความเร็วสูง ทำให้เสี่ยงต่ออุบัติเหตุอย่างยิ่ง ทั้งยังมีการลดช่องทางจราจรจาก 6 เหลือ 4 ช่องทาง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงตามหลักวิศวกรรมความปลอดภัย

 

3. มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า ได้แก่ “อุโมงค์ทางด่วน”
สุชัชวีร์ชี้ว่า ตอม่อที่ยังคงตั้งโดดเด่นบนถนนเกษตร–นวมินทร์คือโครงสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 เดิม ซึ่งประชาชนเคยคัดค้านเพราะสะพานยกระดับจะต้องสร้างสูงใหญ่ข้ามทั้งรางรถไฟฟ้าและทางยกระดับหลายชั้น ทำให้เกิดผลกระทบด้านทัศนียภาพและช่องทางจราจร ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดคือการสร้าง “อุโมงค์ทางด่วนใต้ดิน” ที่ไม่กินพื้นที่ผิวจราจรและสามารถควบคุมความปลอดภัยได้ตามมาตรฐาน แต่กลับถูกยกเลิกและเปลี่ยนเป็นรูปแบบที่กระทบประชาชนมากกว่า

 

ข่าวล่าสุด

จากคลิปดราม่าด้อยค่าอส. เปิดเรื่องราวชีวิตสุพิศ พิทักษ์ธรรม