รู้จัก “ขจรเกียรติ” ผู้อยู่เบื้องหลัง Smart City แปดริ้ว สู่อธิบดีกรมที่ดิน
เส้นทางข้าราชการที่ยาวนานของ "ขจรเกียรติ รักพานิชมณี" กับภารกิจพลิกโฉมฉะเชิงเทราสู่เมืองอัจฉริยะต้นแบบของประเทศ
จากผู้ว่าราชการจังหวัด สู่ตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 อนุมัติให้ นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ข้าราชการพลเรือนระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมที่ดิน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นับเป็นการก้าวสู่ตำแหน่งสำคัญในส่วนกลาง หลังสั่งสมประสบการณ์ยาวนานในระดับจังหวัด โดยเฉพาะบทบาทสำคัญในตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งมาแล้วถึง 2 สมัย
นายขจรเกียรติ วัย 59 ปี เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2508 ที่จังหวัดกำแพงเพชร จบการศึกษาปริญญาตรีด้านรัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทด้านพัฒนาการบริหารจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) อีกทั้งผ่านหลักสูตรสำคัญหลายหลักสูตรจากวิทยาลัยมหาดไทย อาทิ หลักสูตรนายอำเภอ รุ่นที่ 54 และหลักสูตรนักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 59
เส้นทางราชการที่ยาวไกล ครอบคลุมทั้งภูมิภาคและส่วนกลาง
นายขจรเกียรติเริ่มต้นเส้นทางข้าราชการในปี 2537 ในตำแหน่งปลัดอำเภอที่จังหวัดตรัง ก่อนจะเติบโตในสายบริหารมาอย่างต่อเนื่อง เคยดำรงตำแหน่งในสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย, สำนักงานจังหวัดสุราษฎร์ธานี, สุพรรณบุรี และต่อเนื่องสู่บทบาท รองผู้ว่าราชการจังหวัด ในหลายจังหวัด อาทิ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และนครปฐม
ต่อมาได้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด ถึง 5 จังหวัด ได้แก่ อ่างทอง, อุทัยธานี, นครศรีธรรมราช และฉะเชิงเทรา (2 สมัย) โดยแต่ละพื้นที่ นายขจรเกียรติได้แสดงผลงานเชิงประจักษ์ ทั้งด้านการพัฒนาเมือง การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก และการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม
ผลักดัน “Smart City ฉะเชิงเทรา” ยกระดับคุณภาพชีวิต
หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นคือการผลักดัน โครงการ Smart City ฉะเชิงเทรา ในสมัยดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งได้ลงนามความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มสิ่งแวดล้อมดิจิทัล ครอบคลุมด้านน้ำ อากาศ และขยะ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างโปร่งใส ถือเป็นโครงการต้นแบบที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์การบริหารแบบทันสมัยและตอบโจทย์ประชาชน
เกียรติประวัติและความไว้วางใจจากทุกภาคส่วน
นอกจากบทบาทในการบริหารจังหวัดแล้ว นายขจรเกียรติยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นประธานในพิธีสำคัญต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นพิธีออกรางวัลสลากกาชาดการกุศล, พิธีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือกิจกรรมวันเฉลิมพระชนมพรรษา โดยมีจุดยืนชัดเจนในหลักธรรมาภิบาล และการเป็นข้าราชการของแผ่นดินตามพระราโชวาทในหลวงรัชกาลที่ 10
ฉายา "ผู้ว่าฯ 3 แผ่นดิน" ที่ได้ของนายขจรเกียรติสะท้อนถึงการรับราชการในช่วงเวลาที่ผ่านมาการประคับประคองภารกิจราชการอย่างมีเสถียรภาพและประสิทธิภาพ
โปร่งใส ไร้หนี้สิน ทรัพย์สินกว่า 60 ล้านบาท
ตามข้อมูลจาก ป.ป.ช. นายขจรเกียรติได้แสดงบัญชีทรัพย์สินขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่ามีทรัพย์สินรวมกว่า 60 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน และมีรายได้ต่อปีประมาณ 1.1 ล้านบาท ครอบครองที่ดิน บ้าน รถยนต์ และอาวุธปืนตามกฎหมาย การเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสเช่นนี้ สะท้อนถึงความยึดมั่นในจริยธรรมของการเป็นข้าราชการระดับสูง
ขยับสู่บทบาทใหม่ในกรมที่ดิน ชูแนวทางปฏิรูป-ขับเคลื่อนนโยบาย
ในฐานะว่าที่ อธิบดีกรมที่ดิน นายขจรเกียรติได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า จะให้ความสำคัญกับการพัฒนากฎหมายที่ทันสมัย รับฟังข้อเสนอแนะจากบุคลากร และสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายไทยนิยม ยั่งยืน รวมถึงการเป็นกำลังเสริมให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทั่วประเทศ
บทสรุป ข้าราชการมืออาชีพที่ได้รับความไว้วางใจจากส่วนกลาง
จากเส้นทางอาชีพกว่า 3 ทศวรรษ นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตแบบมืออาชีพ มีวิสัยทัศน์ มีจริยธรรม และพร้อมรับความท้าทายใหม่ในการขับเคลื่อนภารกิจของกรมที่ดิน ในระดับชาติ
ขณะที่ประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรายังจดจำภาพของผู้ว่าฯ ที่ทำงานเพื่อพัฒนาเมืองอย่างต่อเนื่อง วันนี้ พร้อมแล้วที่จะยกระดับบทบาทขึ้นสู่ระดับนโยบาย เพื่อขับเคลื่อนประเทศด้วยประสบการณ์อันมั่นคงและมุมมองที่ทันสมัย


