BDC เปิดแคมปัสดาต้าเซ็นเตอร์กว่า 100 ไร่พื้นที่ EEC ร่วม EWS วางระบบน้ำยั่งยืน
Bridge Data Centres ปักธงแคมปัสดาต้าเซ็นเตอร์ Hyperscale ที่ชลบุรี ร่วมมือ EWS วางระบบน้ำอุตสาหกรรมยั่งยืน หนุนไทยสู่ฮับดิจิทัลอาเซียน
KEY
POINTS
- Bridge Data Centres (BDC) ประกาศสร้างแคมปัสดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่กว่า 100 ไร่ในพื้นที่ EEC จังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับการเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
- ร่วมมือกับ อีสท์วอเตอร์ สเตคอน ยูทิลิตี้ส์ (EWS) ในข้อตกลงระยะยาว 10 ปี เพื่อจัดหาน้ำสำหรับอุตสาหกรรมให้แก่ศูนย์ข้อมูล
- ความร่วมมือนี้มุ่งเน้นการสร้างระบบน้ำที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นต้นแบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสีเขียว
“ศูนย์ข้อมูล” หรือ Data Centre ได้กลายเป็นหัวใจของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่รองรับการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ (AI) คลาวด์ และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่น ๆ หนึ่งในโครงการที่โดดเด่นที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือการลงทุนของ Bridge Data Centres (BDC) ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งประกาศสร้าง แคมปัสดาต้าเซ็นเตอร์ระดับ Hyperscale แห่งใหม่ในจังหวัดชลบุรี ภายในเขตโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) พร้อมจับมือกับ อีสท์วอเตอร์ สเตคอน ยูทิลิตี้ส์ (Eastwater Stecon Utilities – EWS) เพื่อจัดหาน้ำอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยมีกำหนดเริ่มดำเนินการตั้งแต่ พฤษภาคม 2569 เป็นต้นไป
ความร่วมมือที่เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล–สิ่งแวดล้อม–พลังงาน
ข้อตกลงความร่วมมือนี้มีระยะเวลา 10 ปี ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย โดย EWS ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Eastern Water Resources Management and Development Plc. (Eastwater) และ Stecon Power Co., Ltd. ในเครือ STECON Group จะเป็นผู้ผลิตและจัดส่งน้ำอุตสาหกรรมให้กับแคมปัสดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่นี้ โดยจัดสรรน้ำสูงสุดถึง 3.3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี หรือเฉลี่ยกว่า 9,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อรองรับความต้องการของแคมปัสดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่แห่งนี้ ซึ่งต้องใช้ปริมาณน้ำมหาศาลในการระบายความร้อนระบบเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
การร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงตอบโจทย์ความมั่นคงของระบบสาธารณูปโภคเท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับแนวทาง Sustainability by Design ของ BDC ที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพสูง ควบคู่กับการใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบ เช่น ระบบ Closed-loop Water System ซึ่งช่วยรีไซเคิลน้ำกลับมาใช้ซ้ำในการระบายความร้อน ลดการใช้น้ำใหม่ และลดรอยเท้าคาร์บอนของศูนย์ข้อมูลอย่างมีนัยสำคัญ
ชลบุรี พื้นที่ยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย
แคมปัสใหม่ของ BDC ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ (ราว 16 เฮกตาร์) ในตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมืองชลบุรี ซึ่งอยู่ในใจกลางเขต EEC พื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของประเทศ โดยโครงการนี้จะมีกำลังไฟฟ้าในเฟสแรกกว่า 200 เมกะวัตต์ และใช้เงินลงทุนรวมกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งเห็นว่าโครงการดังกล่าวมีบทบาทสำคัญต่อการยกระดับขีดความสามารถทางดิจิทัลของประเทศ และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในพื้นที่ EEC ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชลบุรีถูกเลือก ได้แก่ ความพร้อมด้านพลังงานและโครงข่ายไฟฟ้าคุณภาพสูง, ความมั่นคงด้านน้ำจากแหล่งผลิตของอีสท์วอเตอร์, และ โครงข่ายไฟเบอร์ออปติกที่เชื่อมโยงสู่กรุงเทพฯ และระยอง ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งต่อการเป็นศูนย์กลางประมวลผลข้อมูลระดับภูมิภาค
พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลเอเชีย
นายอีริค ฟาน (Eric Fan) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Bridge Data Centres กล่าวว่า “การมีระบบสาธารณูปโภคที่มั่นคงและยั่งยืนคือหัวใจของการดำเนินงานศูนย์ข้อมูลระดับโลก ความร่วมมือกับ EWS ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าจะสามารถขยายขนาดการให้บริการได้อย่างมีเสถียรภาพ รองรับเทคโนโลยี AI และการประมวลผลข้อมูลขั้นสูง รวมถึงสนับสนุนเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย”
ขณะเดียวกัน นายสัมพันธ์ ชนะบูรณาศักดิ์ กรรมการบริษัท Stecon Power กล่าวว่า
“EWS ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระดับภูมิภาคนี้ ความร่วมมือกับ BDC แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Eastwater และกลุ่ม STECON ในฐานะผู้นำด้านการบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจร ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านความมั่นคง คุณภาพ และมาตรฐานความยั่งยืนระดับโลก”
อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ไทย ก้าวต่อไปของเศรษฐกิจข้อมูล
ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยกำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด ตามกระแสการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่ต้องการพื้นที่รองรับ AI และระบบคลาวด์ที่ซับซ้อนมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ความท้าทายด้านทรัพยากร โดยเฉพาะ “น้ำ” กลายเป็นปัจจัยที่ต้องบริหารอย่างรอบคอบ
จากข้อมูลของหน่วยงานอุตสาหกรรม คาดว่าการใช้น้ำของศูนย์ข้อมูลไทยจะเพิ่มจาก 10.68 พันล้านลิตรในปี 2568 เป็น 15.62 พันล้านลิตรภายในปี 2573 ขณะที่ในพื้นที่ EEC ความต้องการใช้น้ำรวมอาจสูงถึง 3,615 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีภายในปี 2577 การวางแผนจัดสรรทรัพยากรน้ำจึงเป็น “ยุทธศาสตร์ใหม่ของเศรษฐกิจดิจิทัล” ซึ่ง BDC และ EWS กำลังสร้างต้นแบบให้เห็นเป็นรูปธรรม
ด้วยเหตุนี้ การบริหารจัดการน้ำจึงไม่ใช่เพียงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม แต่เป็น “ยุทธศาสตร์สำคัญ” ที่จะกำหนดทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลในอนาคต การจับมือกันระหว่าง BDC และ EWS จึงกลายเป็นโมเดลของ “โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสีเขียว” ที่จะเป็นต้นแบบให้กับผู้เล่นรายอื่น ๆ ในภูมิภาค
เส้นทางขยายของ BDC จากชลบุรีสู่ภูมิภาค
การลงทุนในชลบุรีเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ระดับภูมิภาคของ BDC ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Bain Capital ปัจจุบันบริษัทมีศูนย์ข้อมูลใน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย และไทย โดยตั้งเป้าขยายกำลังการให้บริการรวมทั่วโลกให้ถึง 3 กิกะวัตต์ (GW) ภายในปี 2573 เพื่อรองรับความต้องการจากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่มุ่งเน้นการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และ AI
แคมปัสใหม่ในชลบุรีจึงไม่ใช่เพียงโครงการลงทุน แต่คือ “หมุดหมายสำคัญของโครงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลไทย” ที่จะช่วยยกระดับประเทศสู่ศูนย์กลางดิจิทัลของอาเซียน สร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่สมดุลระหว่าง เทคโนโลยี–พลังงาน–สิ่งแวดล้อม และปักหมุดให้ EEC เป็น “Smart Infrastructure Zone” ที่พร้อมรองรับอนาคตของเศรษฐกิจข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ


