ติดตามสถานการณ์แม่น้ำสายหลัก ภาคกลาง - ชีมูล เฝ้าระวังน้ำมาก
ติดตามสถานการณ์แม่น้ำสายหลักของประเทศไทย พบเฝ้าระวังน้ำมากในเขตพื้นที่ภาคกลางโซนรับน้ำจากภาคเหนือ และแม่น้ำชี-มูล ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
KEY
POINTS
- แม่น้ำท่าจีนที่ จ.สุพรรณบุรี อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังน้ำมากวิกฤต โดยมีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.79 เมตร
- แม่น้ำสายหลักในภาคกลาง (สะแกกรัง, แม่กลอง) และภาคอีสาน (ชี, มูล) อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังน้ำมาก
- ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ภาพรวมอยู่ที่ 90% โดยเฉพาะเขื่อนหลักที่ส่งผลต่อภาคกลางมีปริมาณน้ำสูงเกือบเต็มความจุ
- กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนอิทธิพลพายุ "คัลแมกี" จะทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคเหนือ ช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เผยภาพอินโฟกราฟิกติดตามสถานการณ์แม่น้ำสายหลักทั่วประเทศวันนี้ (6 พฤศจิกายน 2568)
- พื้นที่เฝ้าระวังน้ำมากวิกฤต มีแห่งเดียว คือ แม่น้ำท่าจีน ที่อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี น้ำสูงกว่าตลิ่งราว 1.79 ม.
แม่น้ำที่ อยู่ในเขตเฝ้าระวังน้ำมาก ได้แก่
- ภาคกลาง แม่น้ำสะแกกรัง และแม่น้ำแม่กลอง
- ภาคอีสาน แม่น้ำชี และแม่น้ำมูล
สถานการณ์น้ำในเขื่อนใหญ่
คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนใหญ่วันนี้ 6 พฤศจิกายน 2568 โดยปริมาณน้ำภาพรวมในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่ที่ร้อยละ 90 แบ่งเป็น
- ภาคเหนือ 98%
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 89%
- ภาคกลาง 91%
- ภาคตะวันตก 89%
- ภาคตะวันออก 83%
- ภาคใต้ 90%
จับตาพื้นที่ภาคกลาง - กรุงเทพมหานคร รับน้ำเหนือ
เมื่อพิจารณาเขื่อนใหญ่ที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำสายสำคัญ ซึ่งจะกระทบต่อพื้นที่บริเวณภาคกลาง พบว่า
- เขื่อนภูมิพล จ.ตาก กั้นแม่น้ำปิง มีปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 97 ลดลง 0.4%
- เขื่อนสิริกิตติ์ จ.อุตรดิตถ์ กั้นแม่น้ำน่าน มีปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 97 ลดลง 0.3%
- เขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง กั้นแม่น้ำวัง มีปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 108 เพิ่มขึ้น 0.4%
- เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี กั้นแม่น้ำป่าสัก มีปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 104 เพิ่มขึ้นราว 0.4%
- เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก มีปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 100 ลดลง 0.29%
ในขณะที่ระดับน้ำ ณ สถานีระบายน้ำ สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 6 พฤศจิกายน พบว่า
รายงานค่าระดับน้ำแนวคันกั้นน้ำด้านตะวันออกวันนี้ ( 6 พฤศจิกายน 2568 ) มีวิกฤต 3 แห่งได้แก่
- ประตูระบายน้ำคลองสอง (สายใต้) (ระดับวิกฤติ +1.80) เวลา 07.00 น. ระดับ +1.39 ม.รทก. ระดับน้ำปกติ
- ประตูระบายน้ำแสนแสบ (มีนบุรี) (ระดับวิกฤติ +0.70) เวลา 07.00 น. ระดับ +0.52 ม.รทก. ระดับน้ำปกติ
- ประตูระบายน้ำลาดกระบัง (ระดับวิกฤติ +0.35) เวลา 07.00 น. ระดับ +0.30 ม.รทก. ระดับเตือนภัย
ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงสุดวานนี้ ( 5 พฤศจิกายน 2568 )
- สถานีสูบน้ำบางนา ระดับ +1.50 ม.รทก. เวลา 06.00 น.
- ประตูระบายน้ำปากคลองตลาด ระดับ +1.65 ม.รทก. เวลา 18.00 น.
- สถานีสูบน้ำบางเขนใหม่ ระดับ +1.92 ม.รทก. เวลา 18.00 น.
ปริมาณน้ำผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ ( 6 พฤศจิกายน 2568 )
- นครสวรรค์ 2,988 ลบ.ม./วินาที
- เขื่อนเจ้าพระยา 2,700 ลบ.ม./วินาที
- เขื่อนพระรามหก - ลบ.ม./วินาที
- สามโคก จ.ปทุมธานี (เฉลี่ย 2,230 ลบ.ม./วินาที)
ขณะที่สถานการณ์ฝน มีฝน ร้อยละ 20 ของพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร
กรมอุตุนิยมวิทยาเตือน วันที่ 7 พย. คัลแมกีเคลื่อนเข้าอุบลราชธานี
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ คัลแมกี วันนี้ (6 พ.ย. 2568) ซึ่งจะส่งผลต่อระดับน้ำในประเทศท่ามกลางการเฝ้าจับตาเนื่องจากปริมาณน้ำในไทยยังคงสูง ว่า
จากอิทธิพลของพายุ “คัลแมกี” ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 7–9 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยจะเริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 6–7 พ.ย. 68


