ไทยเดินเกม Innovation Nation ดึงบิ๊กเทคลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์
รมว.ดิจิทัล ตั้งเป้าไทยเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยี ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ เผยกฎหมายส่งเสริมธุรกิจสตาร์ตอัปมีผลบังคับใช้ปีนี้ เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเปิดงาน Startup x Innovation Thailand Expo 2025 หรือ SITE 2025 ภายใต้แนวคิด “Global Innovation Partnership – AI & Sustainability : The Next Era of Innovation” เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้านนวัตกรรมในระดับภูมิภาค
โดยมุ่งส่งเสริมการเชื่อมต่อสตาร์ตอัปไทยกับเครือข่ายนานาชาติในเชิงยุทธศาสตร์ โดยมี ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ NIA และเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ อาทิ เยอรมัน ชิลี เข้าร่วม บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศรวมกว่า 350 แห่งมาจัดแสดงผลงานด้านสตาร์ตอัปและนวัตกรรมเต็มพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร
นายประเสริฐ กล่าวว่า งาน SITE 2025 คือมหกรรมนวัตกรรมและเครือข่ายสตาร์ตอัปไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เป็นงานที่ได้รวบรวมสุดยอดความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมล้ำสมัยจากผู้ประกอบการ และพลังขับเคลื่อนจากสตาร์ตอัปทั่วประเทศมาไว้ในที่เดียว นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการประกาศศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางแห่งนวัตกรรม
ที่สำคัญวันนี้คำว่า นวัตกรรม ไม่ใช่แค่คำศัพท์สวยหรูอีกต่อไป แต่เป็นกุญแจสำคัญที่จะพาเราไปสู่อนาคต ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ พัฒนาอุตสาหกรรม และแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนในสังคม
และแน่นอนว่าหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมเหล่านี้ คือสตาร์ตอัปและผู้ประกอบการนวัตกรรม ที่เป็นผู้กล้าที่พร้อมจะก้าวออกจากกรอบเดิมๆ กล้าที่จะฝันใหญ่ และกล้าที่จะลงมือทำ กล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่จะมาพลิกโฉมอุตสาหกรรมและสร้างแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างก้าวกระโดด ไปจนถึงขับเคลื่อนกลไกเศรษฐกิจเพื่ออนาคต
รัฐบาลไทยให้ความสำคัญและมีนโยบายที่ชัดเจนและมุ่งมั่นในการส่งเสริมนวัตกรรมและสตาร์ตอัป เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล โดยมีนโยบายและแนวทางที่สำคัญ คือประเทศไทยต้องเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมและยกระดับประเทศไทยให้เป็น "Innovation Nation" และเป็น "ศูนย์กลางนวัตกรรมในภูมิภาค" ที่สามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติและเป็นแหล่งรวมของสตาร์ตอัปที่มีศักยภาพ
รัฐบาลจะผลักดันกลุ่มเทคโนโลยีเป้าหมาย(High-Growth Technology Sectors) และสนับสนุนกลุ่มเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ AI เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลาง AI และ ความยั่งยืน (Sustainability) ในเอเชีย
โดยมีการดึงดูดการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกในการสร้าง Data Center ในประเทศไทย เพื่อรองรับการเติบโตของ AI ทั้งเรื่องของเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน รวมถึงเทคโนโลยีสีเขียว (Green Tech) เทคโนโลยีสะอาด (Clean Tech) และเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Tech) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ
ที่สำคัญรัฐบาลได้ดำเนินการปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจของสตาร์ตอัป โดยเฉพาะพระราชบัญญัติส่งเสริมธุรกิจสตาร์ตอัป ที่จะมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้
ซึ่งคาดหวังว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียน การระดมทุน และการขอรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อดึงดูดสตาร์ตอัปและนักลงทุนจากทั่วโลกตลอดจนการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้ทันสมัยและครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI, IoT และ Big Data
“รัฐบาลเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย เชื่อมั่นในความคิดสร้างสรรค์ เชื่อมั่นในพลังขับเคลื่อนนวัตกรรม และผมเชื่อมั่นว่างาน SITE 2025 จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ สร้างโอกาสทางธุรกิจ และเสริมสร้างศักยภาพด้านนวัตกรรมของประเทศไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับโลก รวมทั้งจะช่วยตอกย้ำให้ทั่วโลกเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่แข็งแกร่งในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม” รมว.ดิจิทัล กล่าว


