ครั้งแรกกับ “สวนผึ้งบนดาดฟ้า” โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ความหวานบนความยั่งยืน
“สวนผึ้งบนดาดฟ้า” ของโรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ กับเทรนด์ Urban Beekeeping เมื่อผึ้งกลายเป็นของขวัญล้ำค่าในเมืองใหญ่ และจุดเริ่มต้นของความยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์ ”Travel with Purpose” (การเดินทางท่องเที่ยวอย่างมีวัตถุประสงค)
ครั้งแรกที่ได้ลิ้มลองรสชาติของน้ำผึ้งที่เลี้ยงบนดาดฟ้าชั้น 33 ของโรงแรมคอนราด บอกคำเดียวว่า "ว้าวมาก" กับรสชาติหวานละมุนกำลังดี คือไม่หวานเกินไป (รสชาติดีมากๆ) เพิ่งรู้ว่าการเลี้ยงผึ้งแบบออแกนิค และใช้ผลไม้อย่างแตงโม ที่เป็น waste ของโรงแรมในแต่ละวันมาเลี้ยงผึ้งบนดาดฟ้า ประกอบกับดอกไม้นานาชนิดที่ปลูกเองทำให้ได้รสชาติน้ำผึ้งดีขนาดนี้
โพสต์ทูเดย์ชวนไปเชยชม "สวนผึ้งบนดาดฟ้า" แห่งแรกของโรงแรมใจกลางเมือง ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ต้องบอกเลยว่าโครงการนำร่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งผลิตน้ำผึ้งคุณภาพสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ และการมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้เข้าพัก ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนทั่วโลก
จุดเริ่มต้นของความยั่งยืน "Travel with Purpose" และความร่วมมือกับ "จันทร์อรุณ ฟาร์มผึ้ง"
โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ได้ริเริ่มโครงการนี้ภายใต้กลยุทธ์ระดับโลกของเครือฮิลตัน "Travel with Purpose" ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบในทุกมิติ เพื่อยกระดับความยั่งยืนและลดผลกระทบทางสังคม โครงการสวนผึ้งบนดาดฟ้าแห่งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือกับ "จันทร์อรุณ ฟาร์มผึ้ง" จังหวัดเพชรบุรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงผึ้งเชิงอนุรักษ์ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี โดยเริ่มต้นติดตั้งระบบครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2567 และประสบความสำเร็จจนสามารถเปิดให้เข้าเยี่ยมชมได้ในปัจจุบัน (รวมระยะเวลาราวหนึ่งปีครึ่ง)
มร. ทิโมธี เซนสเบอรี ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมคอนราด กรุงเทพ กล่าวว่า “การประสานความร่วมมือกับจันทร์อรุณฟาร์มผึ้งครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นค่านิยมที่เรามีร่วมกันในด้านการดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืน การส่งเสริมการเรียนรู้ และการมีส่วนร่วมของชุมชน สวนผึ้งบนดาดฟ้าของเรามิใช่เพียงโครงการริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อม หากแต่เป็นภาพสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโรงแรมคอนราด กรุงเทพ และทีมงานทุกคนที่ต้องการส่งเสริมและแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในเขตเมืองให้คงอยู่ไว้อย่างแท้จริง”
"สวนผึ้งบนดาดฟ้า" นวัตกรรมสีเขียวกลางเมือง
สวนผึ้งแห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ที่ระดับความสูง 115.5 เมตรจากพื้นดิน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 72 ตารางเมตร ซึ่งเป็นทำเลที่เหมาะสมอย่างยิ่งเนื่องจากได้รับแสงอาทิตย์อ่อนยามเช้า มีแสงแดดธรรมชาติส่องถึงตลอดทั้งวัน และมีกระแสลมพัดผ่านอย่างคงที่ตามธรรมชาติ
สวนผึ้งประกอบด้วยรังผึ้งจำนวน 5 รัง แต่ละรังมีผึ้งพันธุ์ Apis mellifera หรือผึ้งยุโรป จำนวน 25,000 ถึง 30,000 ตัว ผึ้งสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในทวีปแอฟริกา การดูแลสวนผึ้งจะดำเนินการสัปดาห์ละสองครั้ง โดยทีมเลี้ยงผึ้งมืออาชีพและทีมงานของโรงแรมฯ เพื่อตรวจเช็คความสมบูรณ์ของน้ำ อาหาร และสภาพแวดล้อม เพื่อให้มั่นใจถึงสุขภาพของราชินีผึ้งและความเป็นอยู่ของฝูงผึ้ง ให้สามารถผลิตน้ำผึ้งได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
การเก็บน้ำผึ้งสามารถทำได้ทุก 4-5 เดือน และให้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 25-30 กิโลกรัมต่อรอบการเก็บเกี่ยว การบริหารจัดการและกำหนดรอบการเก็บเกี่ยวอย่างพิถีพิถันนี้เองที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโรงแรมฯ ในการผลิตน้ำผึ้งคุณภาพสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางที่สนับสนุนเป้าหมายของกลยุทธ์ "Travel with Purpose" ที่ต้องการส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม
น้ำผึ้งจากยอดตึก สู่จานอาหารและบริการสุดพิเศษ
น้ำผึ้งที่เก็บเกี่ยวจากสวนผึ้งบนดาดฟ้าของโรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ จะถูกนำมาใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการประกอบอาหารของห้องอาหารภายในโรงแรมฯ ภายใต้การนำของเชฟไรอัน ดาดูฟาลซ่า เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ และเชฟซิโมเน โพเซอร์ ผู้ช่วยเอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ
เชฟไรอัน ดาดูฟาลซ่า กล่าวว่า "ในฐานะเชฟและคนทำอาหาร ผมมักมองหาวัตถุดิบที่มีเรื่องราวในตัวเอง และน้ำผึ้งถือเป็นหนึ่งในของขวัญจากธรรมชาติที่น่าทึ่งที่สุด การมีสวนผึ้งของเราเองบนดาดฟ้า เปิดโอกาสให้เราได้ทำงานกับวัตถุดิบที่ไม่เพียงแต่สดใหม่ และหาได้จากแหล่งผลิตใกล้ตัวเท่านั้น หากแต่ยังเปี่ยมไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งอีกด้วย"
นอกจากนี้ โรงแรมฯ ยังมีแผนจัดกิจกรรมเพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษแก่ผู้เข้าพักผ่านกิจกรรม "คอนราด โมเมนต์" ที่มีผึ้งและน้ำผึ้งเป็นส่วนประกอบ เช่น ชุดของขวัญต้อนรับสำหรับผู้เข้าพักในห้องสวีท เมนูอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากน้ำผึ้งในห้องอาหารต่างๆ เช่น ห้องอาหารจีนหลิว, ห้องอาหารญี่ปุ่นคิซาระ, ห้องบริการอาหารเช้าคาเฟ่ แอท ทู และดิโพลแมท บาร์ ตลอดจนบริการสปาที่นำประโยชน์และคุณค่าจากน้ำผึ้งธรรมชาติมาช่วยเสริมสร้างความผ่อนคลายอย่างล้ำลึก
ผู้เข้าพักยังมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ เช่น การเดินชมสวนผึ้งอย่างใกล้ชิดพร้อมผู้ให้คำแนะนำ การชิมน้ำผึ้ง และกิจกรรมเวิร์กช็อปที่จะเกิดขึ้นและเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของผึ้ง และให้ผู้ที่สนใจเข้าถึงและเข้าใจได้อย่างง่ายดาย
สวนผึ้งบนดาดฟ้า ปรากฏการณ์ที่กำลังเติบโตทั่วโลก
โครงการสวนผึ้งบนดาดฟ้าของโรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียวในระดับโลก แต่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเลี้ยงผึ้งบนดาดฟ้าหรือ Urban Beekeeping กำลังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างโรงแรมและองค์กรทั่วโลกที่นำร่องโครงการคล้ายกัน:
Fairmont Hotels (ทั่วโลก): เป็นหนึ่งในเครือโรงแรมที่บุกเบิกการเลี้ยงผึ้งบนดาดฟ้ามานานหลายปี โดยมีรังผึ้งบนดาดฟ้าในโรงแรมหลายแห่งทั่วโลก เช่น Fairmont Royal York ในโตรอนโต และ The Plaza Hotel ในนิวยอร์กซิตี้ น้ำผึ้งที่ได้จะนำมาใช้ในห้องอาหารและสปาของโรงแรม
Waldorf Astoria Chicago (สหรัฐอเมริกา): มีสวนผึ้งบนดาดฟ้าที่ผลิตน้ำผึ้งสำหรับใช้ในร้านอาหารและบาร์ของโรงแรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน
Mandarin Oriental Paris (ฝรั่งเศส): โรงแรมหรูแห่งนี้มีรังผึ้งบนดาดฟ้าเช่นกัน โดยน้ำผึ้งที่ผลิตได้จะถูกนำไปใช้ในอาหารและเครื่องดื่มของโรงแรม
Operation HoneyBee (สหราชอาณาจักร): เป็นองค์กรที่ส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งในเขตเมือง โดยร่วมมือกับธุรกิจต่างๆ ในลอนดอนเพื่อติดตั้งรังผึ้งบนดาดฟ้าและพื้นที่ว่าง
โครงการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มจำนวนประชากรผึ้ง ซึ่งเป็นผู้ผสมเกสรที่สำคัญต่อระบบนิเวศ แต่ยังช่วยสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของผึ้ง และส่งเสริมแนวคิดเกษตรกรรมในเมือง (Urban Farming) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ความท้าทายและการรับรองมาตรฐาน
การปรับแนวทางการเลี้ยงผึ้งแบบดั้งเดิมให้เข้ากับบริบทของพื้นที่ดาดฟ้าในเมืองนั้นมีความท้าทายหลายประการ เช่น การจัดหาแหล่งอาหารที่เพียงพออย่างสม่ำเสมอสำหรับฝูงผึ้ง และการบริหารจัดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผึ้งกับผู้เข้าพักโรงแรมฯ อย่างไรก็ตาม ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบ อาทิ การปลูกพืชดอกที่อุดมไปด้วยน้ำหวาน และการใช้สารไล่แมลงจากธรรมชาติ ทีมงานของโรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของรังผึ้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งสำคัญอีกประการคือ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ. 2535 จากสำนักงานเขตปทุมวันอย่างเป็นทางการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจของโรงแรมฯ ในการรักษามาตรฐานสูงสุดด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยในกระบวนการเลี้ยงผึ้ง โดยให้ความสำคัญกับการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านสาธารณสุขในพื้นที่อย่างครบถ้วน
อนาคตที่ยั่งยืน แรงบันดาลใจจากผึ้งตัวจิ๋ว
สวนผึ้งบนดาดฟ้าของโรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ เป็นมากกว่าโครงการด้านสิ่งแวดล้อม แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของโรงแรมฯ ที่สอดคล้องกับแนวโน้มด้านการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ใส่ใจ และมีส่วนร่วมต่อการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยให้ความสำคัญต่อการบริการที่ส่งเสริมสุขภาพและการใช้ชีวิตอย่างสมดุลเป็นสำคัญ
มร. ทิโมธี เซนสเบอรี กล่าวเสริมว่า "โครงการนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแผนงานระยะยาวในการสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรม ตลอดจนการนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ที่มีความเกี่ยวโยงกับการเลี้ยงผึ้งและจากผลิตภัณฑ์ที่ได้จากผึ้ง ให้กับผู้เข้าพักและผู้มาใช้บริการภายในโรงแรมฯ"
ความร่วมมือระหว่างโรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ กับจันทร์อรุณ ฟาร์มผึ้ง ภายใต้แนวคิดและกลยุทธ์ Travel with Purpose ของกลุ่มโรงแรมเครือฮิลตัน สามารถสร้างพื้นที่และศูนย์การเรียนรู้ สร้างสรรค์ประสบการณ์และแรงบันดาลใจ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ปลอดภัย บนพื้นที่เล็กๆ ใจกลางกรุงเทพมหานครแห่งนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
โปรโมชั่นห้องอาหารโรงแรมคอนราด กรุงเทพ (Conrad Bangkok) กับบัตรเครดิต KTC
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC VISA
รับส่วนลดสูงสุด 35%
สูงสุด 10 ท่าน/บัตรฯ/ครั้ง
ระยะเวลาโปรโมชั่น 1 ม.ค. 68 - 31 ธ.ค. 68
ห้องอาหารจีน LIU
รับส่วนลด 35% สำหรับอาหารเมนู A La Carte มื้อกลางวัน และ All You Can Eat ติ่มซำมื้อกลางวัน และเครื่องดื่มทุกประเภท
รับส่วนลด 30% สำหรับอาหารเมนู A La Carte มื้อค่ำ และ เครื่องดื่มทุกประเภท
ห้องอาหารญี่ปุ่น KiSara
รับส่วนลด 35% สำหรับอาหาร มื้อกลางวัน และ มื้อค่ำ (Set menu , Kaiseki , Teppanyaki และ a la carte) และ เครื่องดื่มทุกประเภท
ห้องอาหาร Diplomat Bar
รับส่วนลด 30% สำหรับ Afternoon Tea, ค่าอาหารเมนู A La Cart และ เครื่องดื่มทุกประเภท
ชุดน้ำชายามบ่าย “มนต์เสน่ห์แห่งเกาหลี” (The Soul of Korea) ให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. – 31 ส.ค. 68
พิเศษ 1,284 บาทสุทธิสำหรับ 2 ท่าน (ปกติ 1765.50 บาท)


