ธุรกิจอสังหาฯ เร่งฟื้นเชียงใหม่ เปิดคอมมูนิตี้ 50 ล้านกลางเมือง

หลังจากโลดแล่นในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มากว่า 15 ปี เริ่มจากโรงแรมบูติกขนาด 12 ห้องในเชียงใหม่ ต่อด้วยการพัฒนาคอนโดมิเนียมทั้งเพื่อขายและให้เช่า รวมถึงโปรเจกต์รีโนเวตอีกมากมาย มาถึงตอนนี้ “หญิง-วัจนารัตน์ บัววิรัตน์เลิศ” นักธุรกิจผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ กำลังจะเปิดตัวโครงการใหม่ในชื่อ Carpenter Avenue คอมมูนิตี้สเปซแห่งใหม่กลางเมืองเชียงใหม่ ย่านโชตนา

 

“เชียงใหม่มีทั้งนักท่องเที่ยวระยะสั้นและผู้พักอาศัยระยะยาว แต่กลับขาดแคลนพื้นที่ที่ให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตผ่อนคลาย ไม่ใช่แค่ศูนย์การค้าหรือคาเฟ่สวย ๆ” 

 

เธอเล่าว่า จากการใช้ชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตในฐานะเป็นคนเชียงใหม่ โดยกำเนิด เธอมองเห็นช่องว่างบางอย่าง แม้จะเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวหลากหลายชาติและกลุ่มผู้อยู่อาศัยระยะยาวเพิ่มขึ้นแต่ยังขาด “พื้นที่ใช้ชีวิต” ที่ไม่ใช่แค่ศูนย์การค้า หรือคาเฟ่ฮิป ๆ

 

โครงการ Carpenter Avenue จึงถือกำเนิดขึ้น บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ ไม่ไกลจากย่านนิมมานและถนนโชตนา โดยออกแบบให้เป็น Community Space ที่ผสานความเป็นธรรมชาติ เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย โดยทุ่มงบประมาณในการพัฒนา และรีโนเวท 50 ล้านบาท 
 

 

แนวคิดของ Carpenter Avenue เริ่มจากการมีที่ดินที่ในย่านโชตนา เล็งศักยภาพสูงในการเป็นมากกว่าพื้นที่เชิงพาณิชย์อย่างเดียว แต่มันสามารถเป็นพื้นที่สร้างสรรค์และมีชีวิต ได้จริงเชียงใหม่เองเป็นเมืองที่มีจังหวะชีวิตที่ลงตัวระหว่างธรรมชาติและความทันสมัย จึงตั้งใจสร้างที่นี่ให้เป็นเหมือน ‘แฮงก์เอ้าท์กลางธรรมชาติ’ ที่คนจะได้มาเจอร้านอาหารท้องถิ่นจากที่ต่าง ๆ คาเฟ่ดี ๆ พื้นที่เวลเนส รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ บนพื้นที่โปร่ง โล่ง สบาย ได้ยินเสียงนก ได้กลิ่นหญ้า คือ มาแล้วรู้สึกรีเฟรชทั้งกายและใจ ประกอบกับพฤติกรรมคนในปัจจุบัน เริ่มมองหาสถานที่ฮีลใจ ใกล้ชิดธรรมชาติ เพื่อผ่อนคลายเครียดจากเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว

 

โดยเธออธิบายเพิ่มว่าโครงการถูกพัฒนาบนพื้นที่ 5,000 ตารางเมตรของโครงการ เป็นพื้นที่สีเขียวไปแล้ว 3,000 ตารางเมตร ส่วนอีก 2,000 ตารางเมตรเป็นพื้นที่สำหรับดำเนินธุรกิจและกิจกรรมต่างๆ โดยแบ่งออกเป็น 4 โซนที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน อาทิ

• Local Canteen: ร้านอาหาร ของกิน ของอร่อย ของผู้ประกอบการแบรนด์ไทย และแบรนด์ท้องถิ่น มารวมตัวกันในบรรยากาศที่คล้ายโรงอาหาร นั่งสบาย และสถานที่สวยงามใกล้ชิดธรรมชาติ
• Natural Space: พื้นที่เพื่อธุรกิจ ใต้ต้นไม้ใหญ่และหญ้าสีเขียว ในบรรยากาศป่ากลางเมือง เหมาะกับร้าน คาเฟ่ อาหารสุขภาพ กาแฟ หรือ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
• Wellness Zone: พื้นที่ใหญ่กว่า 450 ตารางเมตร ขนาด 2 ชั้น เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้คนพร้อมเปิดเป็นพื้นที่สำหรับคลินิคและศูนย์สุขภาพ
• Event Space: พื้นที่จัดงานอีเว้นท์ งานแต่งงาน ในบรรยากาศร่มรื่นพื้นหลังเป็นต้นไม้สีเขียวและ คลาวด์ คิทเช่นเหมาะสำหรับการเป็น Kitchen Studio, Cooking Class และจัดอบรมพนักงาน

 

เธอเสริมอีกว่า คนสมัยนี้อาจมีลูกน้อยลง แต่เลี้ยงสัตว์มากขึ้น ด้วยความเข้าใจเทรนด์นี้ โครงการจึงออกแบบให้ Pet Friendly และยังมีจุดเด่นที่หาได้ยากในเมือง คือ ที่จอดรถรองรับได้กว่า 100 คัน บนพื้นที่พาณิชย์ไม่ถึง 2 ไร่

 

• หนุนผู้ประกอบการท้องถิ่น ลดค่า GP 20% 

 

แม้จะอยู่ในวงการอสังหาฯ ที่แข่งขันดุเดือด แต่เธอบอกว่า โครงการแห่งนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท้องถิ่น และ SME ได้เติบโตร่วมกัน เช่น การให้ใช้พื้นที่จัดงานเพื่อประโยชน์ของชุมชน ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่รักษาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม การจัดตลาด Farmer Market และจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเกือบทุกเดือน เพื่อช่วยร้านค้าสร้างการรับรู้และรายได้ โดยในระยะแรก Carpenter Avenue ตั้งเป้าหมายที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่น จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ด้วยมาตรการลดค่า GP เหลือเพียง 20% เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนในช่วงเริ่มต้น 

 

หากมาตรการนี้ได้รับการตอบรับที่ดี ทางโครงการมีแผนขยายระยะเวลาและเพิ่มขอบเขตการสนับสนุนต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ เพราะเข้าใจดีว่าผู้ประกอบการรายย่อยกำลังเผชิญกับความท้าทายในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน จึงต้องการมีส่วนร่วมเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนในการผลักดันให้ธุรกิจเหล่านี้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

 

เป้าหมายให้โครงการมีผู้ประกอบการหมุนเวียนรวม 200 รายต่อปี แบ่งเป็นร้านประจำและแบบ Pop-up & Event ซึ่งจะช่วยให้ที่นี่ไม่หยุดนิ่ง และมีของใหม่ตลอดเวลา และตั้งเป้าผู้ใช้บริการ 20,000 คนต่อปี

 

• มั่นใจเชียงใหม่ยังเติบโตได้

 

แม้จะอยู่ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และปัจจัยลบทั้งภายในและภายนอกประเทศ แต่ วัจนารัตน์ กลับเลือกเดินหน้าเปิดตัวโครงการ Carpenter Avenue อย่างมั่นใจ ด้วยเหตุผลสำคัญสองประการ 

 

หนึ่งคือ “แพชชั่น” ที่เธอมีต่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และสองคือ “ศรัทธาในศักยภาพของเชียงใหม่” เมืองที่เธอมองว่ายังสามารถเติบโตได้อีกมาก

 

“นอกจากจะเป็นเมืองยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ คนไทยเองก็ยังหลงรักเชียงใหม่ และเลือกมาพักผ่อนหรืออยู่อาศัยระยะยาว รวมถึงเทรนด์การย้ายถิ่นฐานเพื่อหาคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ทำให้เชียงใหม่กลายเป็นจุดหมายของคนรุ่นใหม่ ครอบครัวต่างชาติ และชาวไทยที่มองหาวิถีชีวิตแบบสมดุล ซึ่งสะท้อนผ่านจำนวนโครงการอสังหาฯ ที่ผุดขึ้นมากมาย รวมถึงการเติบโตของธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติที่มีราว ๆ เกือบ 10 แห่งแล้วในขณะนี้”

 

ข้อมูล ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2568 ระบุว่า ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เชียงใหม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 1.4 ล้านคน แม้จะลดลงเล็กน้อยจากปีก่อน แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลขที่แข็งแรง ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเติบโตสวนทาง โดยเพิ่มขึ้นถึง 6.47% คิดเป็นจำนวนกว่า 3.77 ล้านคน และสร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึง 8.84% มาอยู่ที่ 28.82 ล้านบาท

 

“ต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวจีนลดลง แต่เราก็เห็นการเข้ามากลุ่มใหม่ ๆ  เช่น อินเดีย ตะวันออกกลาง  เกาหลี มาเลเซีย และยุโรป โดยเฉพาะเกาหลีใต้ที่นิยมเข้ามาตีกอล์ฟ หรือนักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมจากฝั่งตะวันตก” 

 

จากแนวโน้มดังกล่าว Carpenter Avenue จึงวางกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นคนเชียงใหม่ 50%, นักท่องเที่ยวไทย 30% และชาวต่างชาติ 20% พร้อมวางตำแหน่งให้เป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงธรรมชาติเข้ากับไลฟ์สไตล์ในเมือง รองรับทั้งกลุ่ม Long Stay, Digital Nomad และนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

 

• เชียงใหม่: จุดหมายแห่งสุขภาพและอนาคต

 

นอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ วัจนารัตน์ยังมองเห็น “อนาคตของเชียงใหม่” ในฐานะ Wellness Destination และ Medical Hub ที่พร้อมรองรับกลุ่มผู้สูงวัยและคนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

 

หากสามารถวางกลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการขยายฐานนักท่องเที่ยวจากอินเดีย เกาหลีใต้ ตะวันออกกลาง และยุโรป เชียงใหม่ก็มีโอกาสแตะเป้าหมายนักท่องเที่ยว 16 ล้านคนภายในปี 2568 ตามเป้าหมายของจังหวัดได้ไม่ยาก

 

“เชียงใหม่ไม่ใช่แค่เมืองท่องเที่ยว แต่กำลังกลายเป็นเมืองที่ผู้คนเลือกใช้ชีวิตในระยะยาว เราจึงอยากสร้างพื้นที่ที่คนมาแล้วรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย และอยากกลับมาอีกครั้ง” 

อย่างไรก็ตาม โครงการ Carpenter Avenue มีกำหนดเปิด Soft Opening ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ โดยตั้งเป้าดึงผู้ประกอบการร้านค้าทั้งขนาดเล็กและกลางเข้าร่วมทดลองตลาด จำนวน 20–50 ราย ซึ่งจะเป็นก้าวแรกของการสร้าง “ชุมชนสร้างสรรค์” แห่งใหม่ ที่ไม่ได้เน้นแค่การค้า แต่ยังมุ่งเป็นแพลตฟอร์มส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น 

 

สำหรับ วัจนารัตน์ บัววิรัตน์เลิศ เป็นบุตรสาวคนโตของโหรชื่อดัง วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เธอจบการศึกษาจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มต้นธุรกิจของตัวเองจากสถาบันดนตรีชิค มิวสิค สตูดิโอ จากนั้นทำธุรกิจที่พักอาศัยสร้างเป็นโรงแรมขนาด 12 ห้อง ชื่อว่า “9w boutique Studio” ก่อนจะขยายธุรกิจอสังหาฯ ในรูปแบบที่อยู่อาศัยทั้งในรูปแบบคฤหาสต์หรู “ฮิมมา เพรสทีจ ลิฟวิ่ง” และคอนโดมิเนียมเหนือเมฆ “W.Himma Wood Garden Condominium” ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น Director Carpenter Avenue