จับตาภารกิจ SeaChange®2030 ในวันที่ทะเลโลกมีขยะพลาสติกเกือบ 200 ล้านตัน!
ไทยยูเนี่ยน-ไอ-เทล ผนึกกำลังดูแลทะเล จัดกิจกรรมเก็บขยะทะเลครั้งใหญ่ ที่สมุทรสาคร เนื่องในวันมหาสมุทรโลก ส่วนหนึ่งของภารกิจ SeaChange®2030 ตั้งเป้าลดขยะพลาสติกในทะเล 1,500 ตัน ภายในปี 2573
ป่าชายเลนทุกแห่งในโลกกำลังกลายเป็นที่รองรับขยะของมนุษย์ที่หลั่งไหลออกสู่ทะเลและมหาสมุทรในแต่ละปี เราไม่รู้ว่าจำนวนขยะมหาศาลที่แน่ชัดในแต่ละปีว่ามีจำนวนมากขนาดไหน แต่หากใครได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง เมื่อกระแสน้ำพัดพาขยะเหล่านั้นเข้ามาติดอยู่ตามดินเลน โคลนอันเหนียวหนึบ และตามรากของต้นโกงกางใบเล็ก ใบใหญ่ แสมขาว และพืชที่สร้างป่าชายเลนจำนวนมหาศาลจะรู้ว่า ขยะที่ย่อยสลายได้ยากเหล่านี้ โดยเฉพาะเศษพลาสติก รองเท้า ขวดเครื่องดื่มชูกำลัง และโฟมจำนวนมหาศาล ไม่อาจยักย้ายถ่ายเทไปไหนได้หากไม่มีมนุษย์ที่สร้างขยะเหล่านี้ออกแรงกำลังมาช่วยกันขนย้ายพวกมันออกไป ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม...
ที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก และ บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำระดับโลก ได้ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร จัด “โครงการเก็บขยะทะเลเพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เนื่องในวันมหาสมุทรโลก” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ภายใต้ความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนรวมกว่า 350 ชีวิต
วันมหาสมุทรโลก หัวใจของการอนุรักษ์
ทุกวันที่ 8 มิถุนายนของทุกปี โลกของเราจะร่วมกันเฉลิมฉลอง "วันมหาสมุทรโลก" (World Oceans Day) ซึ่งเป็นวันที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อย้ำเตือนถึงความสำคัญของมหาสมุทรต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก และกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาและภัยคุกคามต่างๆ ที่มหาสมุทรต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นมลพิษทางทะเล การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือการประมงเกินขนาด กิจกรรมในวันนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการตอบรับเสียงเรียกร้องจากมหาสมุทร โดยมุ่งเน้นการลงมือทำจริงเพื่อฟื้นฟูและปกป้องทรัพยากรทางทะเลอันล้ำค่า และแม้จะเป็นเพียงจุดเล็กๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่ฟ้องโลกว่า มีผู้คนที่ตระหนักรู้และได้ลงมือจัดการปัญหานี้ร่วมกันอยู่จริงๆ
SeaChange®2030 พันธกิจเพื่อท้องทะเลที่ยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน
โครงการเก็บขยะทะเลครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange®2030 ของไทยยูเนี่ยน ซึ่งมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการลดขยะพลาสติกในทะเลไม่ให้ปนเปื้อนสู่แม่น้ำลำคลองและทะเลให้ได้ถึง 1,500 ตัน ภายในปี 2573
นายปราชญ์ เกิดไพโรจน์ ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืน ธุรกิจ Pet Feed และ Marine Ingredient บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เน้นย้ำว่า ในฐานะบริษัทอาหารทะเลชั้นนำระดับโลก ความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ
"ปัจจุบันมีขยะพลาสติกเกือบ 200 ล้านตันในท้องทะเล ที่เกิดจากการทิ้งขยะพลาสติกลงสู่ท้องทะเล ท่อระบายน้ำ และการกำจัดขยะที่ไม่ถูกต้อง" นายปราชญ์กล่าว "หนึ่งในพันธกิจของไทยยูเนี่ยน ภายใต้กลยุทธ์ SeaChange®2030 คือการจัดการขยะพลาสติกกว่า 1,500 ตัน ไม่ให้ปนเปื้อนสู่แม่น้ำลำคลองและท้องทะเล ภายในปี 2573 โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าชายเลนซึ่งเป็นพื้นที่กักเก็บขยะทะเล"
ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา (2564-2567) โครงการเก็บขยะทะเลของไทยยูเนี่ยนได้ระดมพลังอาสาสมัครและพันธมิตรจากทั่วทุกมุมโลก ร่วมเก็บขยะได้มากถึง 25,171 กิโลกรัม หรือกว่า 25 ตัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปริมาณขยะจำนวนมากที่อยู่ในท้องทะเล การดำเนินการอย่างต่อเนื่องนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะในทันที แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมสร้างจิตสำนึกที่ดีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
การขยายเครือข่ายความร่วมมือระดับโลก
ในปีนี้ โครงการเก็บขยะเนื่องในวันมหาสมุทรโลกของไทยยูเนี่ยนได้ขยายเครือข่ายความร่วมมือไปสู่ 11 ประเทศ ใน 4 ทวีป ได้แก่ ไทย สหรัฐอเมริกา กานา เซเชลส์ สหราชอาณาจักร นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี โดยเน้นการเก็บขยะในพื้นที่สำคัญ เช่น ป่าชายเลน แม่น้ำ ชายหาด และบริเวณใกล้เคียงกับโรงงานของไทยยูเนี่ยน การขยายขอบเขตการดำเนินงานในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยยูเนี่ยนในการแก้ไขปัญหามลพิษทางทะเลในระดับโลก และการสร้างการมีส่วนร่วมจากชุมชนท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังตั้งเป้าให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าของบริษัท 100 เปอร์เซ็นต์ จะต้องใช้ บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ภายในปี 2568 และจะสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ผลิตให้กับคู่ค้าอย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นต์ ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนเช่นกัน รวมถึงการทำงานร่วมกับองค์กร Global Ghost Gear Initiative (GGGI) อย่างใกล้ชิด เพื่อลดปัญหาการทิ้งอุปกรณ์จับปลาในท้องทะเลทั่วโลก
นางสาวศุภวดี สิทธิจำเริญคุณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ไอ-เทล ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครมาอย่างยาวนาน และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนมาโดยตลอด โดยเฉพาะการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาขยะทะเลอย่างยั่งยืน เพราะเราเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนมาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ตลอดจนอาสาสมัคร"
การจัดการขยะอย่างยั่งยืน
ขยะที่เก็บรวบรวมได้จากโครงการทั้งหมดจะถูกนำไปคัดแยกและจดบันทึกตามแนวทางของ International Coastal Cleanup (ICC) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการเก็บข้อมูลขยะทะเล ขยะที่สามารถรีไซเคิลได้จะถูกส่งมอบให้บริษัทจัดการขยะในพื้นที่เพื่อนำไปแปรรูปอย่างเหมาะสม ส่วนขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้จะถูกส่งต่อผ่านหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวของส่งไปยังบริษัทที่รับแปรสภาพขยะเพื่อนำไปทำเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นกระบวนการที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน
ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนความมุ่งมั่นของไทยยูเนี่ยนและไอ-เทล ในการสร้างความยั่งยืน แต่ยังเป็นแบบอย่างที่ดีของการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการร่วมกันดูแลรักษามหาสมุทร ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญของโลก เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน