EEC EXPO 2025 เวทีนานาชาติ ยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางการลงทุนอนาคต

ทีเส็บและ สกพอ. ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนกว่า 100 หน่วยงาน จัดงาน "EEC EXPO 2025 – Opportunity for Prosperity" ซึ่งเป็นเวทีนานาชาติเพื่อแสดงศักยภาพของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีขั้นสูง และกลไกสนับสนุนการลงทุนแบบครบวงจร โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนที่สำคัญของภูมิภาค
 

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 สิงหาคม 2569 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ภายในงานมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อดึงดูดนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งการจัดเวทีเสวนาวิชาการในหัวข้อที่น่าสนใจ เช่น "Mega Project, Mega Impact เร่งเครื่องโครงสร้างพื้นฐานหลัก EEC ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย" และ "การขับเคลื่อนอนาคต EEC ด้วยพลังงานสะอาดและการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน" นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม Business Matching เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศได้พบปะและเจรจาธุรกิจกับภาคธุรกิจในพื้นที่ EEC โดยตรง

ไมซ์คือกลไกขับเคลื่อนยุทธศาสตร์

ดร. ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการทีเส็บ กล่าวว่า การใช้ไมซ์ (MICE) เป็นกลไกเชิงกลยุทธ์ถือเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของพื้นที่ โดยเฉพาะใน EEC ที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ ซึ่งงาน EEC EXPO 2025 นี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการบูรณาการไมซ์เข้ากับการพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างเวทีการเจรจาและจับคู่ธุรกิจระดับนานาชาติ ที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
 

ผลักดัน EEC สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งอนาคต
ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สกพอ. กล่าวเสริมว่า ภารกิจหลักของ สกพอ. คือการผลักดันให้ EEC ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งอนาคตของภูมิภาคตามวิสัยทัศน์ "EEC 2030 Vision: Driving Thailand's Economic Future" ซึ่งงานในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ดังกล่าว โดยเน้นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนา 5 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ ยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การแพทย์ครบวงจร การท่องเที่ยวคุณภาพสูง และอุตสาหกรรมดิจิทัล รวมถึงการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการลงทุนจากทั่วโลก

งาน EEC EXPO 2025 ไม่เพียงแต่นำเสนอความก้าวหน้าของโครงสร้างพื้นฐานและโครงการขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างนักลงทุนไทยและต่างชาติ เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน สอดคล้องกับแนวคิดของงานที่ว่า "เปิดประตูสู่อนาคตที่มั่งคั่งและยั่งยืนไปด้วยกัน"